พบผลลัพธ์ทั้งหมด 193 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2259/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนส่งสินค้าหลายทอด: ผู้ขนส่งทอดสุดท้ายมีหน้าที่รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น
จำเลยมีหน้าที่ติดต่อกับการท่าเรือแห่งประเทศไทยเพื่อทราบชื่อเรือ กำหนดเรือเข้า จองท่าเทียบเรือ ติดต่อกรมศุลกากรเพื่อตรวจสินค้าและทราบราคาสินค้า ติดต่อกองตรวจคนเข้าเมืองเกี่ยวกับลูกเรือ แจ้งกรมเจ้าท่าเพื่อส่งเรือนำร่องและแจ้งให้เจ้าของสินค้านำใบตราส่งมามอบแก่จำเลย และรับใบปล่อยสินค้าที่จำเลยลงลายมือชื่อเพื่อไปรับสินค้าจากการท่าเรือฯ และรับจองระวางสินค้าที่จะออกจากท่าเรือแห่งประเทศไทยไปยังประเทศอื่น ซึ่งจำเลยจะลงลายมือชื่อในใบตราส่งแทนเจ้าของเรือ ดังนี้ เป็นวิธีการของการรับขนส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 615 และ มาตรา 622 มีลักษณะร่วมกันในการขนส่ง สินค้ากับ บริษัทเดินเรือต่างประเทศ และเป็นการขนส่ง หลายทอดโดยจำเลย เป็นผู้ขนส่งทอดสุดท้าย จึงต้อง ร่วมรับผิดในการสูญหาย หรือบุบสลายของสินค้าที่ขนส่งตาม มาตรา 618
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2255/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนเชิดและผลผูกพันตามสัญญาซื้อขาย: เจ้าของที่ดินต้องรับผิดชอบแม้ไม่ได้ทำสัญญาเอง
จำเลยที่ 2 เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่พิพาทได้รู้เห็นยินยอมให้ จำเลยที่ 1 ทำหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์เป็นการเชิดให้จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนขายที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ จำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาตามนัยที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 821 กรณีดังกล่าวไม่ต้องทำเป็นหนังสือแต่งตั้งตัวแทนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 798(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 2863/2525) เมื่อจำเลยที่ 2 เจ้าของที่ดินได้เชิดให้จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนขายที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ ดังนี้จำเลยที่ 1จึงไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดตามหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทร่วมกับจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตัวการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1555/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนซื้อขายหุ้น: ตัวการต้องรับผิดชอบหนี้ที่ตัวแทนจ่ายทดรองไป แม้การซื้อขายหุ้นจะตกเป็นโมฆะ
จำเลยตั้งโจทก์เป็นตัวแทนในการซื้อขายหุ้น ย่อมมีความผูกพันต่อโจทก์ตามสัญญาตัวแทน เมื่อโจทก์ออกเงินทดรอง ซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แทนจำเลยอันเป็นการจัดทำกิจการ ตามที่จำเลยมอบหมาย โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะเรียกเอา เงินชดใช้ จากจำเลยซึ่งเป็นตัวการได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 816 การที่จำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ที่โจทก์ออก เงินทดรองไป จึงเป็นการชำระหนี้ที่มีมูลหนี้โดยชอบด้วยกฎหมายเมื่อโจทก์เรียกเก็บเงินไม่ได้ จำเลยจึงต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คพร้อมด้วยดอกเบี้ย
