พบผลลัพธ์ทั้งหมด 127 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 157/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบหมายชี้เขตที่ดินของเจ้าหน้าที่ศึกษาธิการจังหวัด ไม่ถือเป็นการเป็นตัวแทนของวัด
ศึกษาธิการจังหวัดมอบหมายให้เจ้าหน้าที่แผนกศึกษาธิการ ไปชี้เขตวัดเพื่อให้เจ้าพนักงานที่ดินทำการรังวัดออกโฉนดให้แก่วัดดังนี้ ถือไม่ได้ว่า เจ้าหน้าที่ผู้นั้นเป็นตัวแทนของวัด เพราะวัดไม่ได้แต่งตั้งแต่อย่างใด และศึกษาธิการจังหวัด ก็จะตั้งตัวแทนให้วัดไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 823-825/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของไวยาวัจจกร: การมอบอำนาจดำเนินคดีแทนวัด แม้หนังสือมอบอำนาจฉบับแรกไม่ชัดเจน
ไวยาวัจจกรเป็นโจทก์ ฟ้องคดีแทนวัด จำเลยคัดค้านว่าไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะมิได้รับมอบอำนาจโดยถูกต้อง เมื่อ ปรากฎว่า โจทก์มีเอกสารที่คณะสงฆ์วัดนั้นแต่งตั้งโจทก์เป็นไวยาวัจจกร และปรากำว่าเจ้าอาวาสวัดนั้นก็ได้ทำหนัง สือมอบอำนาจให้โจทก์ดำเนินคดีแทนวัดได้อีกฉะบับหนึ่ง แม้หนังสือฉะบับแรกจะมิได้ปรากฎชัดว่าให้โจทก์ดำเนิน คดีได้ก็ดี แต่หนังสือฉะบับหลังมอบอำนาจให้ดำเนินคดีได้ไว้ชัดเจน การที่โจทก์เพิ่งแสดงหนังสือมอบอำนาจฉะบับ หลังภายหลังนั้นไม่เป็นเหตุให้ศาลไม่รับฟัง เพราะตัวการย่อมรับรองการกระทำของตัวแทนได้ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 823 โจทก์จึงฟ้องความแทนวัดได้ โดยชอบ./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 823-825/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของไวยาวัจจกร: การมอบอำนาจดำเนินคดีแทนวัด แม้การมอบอำนาจจะไม่ชัดเจนในตอนแรก แต่การมอบอำนาจภายหลังย่อมใช้ได้
ไวยาวัจจกรเป็นโจทก์ ฟ้องคดีแทนวัด จำเลยคัดค้านว่าไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะมิได้รับมอบอำนาจโดยถูกต้อง เมื่อปรากฏว่าโจทก์มีเอกสารที่คณะสงฆ์วัดนั้นแต่งตั้งโจทก์เป็นไวยาวัจจกร และปรากฏว่าเจ้าอาวาสวัดนั้นก็ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์ดำเนินคดีแทนวัดได้อีกฉบับหนึ่งแม้หนังสือฉบับแรกจะมิได้ปรากฏชัดว่าให้โจทก์ดำเนินคดีได้ก็ดี แต่หนังสือฉบับหลังมอบอำนาจให้ดำเนินคดีได้ไว้ชัดเจน การที่โจทก์เพิ่งแสดงหนังสือมอบอำนาจฉบับหลังภายหลังนั้นไม่เป็นเหตุให้ศาลไม่รับฟัง เพราะตัวการย่อมรับรองการกระทำของตัวแทนได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 823 โจทก์จึงฟ้องความแทนวัดได้ โดยชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1415/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ที่ดินวัด: อาณาเขตจริงสำคัญกว่าโฉนด
วัด 2 วัดเป็นวัดมานมนานด้วยกัน มีอาณาเขตติดต่อกันต่างวัดต่างมีเจ้าอาวาสปกครองมีนิกายต่างกัน การทำสังฆกรรมก็ไม่ได้ทำร่วมกัน และมีเขตพรรษาต่างหากจากกัน ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองรังวัดออกโฉนดที่ดินของ 2 วัดนี้ รวมเป็นโฉนดเดียวกันแล้วลงชื่อวัดหนึ่งเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แต่ผู้เดียว ดังนี้ ก็หาทำให้วัดที่มีชื่อในโฉนดมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินรวมทั้ง 2 วัดแต่ฝ่ายเดียวไม่ ต่างวัดต้องถือกรรมสิทธิ์ตามเขตที่เป็นจริง ของแต่ละวัด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1265/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
มรดกของพระภิกษุตกเป็นของวัด แม้ทายาทครอบครองเกิน 10 ปี ก็อ้างไม่ได้
พระภิกษุถึงมรณะภาพในขณะที่เป็นพระภิกษุอยู่ โดยมิได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้ใคร มรดกของพระภิกษุนั้นย่อมตกได้แก่วัดที่พระภิกษุนั้นอยู่ แม้ทายาทจะครอบครองที่ดินมรดกของพระภิกษุนั้นเกิน 10 ปี นับแต่วันมรณภาพทายาทนั้นก็จะเอาที่ดินมรดกนั้นไม่ได้ เพราะที่ดินมรดกนั้นเป็นของวัด จะใช้อายุความ 10 ปียันวัดให้เสียสิทธิหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1265/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
