พบผลลัพธ์ทั้งหมด 139 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: การกระทำเพื่อหยุดยั้งอันตรายจากอาวุธของผู้ถูกทำร้าย
ผู้ตายจะเอาปืนยิงจำเลย จำเลยจึงเข้าแย่งปืน ๆได้ลั่นขึ้น 1 นัด แล้วผู้ตายเอาลูกกระสุนบรรจุปืนและจะยิงจำเลยอีก จำเลยจึงแทงเอาปืนหลุดจากมือผู้ตายแล้ว ผู้ตายยังจะแย่งเอาปืนอีก จำเลยจึงต้องแทงผู้ตายอีกหลายที และเอาปืน ยิงผู้ตายล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ ไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุ เพราะเมื่อผู้ตายยังพยายามจะแย่งเอาปืนจากจำเลย แล้ว อันตรายก็ยังมีอยู่ จำเลยจะหยุดยั้งเสียไม่ได้เพราะเป็นเวลาฉุกเฉิน การกระทำของจำเลยจึงได้รับการยกเว้น โทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 50.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำเพื่อป้องกันตัวในสถานการณ์ฉุกเฉิน การต่อสู้แย่งปืนไม่เกินสมควรแก่เหตุ
ผู้ตายจะเอาปืนยิงจำเลย จำเลยจึงเข้าแย่งปืนๆได้ลั่นขึ้น 1 นัด แล้วผู้ตายเอาลูกกระสุนบรรจุปืนและจะยิงจำเลยอีก จำเลยจึงแทงเอาปืนหลุดจากมือผู้ตายแล้วผู้ตายยังจะแย่งเอาปืนอีก จำเลยจึงต้องแทงผู้ตายอีกหลายที และเอาปืนยิงผู้ตายล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ ไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุ เพราะเมื่อผู้ตายยังพยายามจะแย่งเอาปืนจากจำเลยแล้ว อันตรายก็ยังมีอยู่ จำเลยจะหยุดยั้งเสียไม่ได้เพราะเป็นเวลาฉุกเฉิน การกระทำของจำเลยจึงได้รับการยกเว้นโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 840/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: การกระชากปืนจากผู้ข่มขู่และป้องกันการแย่งชิง
จำเลยสพายปืนติดตามกระบือที่หาย พบผู้ตายกับพวกกำลังเล่นการพนันกันอยู่ พวกเล่นการพนันเข้าใจว่า จำเลยเป็นตำรวจจึงพากันวิ่งหนี แต่ผู้ตายกับพวกบางคนไม่หนี จึงทราบว่าจำเลยไม่ใช่ตำรวจ ผู้ตายไม่พอใจจึงเดินเข้าไปหา จำเลยเกรงว่าจะเข้ามาแย่งปืน จึงร้องว่า "อย่าเข้ามาเข้ามาจะยิง" ผู้ตายก็กระโดดคว้าปากกระบอกปืนจำเลย พวกผู้ตายจับปืนจำเลยช่วยกันดึง และผู้ตายชักมีดออกขู่ให้จำเลยปล่อยปืน จำเลยไม่ยอมปล่อยปืนและกระชากปืนโดยแรง ปืนไม่หลุดแต่จำเลยล้ม พวกจำเลยล้มทับจำเลย ปืนได้ลั่นถูกผู้ตายตาย ดังนี้ แม้การที่ปืนลั่นจะเป็นโดยจำเลยยิง การกระทำของจำเลยก็เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1348/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำเพื่อจับกุมผู้ร้ายและการป้องกันตัวในสถานการณ์ชุลมุน ถือเป็นการกระทำที่สมควรแก่เหตุ
มีคนเอาปืนยิงมารดาของเพื่อน จึงจะเข้าจับคนร้าย แต่คนร้ายกลับชักมีดทำร้ายผู้จับ ผู้จับจึงกอดปล้ำต่อสู้ เมื่อแย่งมีดได้ก็แทงผู้ร้ายไป 1 ที ผู้ร้ายล้มลงก็เอาเชือกมัด ดังนี้แม้ผู้+จะถึงตายก็ถือได้ว่ากระทำการจับกุมผู้ร้ายและป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุ ได้รับการยกเว้นโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1274/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยสมควรแก่เหตุ: การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากคู่อาฆาตดักทำร้าย
ผู้ตายมีความพยาบาทดักซุ่มทำร้ายจำเลย พอจำเลยกลับจากธุระเดินผ่านไป ผู้ตายเอาก้อนหินขว้างถูกคิ้วจำเลยแตกแล้วใช้มีดแทงจำเลยถูกแขนขวา 3 แผล และหน้าอกตรงราวนมขวาใกล้รักแร้ 1 แผล จำเลยเตะขาผู้ตายแล้วชกถูกแขนผู้ตายมีดหลุดจากมือผู้ตาย จำเลยแย่งมีดมาได้ ผู้ตายกระโดดเข้ากอดปล้ำจำเลย จำเลยจึงใช้มีดแทงผู้ตาย แล้วผู้ตายปล่อยมือที่กอด แล้วล้มลงจำเลยก็ออกวิ่งไปขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้าน ผู้ตายขาดใจตายอยู่ตรงนั้นในเวลาไล่ ๆ กันนั้นด้วยพิษบาดแผลที่ถูกจำเลยแทงรวม 5 แผล แต่ที่ฉกรรจ์ถึงตายอยู่ที่ไหปลาร้าและลิ้นปี่ทะลุใน นอกนั้นเล็กน้อยดังนี้ตามรูปเรื่องดูเป็นการแลกชีวิตต่อชีวิต ไม่มีทางจะยับยั้งชั่งใจได้ดีกว่านั้น และลักษณะการเช่นนี้แม้การกระทำของจำเลยจะหนักเบาไปหน่อย ก็ควรวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่จำเลยซึ่งถูกคู่อาฆาตดักลอบทำร้ายเอาโดยไม่ทันรู้ตัว และกำลังอยู่ในฐานะคับขันมาก ยากแก่การจะคะเนมือให้พอเหมะพอดีได้ นับว่าเป็นการป้องกันชีวิตโดยพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1274/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตนเองโดยสมควรแก่เหตุ: การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากผู้ทำร้าย