แบบการโอนหุ้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1129วรรคสองใช้บังคับเฉพาะการโอนหุ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ้นเท่านั้น ส่วนหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์จะเป็นหุ้นชนิดใดไม่ปรากฏ จะอนุมานเอาว่าเป็นหุ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ้น ซึ่งตกอยู่ในบังคับแห่งบทบัญญัติดังกล่าวหาได้ ไม่
การที่จำเลยตั้งโจทก์เป็นตัวแทนซื้อขายหุ้นใน ตลาดหลักทรัพย์ซึ่งมีวิธีปฏิบัติปกติโดยการโอนลอย เมื่อโจทก์ซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แทนจำเลยโดยดำเนินตามทางที่เคยทำกันมา ย่อมเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนโดยชอบ จำเลยซึ่ง เป็นตัวการจะต้องรับสนองในผลแห่งการกระทำของโจทก์ ถึงหากนิติกรรมการซื้อหุ้นจะตกเป็นโมฆะจำเลยก็ต้องรับผลแห่งการนั้น จะยกมาเป็นข้ออ้างเพื่อปฏิเสธไม่ชำระหนี้ ที่โจทก์ออกเงินทดรองไปในการจัดทำกิจการแทนจำเลยหาได้ไม่
แบบการโอนหุ้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1129วรรคสองใช้บังคับเฉพาะการโอนหุ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ้นเท่านั้น ส่วนหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์จะเป็นหุ้นชนิดใดไม่ปรากฏ จะอนุมานเอาว่าเป็นหุ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ้น ซึ่งตกอยู่ในบังคับแห่งบทบัญญัติดังกล่าวหาได้ ไม่
การที่จำเลยตั้งโจทก์เป็นตัวแทนซื้อขายหุ้นใน ตลาดหลักทรัพย์ซึ่งมีวิธีปฏิบัติปกติโดยการโอนลอย เมื่อโจทก์ซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แทนจำเลยโดยดำเนินตามทางที่เคยทำกันมา ย่อมเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนโดยชอบ จำเลยซึ่ง เป็นตัวการจะต้องรับสนองในผลแห่งการกระทำของโจทก์ ถึงหากนิติกรรมการซื้อหุ้นจะตกเป็นโมฆะจำเลยก็ต้องรับผลแห่งการนั้น จะยกมาเป็นข้ออ้างเพื่อปฏิเสธไม่ชำระหนี้ ที่โจทก์ออกเงินทดรองไปในการจัดทำกิจการแทนจำเลยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1555/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายหุ้นผ่านตัวแทนและการรับผิดชอบในหนี้จากการซื้อขายหุ้นโดยการโอนลอย
จำเลยตั้งโจทก์เป็นตัวแทนในการซื้อขายหุ้น ย่อมมี ความ ผูกพันต่อโจทก์ตามสัญญาตัวแทน เมื่อโจทก์ออกเงินทดรอง ซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แทนจำเลยอันเป็นการจัดทำกิจการ ตามที่จำเลยมอบหมาย โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะเรียกเอา เงินชดใช้ จากจำเลยซึ่งเป็นตัวการได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 816การที่จำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ ที่โจทก์ออก เงินทดรองไป จึงเป็นการชำระหนี้ที่มีมูลหนี้โดย ชอบด้วยกฎหมายเมื่อโจทก์เรียกเก็บเงินไม่ได้ จำเลยจึง ต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คพร้อมด้วยดอกเบี้ย
แบบการโอนหุ้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1129วรรคสองใช้บังคับเฉพาะการโอนหุ้นชนิดระบุชื่อ ลงในใบหุ้น เท่านั้น ส่วนหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์จะเป็นหุ้น ชนิดใดไม่ปรากฏจะอนุมานเอาว่าเป็นหุ้นชนิดระบุชื่อ ลงในใบหุ้น ซึ่งตกอยู่ในบังคับแห่งบทบัญญัติดังกล่าวหาได้ ไม่
