คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผลประโยชน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 134 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2140/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ประกอบความผิด ม.123 ลักษณะอาญา: การแสดงตนเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานเพื่อผลประโยชน์
บุคคลจะพึงรับโทษตาม ก.ม. ลักษณะอาญา ม.123 จะต้องประกอบด้วยองค์ความผิดคือ (1) แสดงตนว่าเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานและ (2) รับหรือยอมให้เขาสัญญาว่าจะให้ลาภสักการแก่ตัวหรือแก่ผู้อื่น เพื่อที่จะไปวิงวอนว่ากล่าวให้เจ้าพนักงานให้คุณหรือให้โทษแก่ผู้ใด และจะให้และมิให้เจ้าพนักงานทำการในหน้าที่อย่างใด ๆ
ถ้าฟ้องขาดความข้อ (2) ก็เป็นฟ้องที่บรรยายไม่ครบองค์ความผิดลงโทษจำเลยไม่ได้.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2500)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2140/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ประกอบความผิดฐานแสดงตนเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานเพื่อผลประโยชน์
บุคคลจะพึงรับโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 123 จะต้องประกอบด้วยองค์ความผิดคือ (1)แสดงตนว่าเป็นคนสนิทชิดชอบกับเจ้าพนักงานและ (2) รับหรือยอมให้เขาสัญญาว่าจะให้ลาภสักการแก่ตัวหรือแก่ผู้อื่นเพื่อที่จะไปวิงวอนว่ากล่าวให้เจ้าพนักงานให้คุณหรือให้โทษแก่ผู้ใด และจะให้และมิให้เจ้าพนักงานทำการในหน้าที่อย่างใดๆ
ถ้าฟ้องขาดความข้อ (2) ก็เป็นฟ้องที่บรรยายไม่ครบองค์ความผิดลงโทษจำเลยไม่ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2500)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2137/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อหารผลประโยชน์ ไม่ถือเป็นการพนัน หากไม่ได้มุ่งหวังผลประโยชน์จากการเสี่ยงโชค
การที่จำเลยที่ 1 ไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลมา 20 ฉบับราคา 210 บาท แล้วนำมาทำหุ้น 100 หุ้นโดยพิมพ์ใบรวมหุ้นให้ผู้ซื้อถือไว้ ถ้าถูกสลากก็แบ่งกันตามส่วนแล้วขายให้จำเลยที่ 2 ไปราคา 225 บาท จำเลยที่ 2 เอาไปขายฉบับละ 2.50 บาทขายหมดจะได้กำไร 25 บาทการที่จำเลยทำเช่นนี้เป็นการดำเนินการค้าอย่างธรรมดา หาใช่เป็นผู้เสี่ยงโชคแห่งการได้หรือเสียในการออกสลากไม่จึงไม่เป็นผิดตาม พระราชบัญญัติการพนัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1591/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการขายทอดตลาด: จำเลยต้องรับผิดชอบหากไม่ระวังผลประโยชน์ของตนเอง
เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดี ยึดทรัพย์ของจำเลยผู้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา มาขายทอดตลาดได้ราคาพอสมควรแล้ว เมื่อไม่ปรากฏว่า การขายทอดตลาดได้เป็นไปโดยไม่สุจริต และเวลาก็ล่วงเลยไปถึง 17 วันแล้ว จำเลยจะมาร้องขอให้ศาลขายทอดตลาดใหม่โดยอ้างว่า ขายได้ราคาต่ำมาก และจำเลยกับภรรยาถูกผู้อื่นหลอกลวงไม่ให้ไปสู้ราคา ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การละเมิดสิทธิบัตรลิขสิทธิ์และการคำนวณค่าเสียหาย โดยพิจารณาจากผลประโยชน์ที่จำเลยได้รับ
ค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิดนั้น ศาลอาจกำหนดให้ตามควรแก่พฤติการณ์และรูปคดี ศาลอาจคำนวนให้ตามผลประโยชน์ที่จำเลยได้รับจากการละเมิด โดยไม่หักค่าใช้จ่ายก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1472/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเอกสารราชการเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองระหว่างประเทศ และความผิดตามกฎหมายขบถ