ผู้ตายมีความพยาบาทดักซุ่มทำร้ายจำเลย พอจำเลยกลับจากธุระเดินผ่านไป ผู้ตายเอาก้อนหินขว้างถูกคิ้วจำเลยแตกแล้วใช้มีดแทงจำเลยถูกแขนขวา 3 แผล และหน้าอกตรงราวนมขวาใกล้รักแร้ 1 แผล จำเลยเตะขาผู้ตายแล้วชกถูกแขนผู้ตายมีดหลุดจากมือผู้ตาย จำเลยแย่งมีดมาได้ผู้ตายกระโดดเข้ากอดปล้ำจำเลยจำเลยจึงใช้มีดแทงผู้ตาย แล้วผู้ตายปล่อยมือที่กอด และล้มลงจำเลยก็ออกวิ่งไปขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้าน ผู้ตายขาดใจตายอยู่ตรงนั้นในเวลาไล่ๆ กันนั้นด้วยพิษบาดแผลที่ถูกจำเลยแทงรวม 5 แผล แต่ที่ฉกรรจ์ถึงตายอยู่ที่ไหปลาร้าและลิ้นปี่ทะลุใน นอกนั้นเล็กน้อย ดังนี้ตามรูปเรื่องดูเป็นการแลกชีวิตต่อชีวิต ไม่มีทางจะยับยั้งชั่งใจได้ดีกว่านั้น และลักษณะการเช่นนี้แม้การกระทำของจำเลยจะหนักเบาไปหน่อย ก็ควรวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่จำเลยซึ่งถูกคู่อาฆาตดักลอบทำร้ายเอาโดยไม่ทันรู้ตัว และกำลังอยู่ในฐานะคับขันมาก ยากแก่การจะคะเนมือให้พอเหมาะพอดีได้ นับว่าเป็นการป้องกันชีวิตโดยพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 645/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ แม้ผู้ตายมีพฤติกรรมคุกคาม
ผู้ตายเมาสุราถือมีดขึ้นไปบนเรือนของจำเลย ไปพูดกล่าวหาจำเลยต่างๆ และพูดส่อแสดงว่าต้องการหาเรื่องชวนวิวาท และพร้อมกันนั้นผู้ตายขยับมีดจะลุกขึ้นประกอบกับผู้ตายมีนิสัยเกกมะเหรก ชอบเสพสุราและชวนวิวาท จึงทำให้เห็นได้ว่าผู้ตายขยับมีดลุกขึ้นจะทำร้ายจำเลย จำเลยจึงใช้มีดฟันผู้ตายไป ดังนี้ ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัว แต่เมื่อจำเลยฟันผู้ตายครั้งแรกถูกที่หน้าผากผู้ตายหงายหลังไปแล้ว จำเลยยังฟันผู้ตายอีกถึง 4 ครั้งเป็นแผลฉกรรจ์จนผู้ตายถึงแก่ความตายทันทีเช่นนี้ ต้องถือว่าเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: ผู้ถูกทำร้ายมีสิทธิป้องกันตนเองได้ แต่ต้องสมเหตุสมผล
ผู้ตายมีนิสัยเป็นคนพาลเที่ยวตามระรานจำเลย ก่อนตายได้ชกจำเลยด้วยสนับมือและเตะจำเลยจำเลยจึงหยิบไม้ฟืนที่ทางตีผู้ตายไป4-5 ทีเพื่อป้องกันชีวิตจำเลยให้พ้นภยันตรายซึ่งผู้ตายเป็นผู้ก่อขึ้นผู้ตายล้มลงแล้วจำเลยก็มิได้ตีซ้ำอีกแม้ไม้ฟืนที่จำเลยตีผู้ตายไปถูกที่สำคัญ เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายการกระทำของจำเลยก็ยังเป็นการป้องกันไม่เกินสมควรแก่เหตุ จึงไม่ควรลงอาญาแก่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 931/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเองเกินสมควรแก่เหตุ: ข้อโต้แย้งเรื่องข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกา
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงยืนตามศาลชั้นต้นว่า จำเลยกระทำการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ โจทก์ฎีกาคัดค้านว่าจำเลยกระทำเกินสมควรแก่เหตุ ย่อมเป็นการคัดค้านในข้อเท็จจริงหาใช่เป็นปัญหาในข้อกฎหมายไม่จึงต้องห้ามฎีกาตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 219
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 931/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโต้แย้งข้อเท็จจริงเกินขอบเขตฎีกา: การป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงยืนตามศาลชั้นต้นว่า จำเลยกระทำการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ โจทก์ฎีกาคัดค้านว่าจำเลยกระทำเกินสมควรแก่เหตุ ย่อมเป็นการคัดค้านในข้อเท็จจริงหาใช่เป็นปัญหาในข้อกฎหมายไม่ จึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219