การที่จำเลยตั้งโจทก์เป็นตัวแทนซื้อขายหุ้นใน ตลาดหลักทรัพย์ซึ่งมีวิธีปฏิบัติปกติโดยการโอนลอยเมื่อโจทก์ซื้อ หุ้นใน ตลาดหลักทรัพย์แทนจำเลยโดยดำเนินตามทางที่เคยทำกัน มา ย่อมเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนโดยชอบ จำเลยซึ่ง เป็นตัวการจะต้องรับสนองในผลแห่งการกระทำของโจทก์ถึงหากนิติกรรมการซื้อหุ้นจะตกเป็นโมฆะ จำเลยก็ต้องรับ ผลแห่งการนั้น จะยกมาเป็นข้ออ้างเพื่อปฏิเสธไม่ชำระหนี้ ที่โจทก์ออกเงินทดรองไปในการจัดทำกิจการแทนจำเลยหาได้ไม่
แบบการโอนหุ้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1129วรรคสองใช้บังคับเฉพาะการโอนหุ้นชนิดระบุชื่อ ลงในใบหุ้น เท่านั้น ส่วนหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์จะเป็นหุ้น ชนิดใดไม่ปรากฏจะอนุมานเอาว่าเป็นหุ้นชนิดระบุชื่อ ลงในใบหุ้น ซึ่งตกอยู่ในบังคับแห่งบทบัญญัติดังกล่าวหาได้ ไม่
การที่จำเลยตั้งโจทก์เป็นตัวแทนซื้อขายหุ้นใน ตลาดหลักทรัพย์ซึ่งมีวิธีปฏิบัติปกติโดยการโอนลอยเมื่อโจทก์ซื้อ หุ้นใน ตลาดหลักทรัพย์แทนจำเลยโดยดำเนินตามทางที่เคยทำกัน มา ย่อมเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนโดยชอบ จำเลยซึ่ง เป็นตัวการจะต้องรับสนองในผลแห่งการกระทำของโจทก์ถึงหากนิติกรรมการซื้อหุ้นจะตกเป็นโมฆะ จำเลยก็ต้องรับ ผลแห่งการนั้น จะยกมาเป็นข้ออ้างเพื่อปฏิเสธไม่ชำระหนี้ ที่โจทก์ออกเงินทดรองไปในการจัดทำกิจการแทนจำเลยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4008/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหมิ่นประมาททางหนังสือพิมพ์ ผู้พิมพ์/โฆษณาต้องรับผิดชอบต่อข้อความที่เผยแพร่ แม้มิได้เป็นผู้เขียน
การที่หนังสือพิมพ์เสนอข่าวหมิ่นประมาทโจทก์ว่า .....โจทก์ประพฤติปฏิบัติตนอย่างคนไร้ศีลธรรม ......โจทก์มีส่วนพัวพันเป็นผู้จ้างวานฆ่าผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์มีนิสัยชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่ ......ฯลฯ.....นั้น หาใช่เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตติชมด้วยความเป็นธรรมอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำไม่ เมื่อข้อความนั้นไม่เป็นความจริง ย่อมเป็นการละเมิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 423 และการกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริงนั้น กฎหมายมิได้บัญญัติว่าต้องทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ แม้ผู้กล่าวหรือไขข่าวมิได้รู้ว่าข้อความนั้นไม่จริงแต่หากควรรู้ได้ก็ต้องรับผิด
แม้มูลกรณีเดียวกันนี้ศาลในคดีส่วนอาญาจะได้พิพากษาให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์แล้วก็ตาม การที่ศาลในคดีส่วนแพ่งยังพิพากษาให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์อีกด้วยนั้น ก็เป็นทางแก้เพื่อให้ชื่อเสียงของโจทก์กลับคืนดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 447 หาใช่เป็นการลงโทษจำเลยสองครั้งในความผิดเดียวกันไม่แต่เมื่อจำเลยได้โฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์แล้ว ย่อมเป็นการเพียงพอที่จะแก้ไขให้ชื่อเสียงของโจทก์กลับคืนดี จึงไม่จำเป็นที่จะต้องโฆษณาต่อไปอีก
จำเลยเป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา แม้จะมิใช่เจ้าของหนังสือพิมพ์และมิได้เป็นผู้เขียนหรือมีส่วนรู้เห็นในการเขียนข้อความอันเป็นละเมิดก็ตาม จำเลยก็ต้องรับผิดชอบในข้อความหรือสิ่งอื่นใดที่ตนคัดเลือกนำลงพิมพ์โฆษณาในหนังสือพิมพ์ทั้งหมดเพราะตนเป็นผู้จัดการไขข่าวให้แพร่หลาย
