คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผู้เช่า

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 581 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2962/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินระหว่างเจ้าของที่ดิน ผู้เช่า และผู้มีสิทธิครอบครองเพื่อดำเนินกิจการโรงเรียน
ข. เป็นบิดาโจทก์เป็นเจ้าของโรงเรียนและที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนโดยโจทก์เป็นเพียงผู้มีสิทธิดำเนินกิจการโรงเรียนเท่านั้นแม้โจทก์จะมีสิทธิใช้สอยและครอบครองที่ดินที่โรงเรียนตั้งอยู่ก็ตามก็เป็นการครอบครองแทนข. เมื่อต่อมาภายหลังข.ได้แบ่งแยกที่ดินที่โรงเรียนตั้งอยู่ออกเป็น5แปลงและยกกรรมสิทธิ์ที่ดินที่แบ่งแยกให้แก่บุตรทั้ง4คนรวมทั้งโจทก์และจำเลยคนละแปลงส่วนที่เหลือเป็นของข. ซึ่งให้จำเลยเช่าจำเลยทำรั้วขึ้นในเขตพื้นที่ที่ดินของจำเลยส่วนบริเวณที่จำเลยขนโต๊ะเก้าอี้และเครื่องเล่นเด็กสนามไปไว้เป็นบริเวณที่ดินของข.ซึ่งได้ให้จำเลยเช่าจำเลยย่อมมีสิทธิในที่ดินส่วนนี้ตามสัญญาเช่าเมื่อจำเลยไม่ยอมให้โจทก์ใช้ประโยชน์ในที่ดินของจำเลยและที่ดินส่วนที่จำเลยเช่าจากข. จำเลยจึงมีสิทธิที่จะกระทำการใดๆในที่ดินได้ตามกฎหมายโดยไม่ต้องดำเนินการทางศาลก่อนการกระทำของจำเลยดังกล่าวจึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2021/2538 เวอร์ชัน 5 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทซื้อขายที่ดินและการฉ้อฉล: สิทธิของผู้เช่าและละเมิดจากการแจ้งข้อมูลเท็จ
คดีก่อนจำเลยที่ 2 คดีนี้เป็นโจทก์ฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นจำเลยอ้างว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้เช่าที่ดินจากจำเลยที่ 1 คดีนี้เพื่อประกอบเกษตรกรรมต่อมาจำเลยที่ 1 ได้ขายที่ดินให้แก่โจทก์ โดยโจทก์ทราบดีว่าจำเลยที่ 2 เช่าที่ดินทำกสิกรรมอยู่ และจำเลยที่ 1 มิได้แจ้งให้จำเลยที่ 2 ทราบก่อน ทำให้จำเลยที่ 2 ขาดโอกาสที่จะซื้อที่ดินได้ก่อนตาม พ.ร.บ.การเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ. 2524 ขอให้บังคับโจทก์โอนขายที่ดินแก่จำเลยที่ 2 ประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในคดีก่อนจึงมีว่า จำเลยที่ 2 เป็นผู้เช่าที่ดินจากจำเลยที่ 1 และมีสิทธิที่จะซื้อที่ดินก่อนโจทก์หรือไม่ ส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้สมคบร่วมกันฉ้อฉลโจทก์ โดยจำเลยที่ 1 ได้แจ้งต่อเจ้าพนักงานที่ดินว่าที่ดินที่จำเลยที่ 1 ขายให้โจทก์ไม่ได้ให้เช่า และจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 1 กับโจทก์ได้ตกลงกันให้โจทก์จ่ายค่าตอบแทนแก่จำเลยที่ 2 ในการออกจากที่ดินเป็นเหตุให้โจทก์ตกลงซื้อที่ดินจากจำเลยที่ 1 และชำระค่าตอบแทนแก่จำเลยที่ 2 ไป ภายหลังจำเลยที่ 1 กลับให้ถ้อยคำเท็จต่อกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำตำบลว่าจำเลยที่ 2เป็นผู้เช่าที่ดินดังกล่าว เป็นเหตุคณะกรรมการเช่าที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมประจำจังหวัดมีมติให้โจทก์ขายที่ดินแก่จำเลยที่ 2 และต่อมาศาลพิพากษาบังคับโจทก์ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองส่งมอบการครอบครองที่ดินให้แก่โจทก์หากไม่สามารถดำเนินการดังกล่าวได้ให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าสินไหมทดแทนประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในคดีนี้มีว่า จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ และโจทก์ได้รับความเสียหายเพียงใด ซึ่งต่างกับประเด็นในคดีก่อน จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