จำเลยสมคบกันทำเอกสารปลอมขึ้นเป็นสำเนาหนังสือราชการของกระทรวงกลาโหม เป็นคำสั่งลับมาก ถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย ขอให้เจรจาตอบข้อเสนอของกระทรวงกลาโหมสหภาพโซเวียตในเรื่องกิจการทหารและทางอาวุธซึ่งทางสหภาพโซเวียตจะให้ความช่วยเหลือและขอให้แจ้งข้อเสนอแนวทางนโยบายทางการเมืองของกระทรวงกลาโหมแห่งประเทศไทย เพื่อให้กระทรวงกลาโหมแห่งสหภาพโซเวียตทราบ โดยจำเลยได้ลงลายมือชื่อของรองผู้อำนวยการศึกษาและวิจัยกรมเสนาธิการกระทรวงกลาโหมซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ ปลอมลงในสำเนาเอกสารปลอมนั้น รับรองว่าเป็นสำเนาที่ถูกต้อง ความจริงเอกสารปลอมนั้น ไม่ใช่เอกสารของกระทรวงกลาโหม หากจำเลยคิดทำปลอมขึ้นเองทั้งนั้น แล้วทำการติดต่อกับชาวต่างประเทศ เพื่อทำการขายเอกสารลับปลอมนั้น ดังนี้ ย่อมเป็นความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 105 เบ็ญจ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 549/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลคุ้มครองผลประโยชน์จากทรัพย์สินที่พิพาทระหว่างการชำระบัญชีห้างหุ้นส่วน
ผู้เป็นหุ้นส่วน ฟ้องผู้เป็นหุ้นส่วนด้วยกันขอให้เลิกห้างหุ้นส่วนและให้ชำระบัญชี ในระหว่างพิจารณา โจทก์ร้องขอให้ศาลสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองโดยให้โจทก์จำเลยประมูลการเก็บผลประโยชน์ระหว่างความ หรือเอาเงินทางต่อศาลเป็นกองกลาง ฯลฯ ดังนี้ ถือว่า เป็นเรื่องขอให้ศาลคุ้มครองตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 25,264 ศาลย่อมมีอำนาจที่จะสั่งให้จัดการนำผลประโยชน์จากทรัพย์รายพิพาทที่จะเกิดขึ้นมามอบไว้ต่อศาลในระหว่างคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 549/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลสั่งคุ้มครองผลประโยชน์จากทรัพย์พิพาทระหว่างดำเนินคดีห้างหุ้นส่วน
ผู้เป็นหุ้นส่วน ฟ้องผู้เป็นหุ้นส่วนด้วยกันขอให้เลิกห้างหุ้นส่วนและให้ชำระบัญชีในระหว่างพิจารณา โจทก์ร้องขอให้ศาลสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองโดยให้โจทก์จำเลยประมูลการเก็บผลประโยชน์ระหว่างความ หรือเอาเงินวางต่อศาลเป็นกองกลาง ฯลฯ ดังนี้ถือว่า เป็นเรื่องขอให้ศาลคุ้มครองตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 25,264 ศาลย่อมมีอำนาจที่จะสั่งให้จัดการนำผลประโยชน์จากทรัพย์รายพิพาทที่จะเกิดขึ้นมามอบไว้ต่อศาลในระหว่างคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1371/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาช่วยเหลือทางกฎหมาย: ความเกี่ยวพันในมูลคดีและการเรียกร้องผลประโยชน์
พี่ชายได้จัดการแบ่งนามรดกให้แก่น้องชายและน้องสาวตามคำสั่งของบิดามารดา แต่น้องสาวไม่ยอม พี่จึงพาน้องชายไปหาทนายความ ต่อมาน้องชายขอให้พี่ออกเงินให้ตนดำเนินคดี โดยสัญญาว่าถ้าคดีถึงที่สุดน้องชายได้รับส่วนแบ่งนามาจะแบ่งนาให้พี่ชายครึ่งหนึ่ง ถ้าไม่ต้องการก็จะขายนาเอาเงินใช้ทุนให้ ดังนี้ ย่อมถือได้ว่า พี่ชายช่วยเหลือน้องชายให้ได้รับความยุติธรรมจากโรงศาล และควรนับได้ว่าพี่ชายมีความเกี่ยวพันอยู่ในมูลคดีนั้นด้วย ไม่ใช่เรื่องพี่ชายแสวงหาประโยชน์ใส่ตนด้วยการยุยงส่งเสริมให้เขาเป็นความกันในกรณีที่ตนมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับมูลคดีนั้นด้วย จึงไม่ทำให้นิติกรรมสัญญานั้นตกเป็นโมฆะตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 เมื่อคดีถึงที่สุดน้องชายได้รับส่วนแบ่งนามาแล้วไม่แบ่งนาให้พี่ชาย พี่ชายย่อมมีอำนาจฟ้องเรียกเอาได้ตามสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นการฟ้องแบ่งทรัพย์สินจากการเป็นเจ้าของร่วม และข้อพิพาทเรื่องสัญญาผลประโยชน์
โจทก์ฟ้องเป็นใจความว่าโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินร่วมกัน มีข้อตกลงเป็นสัญญาต่อกันว่า จำเลยจะแบ่งผลประโยชน์คือค่าเช่าให้โจทก์ จำเลยต่อสู้ว่าไม่มีข้อตกลงหรือสัญญาอย่างใดเลย ดังนี้ ข้อที่ว่า โจทก์จำเลยมีข้อตกลงหรือสัญญาต่อกันหรือไม่ จึงเป็นประเด็นฉะนั้นการที่โจทก์ฎีกาขอแบ่งผลประโยชน์เนื่องจากการเป็นเจ้าของร่วมจึงเป็นนอกฟ้องนอกประเด็น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
โจทก์ฟ้องบรรยายความว่าโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินร่วมกันจำเลยตกลงจะให้ประโยชน์แล้วไม่ให้ โจทก์จึงขอเอาประโยชน์นั้นตลอดจนแบ่งส่วนทรัพย์อันมีกรรมสิทธิ์ร่วมด้วย ทั้งในคำขอท้ายฟ้องก็มีคำขอแบ่งส่วน ดังนี้ ย่อมถือว่าเป็นฟ้องที่บรรยายข้อความเรื่องขอแบ่งส่วนแล้วเป็นฟ้องที่ใช้ได้
of 14