แม้มูลกรณีเดียวกันนี้ศาลในคดีส่วนอาญาจะได้พิพากษาให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์แล้วก็ตาม การที่ศาลในคดีส่วนแพ่งยังพิพากษาให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์อีกด้วยนั้น ก็เป็นทางแก้เพื่อให้ชื่อเสียงของโจทก์กลับคืนดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 447 หาใช่เป็นการลงโทษจำเลยสองครั้งในความผิดเดียวกันไม่แต่เมื่อจำเลยได้โฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์แล้ว ย่อมเป็นการเพียงพอที่จะแก้ไขให้ชื่อเสียงของโจทก์กลับคืนดี จึงไม่จำเป็นที่จะต้องโฆษณาต่อไปอีก
จำเลยเป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา แม้จะมิใช่เจ้าของหนังสือพิมพ์และมิได้เป็นผู้เขียนหรือมีส่วนรู้เห็นในการเขียนข้อความอันเป็นละเมิดก็ตาม จำเลยก็ต้องรับผิดชอบในข้อความหรือสิ่งอื่นใดที่ตนคัดเลือกนำลงพิมพ์โฆษณาในหนังสือพิมพ์ทั้งหมดเพราะตนเป็นผู้จัดการไขข่าวให้แพร่หลาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3905/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประวิงคดีและการรับผิดชอบต่อการกระทำของทนายความที่จำเลยแต่งตั้ง
จำเลยขอเลื่อนการสืบพยานจำเลยมาแล้ว 4 ครั้ง จนศาลมีคำสั่งกำชับว่านัดหน้าจะไม่ยอมให้เลื่อนคดีอีกไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆ ครั้นถึงวันนัดตามที่เลื่อนมาทนายจำเลยกลับยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยและจำเลยก็ไม่มาศาลตามพฤติการณ์เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาประวิงคดีให้ชักช้า ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจำเลยโดยถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบชอบแล้ว
ในวันนัดสืบพยานจำเลย. จำเลยและทนายจำเลยมิได้มาศาล เพียงแต่ทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยมายื่นโดยมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีแต่ประการใด แม้คำร้องของทนายจำเลยที่ขอถอนตัวนั้นเท่ากับขอเลื่อนคดีอยู่ในตัว. แต่ตราบใดที่ศาลยังมิได้สั่งอนุญาตให้ถอนตัว ทนายจำเลยก็ยังมีฐานะเป็นคู่ความอยู่ ศาลย่อมมีอำนาจที่จะพิเคราะห์สั่งเกี่ยวกับการพิจารณาคดีได้ว่าสมควรจะให้เลื่อนไปหรือไม่
เมื่อจำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าต่างและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน ก็จะต้องรับผิดชอบในการกระทำของทนายความที่ตนแต่งตั้ง จำเลยจะอ้างว่าการที่ทนายจำเลยขอถอนตัวมิใช่ความผิดของจำเลยและจำเลยไม่ทราบล่วงหน้า ชอบที่ศาลจะให้สืบพยานจำเลยต่อไป หาได้ไม่
ในวันนัดสืบพยานจำเลย. จำเลยและทนายจำเลยมิได้มาศาล เพียงแต่ทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยมายื่นโดยมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีแต่ประการใด แม้คำร้องของทนายจำเลยที่ขอถอนตัวนั้นเท่ากับขอเลื่อนคดีอยู่ในตัว. แต่ตราบใดที่ศาลยังมิได้สั่งอนุญาตให้ถอนตัว ทนายจำเลยก็ยังมีฐานะเป็นคู่ความอยู่ ศาลย่อมมีอำนาจที่จะพิเคราะห์สั่งเกี่ยวกับการพิจารณาคดีได้ว่าสมควรจะให้เลื่อนไปหรือไม่
เมื่อจำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าต่างและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน ก็จะต้องรับผิดชอบในการกระทำของทนายความที่ตนแต่งตั้ง จำเลยจะอ้างว่าการที่ทนายจำเลยขอถอนตัวมิใช่ความผิดของจำเลยและจำเลยไม่ทราบล่วงหน้า ชอบที่ศาลจะให้สืบพยานจำเลยต่อไป หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3905/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประวิงคดีโดยทนายจำเลยและการรับผิดชอบของจำเลยต่อการกระทำของทนาย