โจทก์อุทธรณ์และฎีกาเพียงขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี เป็นการอุทธรณ์และฎีกาที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ โจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาเพียง 200บาท ตามตาราง 1 ท้าย ป.วิ.พ. (2) (ก) แต่โจทก์เสียมาอย่างคดีมีทุนทรัพย์จึงต้องคืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาส่วนที่เกินแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1945/2538 เวอร์ชัน 6 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องเรียกขจัดความเดือดร้อนจากการปลูกสร้างกีดขวาง แม้เป็นผู้เช่า
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยปลูกเพิงชายตลิ่งหน้าบ้านโจทก์กีดขวางบังหน้าบ้านโจทก์ ปิดบังทางลม แสงสว่าง ปิดบังทิวทัศน์ ขอให้จำเลยรื้อเพิงออกไปเป็นการขอให้ขจัดความเดือดร้อนตาม ป.พ.พ.มาตรา 1337 แต่ในขณะเดียวกันก็มีลักษณะให้จำเลยยุติการกระทำที่เป็นละเมิดด้วย แม้โจทก์จะเป็นเพียงผู้เช่าที่ดินหากได้รับความเดือดร้อนรำคาญจากการกระทำของจำเลย และได้รับความเดือดร้อนเป็นพิเศษ โจทก์อยู่ในฐานะที่จะฟ้องให้ขจัดความเดือดร้อนเป็นพิเศษนั้นได้ โจทก์จึงมีสิทธิฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1945/2538 เวอร์ชัน 5 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้เช่าบ้านฟ้องขจัดความเดือดร้อนจากละเมิด แม้ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน
แม้โจทก์เป็นเพียงผู้เช่าที่ดินปลูกบ้านอาศัย เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้รับความเดือดร้อนรำคาญเป็นพิเศษจากการกระทำของจำเลย ย่อมมีอำนาจฟ้องให้ขจัดความเดือดร้อนนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1945/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้เช่าบ้านฟ้องขจัดความเดือดร้อนจากการรบกวนการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน
แม้โจทก์เป็นเพียง ผู้เช่าที่ดินปลูกบ้านอาศัยเมื่อโจทก์ซึ่งเป็น เจ้าของบ้านอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้รับความเดือดร้อนรำคาญเป็นพิเศษจากการกระทำของจำเลยย่อมมี อำนาจฟ้องให้ขจัดความเดือดร้อนนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1337

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1945/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้เช่าบ้านฟ้องขจัดความเดือดร้อนรำคาญจากการกระทำของจำเลย แม้ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน
แม้โจทก์เป็นเพียง ผู้เช่าที่ดินปลูกบ้านอาศัยเมื่อโจทก์ซึ่งเป็น เจ้าของบ้านอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้รับความเดือดร้อนรำคาญเป็นพิเศษจากการกระทำของจำเลยย่อมมี อำนาจฟ้องให้ขจัดความเดือดร้อนนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1337

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1945/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้เช่าบ้านในการขจัดความเดือดร้อนรำคาญจากการกระทำของผู้อื่นที่กระทบต่อการอยู่อาศัย
