คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ป้องกันตนเอง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 132 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเองและการป้องกันทรัพย์สิน: โจทก์ต้องพิสูจน์ความผิด แม้จำเลยจะให้การภาคเสธ
คดีที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปแม้จำเลยจะให้การภาคเสธรับว่าได้ใช้ปืนยิงผู้ตายโดยป้องกันชีวิตและทรัพย์ก็ยังเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้เป็นที่พอใจของศาลว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง
เมื่อจำเลยนำสืบได้ว่าผู้ตายกับพวกเป็นคนร้ายปล้นโคของจำเลยและขู่ว่าจะทำร้ายจำเลยๆ จึงใช้ปืนยิงผู้ตายดังนี้ย่อมถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1570/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อป้องกันตนเองในการร้องทุกข์ ไม่ถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
ข้าราชการร้องทุกข์ต่อผู้บังคับบัญชาว่าเพื่อข้าราชการด้วยกันด่าว่าและได้กล่าวถึงความประพฤติเสียหายของเพื่อนข้าราชการผู้นั้นประกอบคำร้องทุกข์ไปด้วย ข้าราชการผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้คัดค้าน ความเท็จจริงแห่งคำร้องทุกข์นั้นไว้ในชั้นดำเนินคดีแต่ประการใด คำร้องทุกข์นั้นจึงถือได้ว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตในการแสดงความชอบธรรมของตนหรือในการที่จะต้องต่อสู้หรือป้องกันตนหรือในการป้องกันประโยชน์อันชอบด้วย ก.ม. ไม่ผิดฐานหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1570/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร้องทุกข์กล่าวหาความประพฤติเพื่อนร่วมงานโดยสุจริตเพื่อป้องกันตนเอง ไม่ถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
ข้าราชการร้องทุกข์ต่อผู้บังคับบัญชาว่าเพื่อนข้าราชการด้วยกันด่าว่าและได้กล่าวถึงความประพฤติเสียหายของเพื่อนข้าราชการผู้นั้นประกอบคำร้องทุกข์ไปด้วย ข้าราชการผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้คัดค้านความเท็จจริงแห่งคำร้องทุกข์นั้นไว้ในชั้นดำเนินคดีแต่ประการใด คำร้องทุกข์นั้นจึงถือได้ว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตในการแสดงความชอบธรรมของตนหรือในการที่จะต้องต่อสู้หรือป้องกันตนหรือในการป้องกันประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย ไม่ผิดฐานหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1570/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร้องทุกข์กล่าวหาความประพฤติเพื่อนร่วมงาน ไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาท หากเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อป้องกันตนเอง
ข้าราชการร้องทุกข์ต่อผู้บังคับบัญชาว่าเพื่อนข้าราชการด้วยกันด่าว่าและได้กล่าวถึงความประพฤติเสียหายของเพื่อนข้าราชการผู้นั้นประกอบคำร้องทุกข์ไปด้วย ข้าราชการผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้คัดค้านความเท็จจริงแห่งคำร้องทุกข์นั้นไว้ในชั้นดำเนินคดีแต่ประการใด คำร้องทุกข์นั้นจึงถือได้ว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตในการแสดงความชอบธรรมของตนหรือในการที่จะต้องต่อสู้หรือป้องกันตนหรือในการป้องกันประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย ไม่ผิดฐานหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2109/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยบันดาลโทสะ: การกระทำของผู้ตายเป็นเหตุให้จำเลยป้องกันตนเองได้
ผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุขึ้นก่อนโดยผลักจำเลยล้มและตามไปฉุดจำเลยขึ้นมา กับล้วงมีดซุยสรวมปลอกหนังแทงจำเลยทั้งปลอกหลายที และใช้ด้ามมีดเดาะศีร์ษะจำเลยโดยแรง 1 ที ตัวมีดหลุดจากปลอก จำเลยหยิบมาถือไว้ ผู้ตายเข้าไปชุลมุนกับจำเลย เมื่อจำเลยใช้มีดแทงผู้ตายไปดังนี้ ได้ชื่อว่ากระทำโดยบันดาลโทษะเพราะเหตุถูกกดขี่ข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1274/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตนเองโดยสมควรแก่เหตุ: การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากผู้ทำร้าย