จำเลยขอเลื่อนการสืบพยานจำเลยมาแล้ว 4 ครั้ง จนศาลมีคำสั่งกำชับว่านัดหน้าจะไม่ยอมให้เลื่อนคดีอีกไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆครั้นถึงวันนัดตามที่เลื่อนมาทนายจำเลยกลับยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยและจำเลยก็ไม่มาศาลตามพฤติการณ์เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาประวิงคดีให้ชักช้า ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจำเลยโดยถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบชอบแล้ว
ในวันนัดสืบพยานจำเลย. จำเลยและทนายจำเลยมิได้มาศาลเพียงแต่ทนายจำเลยมอบฉันทะ ให้เสมียนทนายนำคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยมายื่นโดยมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีแต่ประการใด แม้คำร้องของทนายจำเลยที่ขอถอนตัวนั้นเท่ากับขอเลื่อนคดีอยู่ในตัว. แต่ตราบใดที่ศาลยังมิได้สั่งอนุญาตให้ถอนตัว ทนายจำเลยก็ยังมีฐานะเป็นคู่ความอยู่ ศาลย่อมมีอำนาจที่จะพิเคราะห์สั่งเกี่ยวกับการพิจารณาคดีได้ว่าสมควรจะให้เลื่อนไปหรือไม่
เมื่อจำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าต่างและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน ก็จะต้องรับผิดชอบในการกระทำของทนายความที่ตนแต่งตั้งจำเลยจะอ้างว่าการที่ทนายจำเลยขอถอนตัวมิใช่ความผิดของจำเลยและจำเลยไม่ทราบล่วงหน้า ชอบที่ศาลจะให้สืบพยานจำเลยต่อไป หาได้ไม่
ในวันนัดสืบพยานจำเลย. จำเลยและทนายจำเลยมิได้มาศาลเพียงแต่ทนายจำเลยมอบฉันทะ ให้เสมียนทนายนำคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายจำเลยมายื่นโดยมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีแต่ประการใด แม้คำร้องของทนายจำเลยที่ขอถอนตัวนั้นเท่ากับขอเลื่อนคดีอยู่ในตัว. แต่ตราบใดที่ศาลยังมิได้สั่งอนุญาตให้ถอนตัว ทนายจำเลยก็ยังมีฐานะเป็นคู่ความอยู่ ศาลย่อมมีอำนาจที่จะพิเคราะห์สั่งเกี่ยวกับการพิจารณาคดีได้ว่าสมควรจะให้เลื่อนไปหรือไม่
เมื่อจำเลยแต่งตั้งทนายความให้ว่าต่างและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตน ก็จะต้องรับผิดชอบในการกระทำของทนายความที่ตนแต่งตั้งจำเลยจะอ้างว่าการที่ทนายจำเลยขอถอนตัวมิใช่ความผิดของจำเลยและจำเลยไม่ทราบล่วงหน้า ชอบที่ศาลจะให้สืบพยานจำเลยต่อไป หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2474/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขุดดินใกล้ที่ดิน neighbor ทำให้ดินถล่ม จำเลยต้องรับผิดชอบป้องกันความเสียหาย แม้มีฝนตกหนักก็อ้างเหตุสุดวิสัยไม่ได้
การที่จำเลยขุดดินห่างจากแนวเขตที่ดินของโจทก์เพียง 1 เมตรลึกเกินสมควรจนเต็มเนื้อที่ เป็นเหตุให้ที่ดินโจทก์พังทลาย เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 1343 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จำเลยจึงต้องรับผิดจัดการป้องกันความเสียหายเพื่อไม่ให้ที่ดินของโจทก์พังทลายต่อไป
