พบผลลัพธ์ทั้งหมด 120 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1303/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ช้างของกลาง: การริบเฉพาะส่วนของเจ้าของที่รู้เห็นเป็นใจ
ช้างของกลางเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของสองคน คนละกึ่งหนึ่งเจ้าของคนหนึ่งรู้เห็นเป็นใจให้จำเลยนำช้างของกลางไปชักลากไม้ที่แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ดังนี้ ศาลย่อมริบช้างของกลางกึ่งหนึ่งเฉพาะส่วนของเจ้าของคนที่รู้เห็นเป็นใจสำหรับอีกกึ่งหนึ่งให้ตกได้แก่เจ้าของที่ไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ จะริบทั้งหมดหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1280/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองช้างเพื่อใช้ในการกระทำความผิดทางป่าไม้: เจ้าของช้างต้องรู้เห็นเป็นใจหรือไม่?
จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องว่าแปรรูปไม้และมีไม้แปรรูปภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้จริง แต่ช้างของกลางซึ่งใช้ชักลากไม้มาในความครอบครองของจำเลย ๆ ยืมมาจากผู้อื่น เจ้าของไม่รู้เห็นด้วย ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าช้างเป็นของผู้ร้อง ขอให้คืนแก่ผู้ร้อง ศาลชั้นต้นงดสืบพยานแล้วพิพากษาลงโทษจำเลย คืนช้างของกลางแก่เจ้าของ โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นในส่วนที่ไม่ริบของกลาง และให้พิจารณาพิพากษาใหม่เฉพาะประเด็นว่าช้างเป็นของใคร เจ้าของรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ ดังนี้ จำเลยฎีกาขอให้คืนช้างของกลางแก่เจ้าของได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1280/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองช้างเพื่อใช้ในการกระทำผิดทางอาญา: เจ้าของช้างต้องรู้เห็นเป็นใจด้วยหรือไม่
จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องว่าแปรรูปไม้ และมีไม้แปรรูปภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้จริง แต่ช้างของกลางซึ่งใช้ชักลากไม้มาในความครอบครองของจำเลยจำเลยยืมมาจากผู้อื่น เจ้าของไม่รู้เห็นด้วย ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าช้างเป็นของผู้ร้อง ขอให้คืนแก่ผู้ร้อง ศาลชั้นต้นงดสืบพยานแล้วพิพากษาลงโทษจำเลย คืนช้างของกลางแก่เจ้าของ โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นในส่วนที่ไม่ริบของกลาง และให้พิจารณาพิพากษาใหม่เฉพาะประเด็นว่าช้างเป็นของใคร เจ้าของรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ ดังนี้ จำเลยฎีกาขอให้คืนช้างของกลางแก่เจ้าของได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 651/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคืนของกลางของผู้เยาว์ ผู้ไม่รู้เห็นเป็นใจในความผิดของผู้แทน
บิดาซึ่งเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตรผู้เยาว์มีหน้าที่จัดการทรัพย์สินของบุตรด้วยความระมัดระวังเช่นวิญญูชนจะพึงกระทำ
หากผู้แทนโดยชอบธรรม คือ บิดา ไม่ดูแลหรือใช้ทรัพย์สินโดยผิดหน้าที่ ทั้งบุตรมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วย ดังนี้ ไม่มีกฎหมายใดที่จะให้บุตรต้องรับผิดร่วมด้วย
จำเลยเป็นลูกจ้างของบิดา นำเรือยนต์และถุงลากปลาของบุตรผู้เยาว์ไปกระทำผิดตามพระราชบัญญัติการประมงฯ ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยและให้ริบของกลาง บุตรผู้เยาว์ของบิดาซึ่งมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลย ย่อมมีสิทธิร้องขอให้ศาลสั่งคืนเรือยนต์และถุงลากของกลางได้
หากผู้แทนโดยชอบธรรม คือ บิดา ไม่ดูแลหรือใช้ทรัพย์สินโดยผิดหน้าที่ ทั้งบุตรมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วย ดังนี้ ไม่มีกฎหมายใดที่จะให้บุตรต้องรับผิดร่วมด้วย
