คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผู้ครอบครอง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 189 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1919/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ครอบครองทรัพย์อันตราย (ไฟฟ้า) และขอบเขตความรับผิดของผู้ดูแลบ้าน
จำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นสามีภริยากันเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งจำเลยขึงสายทองแดงเปลือยปล่อยกระแสไฟฟ้าไว้รอบบ้าน แล้วไม่ดูแลให้สายไฟฟ้าดังกล่าวอยู่ในสภาพเรียบร้อยเป็นเหตุให้สายไฟฟ้าตกลงมาพาดรั้ว ผู้ตายไปยืนปัสสาวะริมรั้วจึงถูกกระแสไฟฟ้าดูดถึงแก่ความตายดังนี้ จำเลยได้ชื่อว่า เป็นผู้ครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของเกิดอันตรายได้โดยสภาพ จะต้องรับผิดเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่ไฟฟ้านั้น ส่วนจำเลยที่ 3 เป็นแต่เพียงผู้ดูแลบ้านเท่านั้น แม้จะเป็นผู้ว่าจ้างให้ช่างไฟฟ้ามาเดินสายไฟดังกล่าวก็ไม่ใช่ผู้ครอบครองไฟฟ้านั้น จึงไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1919/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ครอบครองทรัพย์อันตราย (ไฟฟ้า) และขอบเขตความรับผิดของผู้ดูแลทรัพย์
จำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นสามีภริยากันเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุซึ่งจำเลยขึงสายทองแดงเปลือยปล่อยกระแสไฟฟ้าไว้รอบบ้าน แล้วไม่ดูแลให้สายไฟฟ้าดังกล่าวอยู่ในสภาพเรียบร้อยเป็นเหตุให้สายไฟฟ้าตกลงมาพาดรั้ว ผู้ตายไปยืนปัสสาวะริมรั้วจึงถูกกระแสไฟฟ้าดูดถึงแก่ความตายดังนี้ จำเลยได้ชื่อว่าเป็นผู้ครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของเกิดอันตรายได้โดยสภาพ จะต้องรับผิดเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่ไฟฟ้านั้น ส่วนจำเลยที่ 3 เป็นแต่เพียงผู้ดูแลบ้านเท่านั้น แม้จะเป็นผู้ว่าจ้างให้ช่างไฟฟ้ามาเดินสายไฟดังกล่าวก็ไม่ใช่ผู้ครอบครองไฟฟ้านั้น จึงไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1868/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ให้เช่าที่ดินติดตั้งป้าย ไม่ใช่ผู้เสียภาษีป้าย หากไม่ได้เป็นผู้ครอบครองป้าย แม้จะถูกเปรียบเทียบปรับ
การอุทธรณ์การประเมินตามพระราชบัญญัติ ภาษีป้าย ฯมาตรา 30 นั้นใช้บังคับเฉพาะผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายที่เห็นว่าการประเมินไม่ถูกต้องเมื่อจำเลยให้เช่าที่ดินที่ป้ายโฆษณาติดตั้งอยู่เสียแล้วจำเลยก็ไม่ใช่ผู้ครอบครองป้ายไม่มีหน้าที่เสียภาษีป้ายก็ไม่มีเหตุที่จำเลยจะอุทธรณ์การประเมินแม้จำเลยจะรับสารภาพให้พนักงานสอบสวนเปรียบเทียบปรับในข้อหาจงใจไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายก็ไม่เป็นเหตุให้ฟังว่าจำเลยเป็นผู้มีหน้าที่ต้องเสียภาษีป้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1650/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสัมพันธ์ตามกรมธรรม์ประกันภัย: ผู้ครอบครองรถยนต์ไม่ใช่ผู้เอาประกันภัย
จำเลยที่ 1 เช่าซื้อรถยนต์จากห้าง ผ. แล้วนำไปประกันภัยไว้กับจำเลยที่ 3 โดยระบุว่านางสาว ก. เป็นผู้เอาประกันภัย แม้จะมีชื่อจำเลยที่ 1 ในวงเล็บต่อจากชื่อนางสาว ก. ในกรมธรรม์ประกันภัยและจำเลยที่ 1 จะเป็นผู้ส่งเบี้ยประกันภัยก็ตาม แต่ที่อยู่ที่ปรากฏในกรมธรรม์ประกันภัยไม่ใช่ที่อยู่ของจำเลยที่ 1 หากเป็นที่อยู่ของนางสาว ก. การที่วงเล็บชื่อจำเลยที่ 1 ไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยก็เพื่อแสดงว่ารถยนต์คันที่เอาประกันอยู่ในความครอบครองของจำเลยที่ 1 เท่านั้น จำเลยที่ 1มิใช่ผู้เอาประกันภัย จึงไม่มีนิติสัมพันธ์กับจำเลยที่ 3ดังนั้น เมื่อจำเลยที่ 2 ทำละเมิดในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 3 ก็ไม่ต้องรับผิดชอบร่วมด้วยในผลแห่งการละเมิดตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 925/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องเช็ค: ผู้ครอบครองเช็คมีอำนาจฟ้องได้ แม้มีคนนำเช็คไปเรียกเก็บเงิน
เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายเงินสดแก่ผู้ถือ จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายมอบให้แก่โจทก์เป็นการชำระหนี้ค่าสินค้าโจทก์ฝากเช็คนั้นให้ ธ.นำไปเข้าบัญชีเงินฝากของ ธ. เพื่อให้เรียกเก็บเงิน เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ธ. จึงได้มอบเช็คพิพาทคืนแก่โจทก์ดังนี้ ขณะฟ้องคดีนี้โจทก์เป็นผู้ครอบครองเช็คอยู่ โจทก์จึงเป็นผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 มีอำนาจฟ้องให้จำเลยรับผิดใช้เงินตามเช็คนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินในเขตป่าสงวน: ผู้ครอบครองเดิมไม่มีอำนาจฟ้องไล่ผู้ครอบครองรายใหม่