จำเลยอ้างว่ามีฝนตกหนักและน้ำท่วมมากเป็นเหตุให้แนวเขตที่ดินพัง อันเป็นเหตุสุดวิสัยที่จำเลยจะป้องกันได้ แต่จำเลยมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คดีก่อน จ.ผู้เช่าที่ดินของโจทก์อีกแปลงหนึ่งฟ้อง พ. กับจำเลยที่ 1 คดีนี้ขอให้ใช้ค่าเสียหายที่ขุดดินทำให้บ่อปลาของ จ.เสียหาย แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองให้จัดการป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ที่ดินของโจทก์คนละแปลงกับที่ดินที่ให้ จ.เช่าเป็นคนละกรณีกัน ทั้งโจทก์ก็มิได้เป็นคู่ความในคดีก่อนร่วมกับ จ.ด้วย ฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยจัดการป้องกันความเสียหายอันเกิดแก่ความอยู่มั่นแห่งที่ดินของโจทก์ ที่ติดต่อกับที่ดินที่จำเลยขุด มิใช่เรียกค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดโดยตรง. จึงไม่อยู่ในบังคับแห่งอายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448
จำเลยอ้างว่ามีฝนตกหนักและน้ำท่วมมากเป็นเหตุให้แนวเขตที่ดินพัง อันเป็นเหตุสุดวิสัยที่จำเลยจะป้องกันได้ แต่จำเลยมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คดีก่อน จ.ผู้เช่าที่ดินของโจทก์อีกแปลงหนึ่งฟ้อง พ. กับจำเลยที่ 1 คดีนี้ขอให้ใช้ค่าเสียหายที่ขุดดินทำให้บ่อปลาของ จ.เสียหาย แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองให้จัดการป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ที่ดินของโจทก์คนละแปลงกับที่ดินที่ให้ จ.เช่าเป็นคนละกรณีกัน ทั้งโจทก์ก็มิได้เป็นคู่ความในคดีก่อนร่วมกับ จ.ด้วย ฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยจัดการป้องกันความเสียหายอันเกิดแก่ความอยู่มั่นแห่งที่ดินของโจทก์ ที่ติดต่อกับที่ดินที่จำเลยขุด มิใช่เรียกค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดโดยตรง. จึงไม่อยู่ในบังคับแห่งอายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1352/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ขับรถโดยสารประจำทาง ไม่ใช่ผู้ประกอบการขนส่ง หากเจ้าของรถร่วมกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพเป็นผู้รับผิดชอบ
รถยนต์ที่จำเลยขับเป็นรถยนต์ที่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนให้ประกอบการขนส่งประจำทางร่วมกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ดังนั้น เจ้าของรถยนต์ร่วมกับองค์การ ฯ เป็นผู้รับผิดชอบในการใช้รถคันนี้ในการขนส่งประจำทาง จำเลยเป็นเพียงผู้ใช้รถยนต์ ในนามของเจ้าของรถร่วมกับองค์การ ฯ เท่านั้น จำเลยไม่ได้เป็น ผู้ประกอบการขนส่งประจำทางแต่อย่างใด แม้จำเลยจะนำรถยนต์ แล่นรับส่งคนโดยสารนอกเส้นทางที่ได้รับอนุญาตไว้ ก็ไม่เป็นความผิด ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก ฯ มาตรา 23, 126
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1537/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายสินค้าชำรุด เงื่อนไขการรับผิดชอบจำกัดเฉพาะความเสียหายจากรอยแตกร้าว
ศาลมีคำสั่งให้บริษัทจำเลยเลิกกิจการ จำเลยได้ขายทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ โดยให้ผู้ซื้อประมูลราคา โจทก์ได้ซื้ออ่างอาบน้ำจากจำเลย และได้ชำระราคาแล้ว จำเลยออกใบเสร็จรับเงินให้โจทก์ ด้านหลังใบเสร็จรับเงินได้หมายเหตุไว้ว่า"แตกร้าวคืนเงินภายหลัง" เช่นนี้เป็นการขายอ่างอาบน้ำโดยมีเงื่อนไขรับผิดชอบเพื่อความชำรุดบกพร่อง เฉพาะที่แตกหรือร้าวเท่านั้น ไม่รวมถึงรอยสีถลอกหรือมีสนิมขึ้น เมื่ออ่างอาบน้ำมีแต่เพียงรอยถลอกและสนิมขึ้น ไม่มีรอยแตกร้าว โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยส่งเงินคืนตามราคาหรือใช้ค่าเสียหายได้ จะนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 472 มาใช้บังคับในกรณีนี้หาได้ไม่