จำเลยเป็นลูกจ้างของบิดา นำเรือยนต์และถุงลากปลาของบุตรผู้เยาว์ไปกระทำผิดตามพระราชบัญญัติการประมงฯ ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยและให้ริบของกลาง บุตรผู้เยาว์ของบิดาซึ่งมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลย ย่อมมีสิทธิร้องขอให้ศาลสั่งคืนเรือยนต์และถุงลากของกลางได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถยนต์ที่ใช้บรรทุกไม้ผิดกฎหมาย เมื่อผู้ขับขี่รู้เห็นเป็นใจ
จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์รับจ้างบรรทุกไม้ที่ตัดและแปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตของผู้มีชื่อ โดยจำเลยเป็นผู้ขับขี่เองและรู้เห็นเป็นใจด้วย รถยนต์ดังกล่าวของจำเลยเป็นยานพาหนะ ที่ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิด ต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 74 ทวิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถยนต์ที่ใช้ในการขนส่งไม้ผิดกฎหมาย จำเลยรู้เห็นเป็นใจ
จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์ รับจ้างบรรทุกไม้ที่ตัดและแปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตของผู้มีชื่อ โดยจำเลยเป็นผู้ขับขี่เองและรู้เห็นเป็นใจด้วย รถยนต์ดังกล่าวของจำเลยเป็นยานพาหนะที่ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิด ต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 74 ทวิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถยนต์ของผู้เช่าซื้อที่ใช้ในการกระทำผิดป่าไม้ แม้เจ้าของมิได้รู้เห็นเป็นใจ
รถยนต์ที่จำเลยใช้บรรทุกไม้สักยังมิได้แปรรูป ไม่มีตราค่าภาคหลวงหรือรอยตราของรัฐบาลประทับ (อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 - มาตรา 69) ซึ่งจะต้องถูกริบตามมาตรา 74 และพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่4) พ.ศ. 2503 มาตรา 18 นั้น เมื่อปรากฏว่ารถยนต์นั้นจำเลยเช่าซื้อมาจากผู้ร้องชำระเงินยังไม่ครบ กรรมสิทธิ์จึงยังเป็นของผู้ร้องอยู่ การริบทรัพย์เป็นการลงโทษอย่างหนึ่ง เมื่อปรากฏว่าผู้ร้องมิได้มีส่วนกระทำหรือรู้เห็นด้วย ก็ต้องคืนรถยนต์ให้แก่ผู้ร้องไป เพราะพระราชบัญญัติป่าไม้ไม่มุ่งหมายที่จะลงโทษบุคคลอื่นที่มิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิดนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1574/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิดป่าไม้ - รู้เห็นเป็นใจ
เจ้าของเกวียนและโค นำเกวียนและโคของตนไปใช้บรรทุกไม้ท่อนซึ่งมีผู้ตัดโดยผิดกฎหมาย แล้วชักลากออกจากป่าเพื่อประโยชน์ของผู้ตัด โดยผู้ตัดจะเอาไม้นั้น และเจ้าของเกวียนและโคก็รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของผู้ตัด ดังนี้ เกวียนและโคย่อมเป็นยานพาหนะซึ่งได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิด ต้องริบตาม มาตรา 74ทวิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกันปล้นทรัพย์ต้องมีเจตนาและรู้เห็นเป็นใจในการใช้กำลังประทุษร้าย
ความผิดฐานปล้นทรัพย์นั้น จะต้องปรากฏ ข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้ร่วมใจกันในการที่จะใช้กำลังประทุษร้ายนั้นด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 185/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบกันมีไม้หวงห้าม การรับรองความเป็นเจ้าของและการรู้เห็นเป็นใจ
จับไม้หวงห้ามไม่มีตราค่าภาคหลวงได้บนรถบรรทุกซึ่งจอดอยู่ใกล้บ้านเจ้าของผู้ซึ่งได้รับอนุญาตตัดไม้มาหลายปีแล้วขณะจับภรรยามาทำบันทึกรับรองว่าเป็นไม้ของเจ้าของรถ ต่อมาตนเองยังได้มาพูดรับรองต่อเจ้าพนักงานว่าเป็นไม้ของตนอีกดังนี้ย่อมถือได้ว่าเจ้าของรถบรรทุกไม้สมคบกับจำเลยอื่นมีไม้รายนี้ไว้ในความครอบครองด้วย