พบผลลัพธ์ทั้งหมด 124 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1461/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานเอกสารล่าช้า: ศาลมีอำนาจรับฟังได้หากสมเหตุสมผล เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม แม้ชำระค่าเอกสารไม่ตรงเวลา
เอกสารที่จำเลยอ้างเป็นพยานหลักฐานและส่งศาลไว้แล้ว แม้จำเลยผู้อ้างจะไม่ได้ชำระค่าอ้างเอกสารนั้นภายในเวลาที่ศาลกำหนดให้นำมาชำระ และมาแถลงขอชำระก่อนวันที่ศาลมีคำพิพากษา 1 วัน อ้างเหตุเพราะหลงลืม ดังนี้ เมื่อเอกสารที่อ้างส่งนั้นเป็นพยานหลักฐานที่มีความสำคัญแก่คดีของจำเลยผู้อ้าง และการที่ไม่ได้เสียค่าอ้างเอกสารตามกำหนด น่าเชื่อว่าเป็นเพราะความหลงลืม กรณีมีเหตุที่ศาลสมควรจะรับฟังพยานหลักฐานเช่นว่านั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 (2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1461/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานเอกสารที่ชำระค่าเอกสารล่าช้า ศาลมีอำนาจกว้างขวางเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
เอกสารที่จำเลยอ้างเป็นพยานหลักฐานและส่งศาลไว้แล้ว แม้จำเลยผู้อ้างจะไม่ได้ชำระค่าอ้างเอกสารนั้นภายในเวลาที่ศาลกำหนดให้นำมาชำระ และมาแถลงขอชำระก่อนวันที่ศาลมีคำพิพากษา 1 วัน อ้างเหตุเพราะหลงลืม ดังนี้ เมื่อเอกสารที่อ้างส่งนั้นเป็นพยานหลักฐานที่มีความสำคัญแก่คดีของจำเลยผู้อ้าง และการที่ไม่ได้เสียค่าอ้างเอกสารตามกำหนด น่าเชื่อว่าเป็นเพราะความหลงลืม กรณีมีเหตุที่ศาลสมควรจะรับฟังพยานหลักฐานเช่นว่านั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 759/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารที่โจทก์เบิกความไม่ใช่พยานเอกสาร แม้จำเลยนำส่งศาลเพื่อประกอบคำเบิกความ
ชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ทนายจำเลยถามค้านตัวโจทก์ซึ่งอ้างตนเองเป็นพยานถึงเงินที่โจทก์รับไปจากจำเลย โดยเอาบันทึกที่โจทก์เซ็นรับเงินและเอกสารให้โจทก์ดูและโจทก์รับรองว่าถูกต้องแล้ว ทนายจำเลยจึงส่งบันทึกและเอกสารต่อศาล เช่นนี้ บันทึกกับเอกสารดังกล่าวไม่ใช่เป็นพยานเอกสารที่จำเลยอ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 759/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารประกอบคำเบิกความไม่ใช่พยานเอกสาร ศาลรับได้หากใช้ประกอบถ้อยคำโจทก์
ชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ทนายจำเลยถามค้านตัวโจทก์ซึ่งอ้างตนเองเป็นพยานถึงเงินที่โจทก์รับไปจากจำเลยโดยเอาบันทึกที่โจทก์เซ็นรับเงินและเอกสารให้โจทก์ดูและโจทก์รับรองว่าถูกต้องแล้ว ทนายจำเลยจึงส่งบันทึกและเอกสารต่อศาลเช่นนี้ บันทึกกับเอกสารดังกล่าวไม่ใช่เป็นพยานเอกสารที่จำเลยอ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1254/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำและการนำพยานบุคคลสืบหักล้างพยานเอกสาร: ศาลฎีกาวินิจฉัยประเด็นฟ้องซ้ำและข้อจำกัดในการนำสืบพยาน