โจทก์เป็นผู้เช่าที่ดินของวัดปลูกบ้านอยู่อาศัยหากได้รับความเดือดร้อนรำคาญจากการกระทำของจำเลยและได้รับความเดือดร้อนเป็นพิเศษโจทก์ก็อยู่ในฐานะที่จะฟ้องให้ขจัดความเดือดร้อนเป็นพิเศษนั้นได้เพราะเป็นเจ้าของบ้านซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินดังกล่าวและบ้านเป็นอสังหาริมทรัพย์จึงเข้ากรณีที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1337

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1945/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้เช่าบ้านในการฟ้องขจัดความเดือดร้อนรำคาญจากการปลูกสร้างกีดขวาง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปลูกเพิงชายตลิ่งหน้าบ้านโจทก์กีดขวางบังหน้าบ้านโจทก์ปิดบังทางลมแสงสว่างปิดบังทิวทัศน์ขอให้จำเลยรื้อเพิงออกไปเป็นการขอให้ขจัดความเดือดร้อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1337แต่ในขณะเดียวกันก็มีลักษณะให้จำเลยยุติการกระทำที่เป็นละเมิดด้วยแม้โจทก์จะเป็นเพียงผู้เช่าที่ดินหากได้รับความเดือดร้อนรำคาญจากการกระทำของจำเลยและได้รับความเดือดร้อนเป็นพิเศษโจทก์อยู่ในฐานะที่จะฟ้องให้ขจัดความเดือดร้อนเป็นพิเศษนั้นได้โจทก์จึงมีสิทธิฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1903/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของอดีตผู้เช่า: ไม่มีอำนาจฟ้องเพิกถอนสัญญาเช่าระหว่างเจ้าของกับผู้เช่ารายใหม่
โจทก์เป็นผู้ครอบครองตึกแถวตามสัญญาเช่าเดิมซึ่งครบกำหนดไปแล้ว โจทก์จึงไม่อาจอ้างสิทธิใด ๆ ในตึกแถวพิพาทได้อีก การที่วัด ส.ซึ่งเป็นผู้ให้เช่าทำสัญญาให้จำเลยเช่าตึกแถวที่โจทก์ครอบครองอยู่ แม้หากจะฟังว่าเพราะถูกจำเลยหลอกลวง วัด ส.ซึ่งเป็นคู่สัญญากับจำเลยเท่านั้นที่จะใช้สิทธิบอกล้างหรือฟ้องให้เพิกถอนได้ โจทก์ไม่มีนิติสัมพันธ์ใด ๆ กับจำเลย จึงจะใช้สิทธิบอกล้างหรือฟ้องเพิกถอนสัญญาเช่าดังกล่าวมิได้ หากโจทก์เห็นว่าการที่วัด ส.ทำสัญญาให้จำเลยเช่าตึกแถวพิพาทเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ซึ่งเคยเป็นคู่สัญญาเช่าเดิมกับวัด ส. ก็ชอบที่โจทก์จะฟ้องวัด ส.มิใช่ฟ้องจำเลย ส่วนการที่จำเลยได้บอกกล่าวให้โจทก์ออกจากตึกแถวพิพาทโดยอ้างว่าจำเลยได้เป็นผู้เช่าตึกแถวกับวัด ส.แล้ว ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำการอันเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1848/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิซื้อที่นาของผู้เช่าเมื่อผู้ให้เช่าขาย – เงื่อนไขและขั้นตอนตาม พ.ร.บ.การเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
เมื่อฟ้องโจทก์ได้ความเพียงว่าผู้ให้เช่านาขายนาพิพาทให้แก่โจทก์ในราคา 775,000 บาท โดยมิได้แจ้งให้โจทก์ซื้อก่อนโจทก์ร้องเรียนต่อ คชก.ตำบลเพื่อขอใช้สิทธิซื้อที่นาพิพาทคชก.ตำบลมีมติให้จำเลยผู้ซื้อขายนาพิพาทให้แก่โจทก์แล้วแต่จำเลยเพิกเฉย โดยมิได้มีข้อความใดแสดงให้เห็นว่าโจทก์ได้ใช้สิทธิขอซื้อในราคาที่จำเลยซื้อมาหรือราคาตลาดซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่า และ คชก.ตำบลได้มีคำวินิจฉัยอันถึงที่สุดให้จำเลยขายในราคาดังกล่าวแล้ว การใช้สิทธิของโจทก์จึงมิได้เป็นไปตามเงื่อนไขและขั้นตอนตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
of 59