คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยอมรับ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 138 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับผิดในหนี้ตามจำนวนที่ยอมรับ แม้ฟ้องไม่สมตามจริง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้ไป 9,500 บาท จำเลยให้การว่ากู้จริงเพียง 500 บาท จำนวนเงินตามสัญญากู้โจทก์ปลอมขึ้น ขอให้ยกฟ้องหรือถ้าจะให้จำเลยรับผิดก็เพียงในจำนวนเงิน 500 บาท ที่จำเลยเอาไป ดังนี้ แม้โจทก์จะสืบได้ไม่สมฟ้องจำเลยก็ยังคงต้องรับผิดใช้เงินเท่าที่ให้การรับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1607/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับการแบ่งมรดกทำให้จำเลยมิอาจยกอายุความได้
แม้โจทก์ไม่ได้ครอบครองนาพิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าอันเป็นมรดกที่ยังไม่ได้แบ่งร่วมกับจำเลยมาหลายปีก็ดี หากจำเลยยอมรับกับโจทก์ว่ายินดีแบ่งนาพิพาทให้โจทก์แล้ว จำเลยก็จะยกอายุความว่าโจทก์มิได้ฟ้องร้องเรียกมรดกเสียภายใน 1 ปี นับแต่เจ้ามรดกตายไม่ได้ เพราะจำเลยได้ละเสียแล้วซึ่งประโยชน์แห่งอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1065/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับคำสั่งศาลแล้ว ห้ามเรียกร้องสิทธิใหม่
การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยหนี้เงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษาอย่างเจ้าหนี้ธรรมดาจนศาลมีคำสั่งอนุญาตโดยผู้ร้องไม่ได้โต้แย้งหรืออุทธรณ์นั้น ต้องถือว่าคำสั่งศาลยุติถึงที่สุดแล้วผู้ร้องจะมาร้องใหม่ว่า เป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิพิเศษขอให้ได้รับชำระหนี้อีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 636-640/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับการค้างชำระค่าเช่า จำเลยต้องพิสูจน์ข้อต่อสู้
โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าให้โจทก์ จำเลยให้การว่าจำเลยไม่ได้ผิดสัญญาเรื่องชำระค่าเช่า จำเลยนำค่าเช่าไปชำระให้โจทก์ โจทก์ไม่ยอมรับค่าเช่าจากจำเลยเอง ดังนี้ เท่ากับจำเลยยอมรับว่าได้ค้างค่าเช่าโจทก์อยู่จริง จำเลยจึงมีหน้าที่นำสืบให้สมข้อต่อสู้ เมื่อจำเลยไม่สืบพยานจำเลยก็ต้องแพ้คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 315/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันต้องทำเป็นหนังสือชัดเจน การมอบโฉนดหรือยอมรับในฟ้องยังไม่ถือเป็นสัญญาค้ำประกัน
การที่จะให้จำเลยรับผิดฐานเป็นผู้ค้ำประกันลูกหนี้ได้ จะต้องปรากฏว่า จำเลยได้ทำหนังสือลงลายมือชื่อเพื่อจะชำระหนี้แทนลูกหนี้นั้นให้โจทก์จึงจะได้ เพียงแต่จำเลยได้มอบโฉนดที่ให้ลูกหนี้เอาไปค้ำประกันโจทก์หรือจำเลยฟ้องลูกหนี้ในอีกคดีหนึ่งได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยยอมค้ำประกันลูกหนี้ต่อโจทก์เท่านี้ยังถือไม่ได้ว่าเป็นสัญญาค้ำประกัน
การที่โจทก์บรรยายฟ้องตอนหนึ่งว่า 'จำเลยต้องรับผิดทั้งในทางพฤตินัยและนิตินัย' เพียงเท่านี้ย่อมไม่มีความหมายถึงข้อความในเอกสาร จ.7- จ.8 ถ้าโจทก์มุ่งจะให้หมายถึงเอกสาร จ.7- จ.8 ถ้าบรรยายเพียงเท่านี้ก็เป็นเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1237/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้โดยบุคคลอื่นแทนลูกหนี้ต้องมีอำนาจชอบธรรม การยอมรับของโจทก์ไม่เพียงพอ
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ จำเลยต่อสู้ว่าได้ชำระให้แก่นายขาบสามีโจทก์แล้ว นายขาบร้องสอดเข้ามารับว่าได้รับชำระไว้แทนโจทก์แล้ว วันชี้สองสถาน ศาลกำหนดหน้าที่ให้จำเลยนำสืบก่อน จำเลยแถลงว่าถ้าโจทก์ยอมรับว่าขณะทำสัญญาซื้อขายที่ดิน นายขาบได้ยินยอมรู้เห็นด้วยจำเลยก็ไม่นำสืบ โจทก์ยอมรับ คู่ความต่างไม่สืบพยาน