โจทก์ฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาที่ศาลแขวงในข้อหาว่าฉ้อโกงและเรียกเงินคืนจากจำเลยด้วย ศาลแขวงวินิจฉัยแต่เพียงว่า จำเลยไม่ได้ใช้อุบายหลอกลวงเอาความเท็จมากล่าว ทั้งมิได้ปกปิดข้อความจริงซึ่งควรแจ้งให้ทราบ คดีไม่มีทางลงโทษจำเลยทางอาญา ส่วนประเด็นที่ว่าเงิน 6,300 บาทที่โจทก์ไปไถ่ถอนจำนองจะเป็นเงินของโจทก์หรือไม่ และจำเลยจะได้รับเงินอีก 700 บาทจากโจทก์หรือไม่ ศาลแขวงกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย แสดงว่าประเด็นข้อนี้ศาลแขวงยังไม่ได้วินิจฉัย โจทก์มาฟ้องเรียกเงินจำนวน 7,000 บาท ที่ศาลจังหวัดอีก ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ข้อที่จำเลยอ้างว่าการนำพยานบุคคลเข้าสืบหักล้างพยานเอกสารเป็นการนำสืบที่ไม่ชอบนั้น จำเลยไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ เมื่อไม่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ย่อมต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
ข้อที่จำเลยอ้างว่าการนำพยานบุคคลเข้าสืบหักล้างพยานเอกสารเป็นการนำสืบที่ไม่ชอบนั้น จำเลยไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ เมื่อไม่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ย่อมต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 220/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการระบุพยานเพิ่มเติมในคดีขัดทรัพย์ แม้โจทก์ยังติดใจพยานเอกสารที่ยังไม่ได้นำสืบ
ในคดีร้องขัดทรัพย์ ศาลกำหนดให้ โจทก์นำสืบก่อน เมื่อโจทก์สืบพยานบุคคลแล้ว โจทก์แถลงว่าหมดพยานบุคคลแล้ว คงติดใจอ้างพยานเอกสารซึ่งได้ขอให้ศาลเรียกมาแล้วแต่ยังไม่ได้มา ดังนี้ จะถือว่าการสืบพยานหลักฐานของโจทก์เสร็จแล้วยังไม่ได้ ผู้ร้องจึงมีสิทธิยื่นระบุพยานเพิ่มเติมได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรค 2 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2505 ระเบียบวาระพิเศษ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1148/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานเอกสารสัญญาเช่า แม้ไม่ส่งสำเนาก่อนสืบพยาน หากจำเลยรับรอง ย่อมรับวินิจฉัยได้
โจทก์อ้างเอกสารสัญญาเช่าเป็นพยานโดยไม่ได้ส่งสำเนาให้จำเลยก่อนวันสืบพยาน 3 วัน แต่จำเลยดูแล้วรับรองเอกสารนั้น ศาลก็รับวินิจฉัยได้ จำเลยจะยกเหตุนี้มาคัดค้านไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1813/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานเอกสารที่ไม่น่าเชื่อถือ: ศาลไม่รับฟังเอกสาร บ.ท.4 ที่ไม่มีผู้รับรองและพยานบุคคลยืนยันความถูกต้อง
(คดีนี้สืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว แต่ระหว่างสืบพยานจำเลย โจทก์ยื่นคำร้องขออ้างเอกสาร บ.ท.4 เพิ่มเติมเพื่อหักล้างคำพยานจำเลยที่เบิกความเกี่ยวกับความกว้างยาวของที่พิพาทเอกสาร บ.ท. 4 นี้โจทก์อ้างว่าพยานจำเลยปากนี้ได้เป็นผู้ทำขึ้น และว่าพยานจำเลยปากนี้เบิกความชั้นศาลไม่ตรงกับข้อความในเอกสาร ศาลไม่ควรรับฟังคำพยานจำเลยปากนี้ ควรฟังตามพยานเอกสารที่โจทก์อ้าง เพื่อความเที่ยงธรรมศาลสั่งอนุญาตให้โจทก์อ้างเพิ่มเติมพยานเอกสารดังกล่าวได้)
ดังนี้เมื่อปรากฎว่าเอกสารฉบับนี้ไม่มีพยานบุคคลสืบประกอบ ไม่แน่ว่าจะเป็นเอกสารที่แท้จริงหรือไม่ ไม่มีเจ้าพนักงานรับรองความแท้จริง ทั้งจำเลยก็มิได้รับรองความแท้จริง และพยานจำเลยปากนี้ก็ไม่มีโอกาศให้การชี้แจงอธิบายถึงเอกสารฉบับนี้ จึงไม่มีเหตุควรรับฟังเอกสารที่โจทก์อ้างขึ้นมานี้ได้.