ผู้ตายมีความพยาบาทดักซุ่มทำร้ายจำเลย พอจำเลยกลับจากธุระเดินผ่านไป ผู้ตายเอาก้อนหินขว้างถูกคิ้วจำเลยแตกแล้วใช้มีดแทงจำเลยถูกแขนขวา 3 แผล และหน้าอกตรงราวนมขวาใกล้รักแร้ 1 แผล จำเลยเตะขาผู้ตายแล้วชกถูกแขนผู้ตายมีดหลุดจากมือผู้ตาย จำเลยแย่งมีดมาได้ผู้ตายกระโดดเข้ากอดปล้ำจำเลยจำเลยจึงใช้มีดแทงผู้ตาย แล้วผู้ตายปล่อยมือที่กอด และล้มลงจำเลยก็ออกวิ่งไปขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้าน ผู้ตายขาดใจตายอยู่ตรงนั้นในเวลาไล่ๆ กันนั้นด้วยพิษบาดแผลที่ถูกจำเลยแทงรวม 5 แผล แต่ที่ฉกรรจ์ถึงตายอยู่ที่ไหปลาร้าและลิ้นปี่ทะลุใน นอกนั้นเล็กน้อย ดังนี้ตามรูปเรื่องดูเป็นการแลกชีวิตต่อชีวิต ไม่มีทางจะยับยั้งชั่งใจได้ดีกว่านั้น และลักษณะการเช่นนี้แม้การกระทำของจำเลยจะหนักเบาไปหน่อย ก็ควรวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่จำเลยซึ่งถูกคู่อาฆาตดักลอบทำร้ายเอาโดยไม่ทันรู้ตัว และกำลังอยู่ในฐานะคับขันมาก ยากแก่การจะคะเนมือให้พอเหมาะพอดีได้ นับว่าเป็นการป้องกันชีวิตโดยพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 192/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเองเหนือกว่าบันดาลโทสะ: การกระทำที่เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ผู้ตายกับจำเลยไปช่วยเขาไถนาด้วยกันเมื่อไถนาเสร็จแล้วมีการเลี้ยงสุราอาหารผู้ตายกินอิ่มแล้วเดินไปที่จำเลย ตีศีรษะจำเลย 2 ทีแล้ววิ่งหนี จำเลยวิ่งไล่ไปทันที่คูน้ำข้างถนน เข้าปล้ำกัน ปรากฏว่าผู้ตายมีบาดแผลถูกแทง 6 แห่ง เป็นบาดแผลสาหัส 2 แห่ง ผู้ตายขาดใจตายในวันนั้น ดังนี้ เป็นเรื่องจำเลยกระทำไปโดยบันดาลโทสะหาใช่เป็นเรื่องป้องกันไม่
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 จำคุก15 ปี ลดโทษตามมาตรา 59 หนึ่งในสาม คงจำคุก 10ปี ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยกระทำไปโดยบันดาลโทสะจึงลดโทษให้ตามมาตรา 55 อีกกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 5 ปี ดังนี้จำเลยฎีกาว่าจำเลยได้กระทำการป้องกันพอสมควรแก่เหตุได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1061/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตนเองและการลดหย่อนโทษฐานบันดาลโทสะจากการถูกยั่วโทสะ
ผู้ตายใช้ปืนจะยิงจำเลยก่อน จำเลยจึงฟันเอา 1 ที ผู้ตายวิ่งหนีโดยปืนหลุดจากมือแล้วจำเลยเอาปืนไล่ยิงผู้ตาย ตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยตอนแรกเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ ได้รับยกเว้นโทษ แต่การที่จำเลยไล่ตามไปยิงผู้ตายนี้ก็ถือได้ว่าเป็นการกระทำต่อเนื่องกันมาจากการที่จำเลยถูกยั่วโทสะโดยถูกผู้ตายกดขี่ข่มเหงอย่างร้ายแรงและไม่เป็นธรรม ยังหาขาดตอนไม่ จำเลยจึงควรได้รับลดหย่อนโทษฐานบันดาลโทสะ ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 55

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 931/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเองเกินสมควรแก่เหตุ: ข้อโต้แย้งเรื่องข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกา
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงยืนตามศาลชั้นต้นว่า จำเลยกระทำการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ โจทก์ฎีกาคัดค้านว่าจำเลยกระทำเกินสมควรแก่เหตุ ย่อมเป็นการคัดค้านในข้อเท็จจริงหาใช่เป็นปัญหาในข้อกฎหมายไม่จึงต้องห้ามฎีกาตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1508/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันทรัพย์และตนเอง: การใช้กำลังเพื่อป้องกันการลักทรัพย์และการต่อสู้
ผู้ตายลักทรัพย์ของจำเลยจำเลยติดตามมา ผู้ตายหันหน้ากลับมาต่อสู้ด้วยมีดปาดตาลจำเลยจึงตีผู้ตายด้วยเสียม ซึ่งเป็นวัตถุที่ธรรมดามิใช่สาตราวุธจำเลยตีเพียงหนึ่งหรือสองที ผู้ตายก็วิ่งหนีไปดังนี้เรียกได้ว่าจำเลยกระทำการป้องกันทรัพย์และตนพอสมควรแก่เหตุ
of 14