มรดกพระภิกษุ: ตกเป็นของวัด แม้ครอบครองนานเกิน 10 ปี ก็มิอาจอ้างกรรมสิทธิ์ได้
พระภิกษุถึงมรณภาพในขณะที่เป็นพระภิกษุอยู่ โดยมิได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้ใคร มรดกของพระภิกษุนั้นย่อมตกได้แก่วัดที่พระภิกษุนั้นอยู่ แม้ทายาทจะครอบครองที่ดินมรดกของพระภิกษุนั้นเกิน 10 ปีนับแต่วันมรณภาพทายาทนั้นก็จะเอาที่ดินมรดกนั้นไม่ได้ เพราะที่ดินมรดกนั้นเป็นของวัด จะใช้อายุความ 10 ปียันวัดให้เสียสิทธิหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 254/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ยกให้วัด: อำนาจจัดการทรัพย์สินของวัด และความรับผิดทางละเมิดจากการรื้อถอน
เจ้าอาวาสมีอำนาจและหน้าที่ตาม พระราชบัญญัติปกครองคณะสงฆ์2484 ในเรื่องจัดการทรัพย์สมบัติของวัด ถ้ามีกรณีฟ้องร้องเจ้าอาวาสจะฟ้องร้องเอง หรือมอบอำนาจให้ไวยาวัจกรฟ้องร้องแทนได้
ในสัญญายกกรรมสิทธิ์ที่ดินให้ปรากฏว่า ที่ธรณีสงฆ์เป็นผู้รับนั้น ย่อมเป็นที่เข้าใจว่าเป็นการให้เป็นทรัพย์สมบัติของวัด เพราะที่ธรณีสงฆ์ไม่ใช่บุคคล
ข้อความในสัญญาปรากฏว่า 'สิ่งซึ่งปลูกสร้างลงในที่ดินรายนี้ยอมยกให้ด้วยทั้งสิ้น' ดังนั้นเรือนที่ปลูกอยู่ในที่ดินในขณะทำสัญญายกให้ ย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้รับ ในขณะทำสัญญาแล้วนั้นผู้ใดรื้อถอนภายหลังโดยไม่มีอำนาจอย่างใดย่อมต้องรับผิดในลักษณะละเมิด
ในสัญญายกกรรมสิทธิ์ที่ดินให้ปรากฏว่า ที่ธรณีสงฆ์เป็นผู้รับนั้น ย่อมเป็นที่เข้าใจว่าเป็นการให้เป็นทรัพย์สมบัติของวัด เพราะที่ธรณีสงฆ์ไม่ใช่บุคคล
ข้อความในสัญญาปรากฏว่า 'สิ่งซึ่งปลูกสร้างลงในที่ดินรายนี้ยอมยกให้ด้วยทั้งสิ้น' ดังนั้นเรือนที่ปลูกอยู่ในที่ดินในขณะทำสัญญายกให้ ย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้รับ ในขณะทำสัญญาแล้วนั้นผู้ใดรื้อถอนภายหลังโดยไม่มีอำนาจอย่างใดย่อมต้องรับผิดในลักษณะละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1868/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์เรือนสร้างบนที่ดินของวัด: ส่วนควบหรือสิทธิอื่น?
เจ้าอาวาสปลูกสร้างเรือนพิพาทในที่ดินธรณีสงฆ์ของวัดโดยใช้เงินของผู้อื่นซึ่งมีศรัทธาถวายเพื่อเป็นที่พักเวลามาทำบุญนั้น เรือนนั้นตกเป็นกรรมสิทธิ์ของวัดเพราะเป็นส่วนควบของที่ดิน
สิทธิที่จะปลูกสร้างในที่ดินของผู้อื่นจะเกิดขึ้นได้โดยเจ้าของที่ดินได้ก่อให้เกิดขึ้นโดยนิติกรรม อันผู้มีสิทธิอาจฟ้องร้องบังคับเอาได้
เจ้าอาวาสมีหน้าที่บำรุงรักษาจัดการสมบัติของวัด จึงมีสิทธิมอบอำนาจให้ไวยาวัจกรฟ้องร้องคดีแทนวัดได้
สิทธิที่จะปลูกสร้างในที่ดินของผู้อื่นจะเกิดขึ้นได้โดยเจ้าของที่ดินได้ก่อให้เกิดขึ้นโดยนิติกรรม อันผู้มีสิทธิอาจฟ้องร้องบังคับเอาได้
เจ้าอาวาสมีหน้าที่บำรุงรักษาจัดการสมบัติของวัด จึงมีสิทธิมอบอำนาจให้ไวยาวัจกรฟ้องร้องคดีแทนวัดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 448/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหมิ่นประมาทพระสงฆ์: พระทุกรูปในวัดเป็นผู้เสียหายและมีอำนาจร้องทุกข์ได้
จำเลยกล่าวความหมิ่นประมาทพระทั้งวัดซึ่งมีอยู่รวม 6 องค์ต้องถือว่าทุกองค์เป็นผู้ได้รับความเสียหายและแต่ละองค์ย่อมมีอำนาจร้องทุกข์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมยกทรัพย์ให้พระเพื่อบำรุงศาสนา วัดไม่เป็นผู้รับพินัยกรรม ไม่มีสิทธิฟ้อง
ทำพินัยกรรมว่าขอถวายทรัพย์แก่พระอธิการแดงเพื่อบำรุงวัดนั้นหรือวัดอื่น เมื่อพระอธิการองค์นั้นมรณภาพแล้ว วัดนั้นหรือพระอธิการวัดนั้นจะฟ้องคดีเกี่ยวกับทรัพย์ตามพินัยกรรมไม่ได้ เพราะไม่ถือว่าเป็นพินัยกรรมยกทรัพย์ให้แก่วัดนั้น