ดังนี้เมื่อปรากฎว่าเอกสารฉบับนี้ไม่มีพยานบุคคลสืบประกอบ ไม่แน่ว่าจะเป็นเอกสารที่แท้จริงหรือไม่ ไม่มีเจ้าพนักงานรับรองความแท้จริง ทั้งจำเลยก็มิได้รับรองความแท้จริง และพยานจำเลยปากนี้ก็ไม่มีโอกาศให้การชี้แจงอธิบายถึงเอกสารฉบับนี้ จึงไม่มีเหตุควรรับฟังเอกสารที่โจทก์อ้างขึ้นมานี้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1813/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานเอกสารที่ไม่มีพยานบุคคลสืบประกอบและไม่มีการรับรองความแท้จริง
คดีนี้สืบพยานโจทก์เสร็จแล้วแต่ระหว่างสืบพยานจำเลยโจทก์ยื่นคำร้องขออ้างเอกสาร บ.ท.4เพิ่มเติมเพื่อหักล้างคำพยานจำเลยที่เบิกความเกี่ยวกับความกว้างยาวของที่พิพาทเอกสาร บ.ท.4 นี้โจทก์อ้างว่าพยานจำเลยปากนี้ได้เป็นผู้ทำขึ้น และว่าพยานจำเลยปากนี้เบิกความชั้นศาลไม่ตรงกับข้อความในเอกสาร ศาลไม่ควรรับฟังคำพยานจำเลยปากนี้ ควรฟังตามพยานเอกสารที่โจทก์อ้าง เพื่อความเที่ยงธรรมศาลสั่งอนุญาตให้โจทก์อ้างเพิ่มเติมพยานเอกสารดังกล่าวได้)
ดังนี้เมื่อปรากฏว่าเอกสารฉบับนี้ไม่มีพยานบุคคลสืบประกอบไม่แน่ว่าจะเป็นเอกสารที่แท้จริงหรือไม่ ไม่มีเจ้าพนักงานรับรองความแท้จริง ทั้งจำเลยก็มิได้รับรองความแท้จริง และพยานจำเลยปากนี้ก็ไม่มีโอกาสให้การชี้แจงอธิบายถึงเอกสารฉบับนี้ จึงไม่มีเหตุควรรับฟังเอกสารที่โจทก์อ้างขึ้นมานี้ได้
ดังนี้เมื่อปรากฏว่าเอกสารฉบับนี้ไม่มีพยานบุคคลสืบประกอบไม่แน่ว่าจะเป็นเอกสารที่แท้จริงหรือไม่ ไม่มีเจ้าพนักงานรับรองความแท้จริง ทั้งจำเลยก็มิได้รับรองความแท้จริง และพยานจำเลยปากนี้ก็ไม่มีโอกาสให้การชี้แจงอธิบายถึงเอกสารฉบับนี้ จึงไม่มีเหตุควรรับฟังเอกสารที่โจทก์อ้างขึ้นมานี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1593-1594/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานเพิ่มเติมในเอกสารที่ไม่ใช่พยานเอกสารตามกฎหมาย
ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 94 ห้ามมิให้มีการสืบเพิ่มเติมตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสาร แต่เฉพาะในกรณีที่มีกฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง
ผู้อยู่ในบ้านเช่า ทำหนังสือไว้แก่ผู้เช่าบ้านนั้นว่า ตนรับเฝ้าบ้านเช่าให้แก่ผู้เช่า ไม่ใช่เช่าช่วงและไม่ได้เสียเงินให้ผู้เช่า ดังนี้ หนังสือดังกล่าวไม่ใช่พยานเอกสารชนิดที่มีกฎหมายบังคับว่า ต้องนำแสดง ฉะนั้น การสืบเพิ่มเติมหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลง เช่นสืบว่าตนเช่าช่วงบ้านนั้นจากผู้เช่า ดังนี้ ย่อมสืบได้ไม่ต้องห้าม
ผู้อยู่ในบ้านเช่า ทำหนังสือไว้แก่ผู้เช่าบ้านนั้นว่า ตนรับเฝ้าบ้านเช่าให้แก่ผู้เช่า ไม่ใช่เช่าช่วงและไม่ได้เสียเงินให้ผู้เช่า ดังนี้ หนังสือดังกล่าวไม่ใช่พยานเอกสารชนิดที่มีกฎหมายบังคับว่า ต้องนำแสดง ฉะนั้น การสืบเพิ่มเติมหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลง เช่นสืบว่าตนเช่าช่วงบ้านนั้นจากผู้เช่า ดังนี้ ย่อมสืบได้ไม่ต้องห้าม