ดังนี้ เมื่อจำเลยมีหน้าที่ต้องนำสืบให้สมประเด็นข้อต่อสู้กลับไม่สืบจะอาศัยแต่เพียงการรับของโจทก์ว่าขณะทำสัญญาซื้อขาย นายขาบได้ยินยอมรู้เห็นด้วยเท่านั้น ไม่พอ หากจะฟังว่าขณะนั้นนายขาบเป็นสามีโจทก์ ก็ไม่ปรากฏว่าเป็นสามีที่ร้างกันหรืออยู่กินด้วยกันตามปกตินามสกุลก็ใช้ต่างกัน เมื่อฟ้องคดีโจทก์ก็อ้างว่าเป็นหญิงหม้าย จำเลยมิได้นำสืบว่านายขาบยังเป็นสามีโจทก์อยู่ และมีอำนาจที่จะรับชำระหนี้แทนโจทก์ได้แต่อย่างใด การที่จำเลยอ้างว่าได้ทำการชำระหนี้รายนี้แก่นายขาบแม้จะเป็นจริง ก็ยังถือไม่ได้ว่าได้ทำการชำระหนี้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว จำเลยจึงต้องแพ้คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 860/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับราคาที่ประมาณไว้ในชั้นชี้สองสถาน ไม่ถือเป็นการฟ้องเรียกร้องราคาตามที่ประมาณ หากไม่ยอมรับ ศาลต้องพิจารณาตามรูปคดี
โจทก์ฟ้องเรียกร้องเอาทรัพย์สิ่งของจากจำเลย และประมาณราคาที่โจทก์ควรได้รับมา ในชั้นชี้สองสถานจำเลยยอมใช้ราคาตามที่โจทก์ฟ้องตามคำเปรียบเทียบของศาล โจทก์กลับไม่ยอมรับเงินจะให้ศาลดำเนินการพิจารณาต่อไป ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ได้รับราคาทรัพย์สินตามที่ฟ้องเรียกร้องแล้ว ไม่มีอะไรที่จะต้องพิจารณาอีกต่อไป จึงสั่งตัดพยานและพิพากษาให้โจทก์รับเงินตามที่โจทก์ฟ้องเรียกร้อง
ศาลฎีกาพิพากษาว่า ราคาทรัพย์สินที่โจทก์เรียกมาเพียงแต่ประมาณเมื่อโจทก์ไม่ยอมตามที่ศาลเปรียบเทียบต้องพิจารณากันไป และตัดสินไปตามรูปคดี ถือว่าโจทก์ฟ้องเรียกร้องเอาเพียงที่ประมาณมาไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 860/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับราคาประมาณในคดีมรดก: ศาลต้องพิจารณาราคาจริงหากโจทก์ไม่ยอมรับราคาที่ศาลเปรียบเทียบ
โจทก์ฟ้องเรียกร้องเอาทรัพย์สิ่งของจากจำเลยและประมาณราคาที่โจทก์ควรได้รับมาในชั้นชี้สองสถานจำเลยยอมใช้ราคาตามที่โจทก์ฟ้องตามคำเปรียบเทียบของศาลโจทก์กลับไม่ยอมรับเงินจะให้ศาลดำเนินการพิจารณาต่อไปศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ได้รับราคาทรัพย์สินตามที่ฟ้องเรียกร้องแล้ว ไม่มีอะไรที่จะต้องพิจารณาต่อไป จึงสั่งตัดพยานและพิพากษาให้โจทก์รับเงินตามที่โจทก์ฟ้องเรียกร้อง
ศาลฎีกาพิพากษาว่า ราคาทรัพย์สินที่โจทก์เรียกมาเพียงแต่ประมาณเมื่อโจทก์ไม่ยอมตามที่ศาลเปรียบเทียบก็ต้องพิจารณากันไปและตัดสินไปตามรูปคดีโดยถือว่าโจทก์ฟ้องเรียกร้องเอาเพียงที่ประมาณมาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051-1055/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขฟ้องและการยอมรับตัวแทนของบริษัท แม้มีข้อจำกัดตามข้อบังคับบริษัทก็ผูกพันได้
แม้จำเลยจะได้รับสำเนาคำร้องของโจทก์ที่ขอแก้ไขและเพิ่มเติมฟ้องยังไม่ถึง 3 วัน ก่อนศาลชั้นต้นทำคำสั่งอนุญาตก็ดี แต่เมื่อปรากฎว่าจำเลยแถลงไม่คัดค้านที่โจทก์ขอแก้ทั้งได้ทำคำให้การแก้ฟ้องเพิ่มเติมแล้ว จำเลยจะมาคัดค้านในชั้นฎีกาไม่ได้.
พฤติการณ์ที่บริษัทจำกัดจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ได้ปฏิบัติมา เห็นได้ว่าบริษัทจำเลยที่ 1 รู้แล้วยอมให้จำเลยที่ 2 เชิดตัวเองแสดงกับบุคคลภายนอกว่าเป็นตัวแทนของตน แม้ข้อบังคับของบริษัทมีว่าต้องมีกรรมการ 2 นายลงชื่อในนิติกรรม จึงจะผูกพันจำเลยที่ 1 ได้ บริษัทจำเลยที่ 1 ก็ไม่พ้นความรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้ทำการโดยสุจริต.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับเขตพิพาทจากการทำแผนที่กลาง: การสืบพยานนอกประเด็นหรือไม่
ฟ้องว่าจำเลยรุกที่หมาย 1,2 จำเลยสู้ว่าที่หมาย 1 เป็นของจำเลยหาได้โต้แย้งถึงที่หมาย 2 ด้วยไม่เมื่อทำแผนที่แล้วปรากฏว่าภายในเส้นสีแดงเป็นที่พิพาท (ซึ่งมีเขตพิพาทล้ำเข้ามาในที่หมาย 2) ซึ่งคู่ความก็รับว่าถูกต้องดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าคู่ความยอมรับกันว่าเขตที่พิพาทคือภายในเส้นสีแดงนั่นเองจำเลยนำสืบได้หาใช่เป็นการสืบนอกประเด็นไม่
of 14