ที่พิพาทอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้โจทก์จะครอบครองมาก่อนแล้วให้จำเลยเข้าอาศัยทำกิน โจทก์ก็ไม่มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองไม่มีสิทธิเอาที่พิพาทให้จำเลยอาศัยทำกิน ในระหว่างโจทก์จำเลยซึ่งเป็นราษฎรด้วยกัน เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาทอยู่ โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องขอให้บังคับจำเลยคืนที่พิพาทหรือห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1376/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองทรัพย์โดยชอบด้วยกฎหมาย และความผิดฐานลักทรัพย์ การยินยอมของผู้ครอบครอง
มารดาจำเลยซึ่งเป็นผู้ครอบครองบานประตูของกลาง ได้อนุญาตให้จำเลยนำบานประตูดังกล่าวไปติดตั้งที่บ้านหลังใหม่ของจำเลย แม้บานประตูดังกล่าวจะเป็นของผู้เสียหาย แต่เมื่อจำเลยเอาไปโดยความยินยอมอนุญาตของมารดา ซึ่งเป็นผู้ครอบครองทรัพย์จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการเอาทรัพย์ไปจากการครอบครองของผู้อื่น อันเป็นองค์ประกอบของความผิดฐานลักทรัพย์ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1376/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองทรัพย์โดยชอบด้วยกฎหมายและการลักทรัพย์: การยินยอมของผู้ครอบครองทำให้ไม่เข้าข่ายความผิด
มารดาจำเลยซึ่งเป็นผู้ครอบครองบานประตูของกลาง ได้อนุญาตให้จำเลยนำบานประตูดังกล่าว ไปติดตั้งที่บ้านหลังใหม่ของจำเลย แม้บานประตูดังกล่าวจะเป็นของผู้เสียหาย แต่เมื่อจำเลยเอาไปโดยความยินยอมอนุญาตของมารดา ซึ่งเป็นผู้ครอบครองทรัพย์ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการเอาทรัพย์ไปจากการครอบครองของผู้อื่น อันเป็นองค์ประกอบของความผิดฐานลักทรัพย์ การกระทำของ จำเลย จึงไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1258/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิด: ผู้ครอบครองรถยนต์ต้องรับผิดเมื่อเกิดอุบัติเหตุ แม้ไม่ได้เป็นผู้ขับ
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดในฐานะจำเลยเป็นผู้ขับรถยนต์โดยประมาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ประการหนึ่ง และให้รับผิดในฐานะจำเลยเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ขณะเกิดเหตุ ตามมาตรา 437 อีกประการหนึ่ง ฉะนั้น แม้คดีอาญาที่จำเลยถูกฟ้องศาลพิพากษาถึงที่สุดว่า ต. เป็นคนขับรถจำเลยก็ตาม ในคดีนี้ศาลก็ยังต้องวินิจฉัยต่อไปว่าความรับผิดของจำเลยตามมาตรา 437 มีเพียงใด ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า มาตรา 437 มุ่งหมายให้มีข้อสันนิษฐานเป็นคุณแก่ฝ่ายที่มิใช่ยานพาหนะอันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกล โจทก์จำเลยต่างเป็นผู้ครอบครองหรือควบคุมดูแลยานพาหนะอันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกล ไม่อาจบังคับใช้บทบัญญัติ มาตรา 437 ได้นั้น เป็นการกล่าวเกี่ยวกับภาระแห่งการพิสูจน์หรือหน้าที่นำสืบ มิใช่วินิจฉัยชี้ขาดว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดตามมาตรา 437 ที่ศาลอุทธรณ์ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่นั้นชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1258/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากรถยนต์: ศาลต้องพิจารณาความรับผิดทั้งฐานผู้ขับและผู้ครอบครองรถยนต์ แม้คดีอาญาพิพากษาแล้ว
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดในฐานะจำเลยเป็นผู้ขับรถยนต์โดยประมาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420ประการหนึ่ง และให้รับผิดในฐานะจำเลยเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ขณะเกิดเหตุตามมาตรา 437 อีกประการหนึ่งฉะนั้น แม้คดีอาญาที่จำเลยถูกฟ้องศาลพิพากษาถึงที่สุดว่า ต. เป็นคนขับรถจำเลยก็ตาม ในคดีนี้ศาลก็ยังต้องวินิจฉัยต่อไปว่าความรับผิดของจำเลยตามมาตรา 437 มีเพียงใด ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่ามาตรา 437มุ่งหมายให้มีข้อสันนิษฐานเป็นคุณแก่ฝ่ายที่มิใช่ยานพาหนะอันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกล โจทก์จำเลยต่างเป็นผู้ครอบครองหรือควบคุมดูแลยานพาหนะอันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกล ไม่อาจบังคับใช้บทบัญญัติมาตรา 437 ได้นั้น เป็นการกล่าวเกี่ยวกับภาระแห่งการพิสูจน์หรือหน้าที่นำสืบ มิใช่วินิจฉัยชี้ขาดว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดตามมาตรา 437ที่ศาลอุทธรณ์ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่นั้นชอบแล้ว
of 19