พบผลลัพธ์ทั้งหมด 155 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการขาดสิทธิฟ้องร้องเมื่อเกิน 1 ปี
จำเลยให้การว่าที่นาที่สวนเป็นของจำเลยได้มาโดยรับมรดกจากบิดามารดา บิดาตายมาประมาณ 16 ปีแล้ว จำเลยครอบครองแต่ผู้เดียวตลอดมา เป็นคำให้การที่แสดงข้อต่อสู้ถึงสิทธิครอบครองและสิทธิฟ้องร้องแล้ว ถือได้ว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
จำเลยครอบครองที่พิพาทมาแต่ฝ่ายเดียว เมื่อจำเลยตกลงทำบันทึกแบ่งที่พิพาทให้โจทก์ การครอบครองของจำเลยจึงเป็นการครอบครองแทนโจทก์ด้วย แต่ภายหลังจำเลยได้ขอถอนการยกให้ดังกล่าว ถือได้ว่า จำเลยได้ครอบครองเพื่อตนแต่นั้นมา โจทก์เพิ่งมาฟ้องคดีเมื่อพ้นหนึ่งปี ย่อมขาดสิทธิฟ้องร้อง
จำเลยครอบครองที่พิพาทมาแต่ฝ่ายเดียว เมื่อจำเลยตกลงทำบันทึกแบ่งที่พิพาทให้โจทก์ การครอบครองของจำเลยจึงเป็นการครอบครองแทนโจทก์ด้วย แต่ภายหลังจำเลยได้ขอถอนการยกให้ดังกล่าว ถือได้ว่า จำเลยได้ครอบครองเพื่อตนแต่นั้นมา โจทก์เพิ่งมาฟ้องคดีเมื่อพ้นหนึ่งปี ย่อมขาดสิทธิฟ้องร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 616-629/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งเหตุเพลิงไหม้และการปฏิเสธความรับผิดของบริษัทประกันภัย ทำให้ผู้เอาประกันมีสิทธิฟ้องร้องได้ โดยไม่ต้องรอรายละเอียดทรัพย์สิน
แม้กรมธรรม์ประกันภัยมีข้อความว่า เมื่อเกิดความวินาศหรือความเสียหายใด ๆ ผู้เอาประกันต้องยื่นคำเรียกร้องเป็นลายลักษณ์อักษรระบุรายละเอียดแห่งทรัพย์สินที่วินาศและจำนวนเงินแห่งความวินาศภายใน 15 วันก่อนก็ตาม เมื่อเกิดเพลิงไหม้แล้ว โจทก์ผู้เอาประกันได้แจ้งเหตุวินาศภัยให้จำเลยซึ่งเป็นบริษัทผู้รับประกันภัยได้ทราบ ขอให้ชดใช้ค่าเสียหายที่ได้เอาประกันภัยไว้ จำเลยกลับตอบปฏิเสธความรับผิด เช่นนี้ โจทก์ย่อมไม่มีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าวอีก เพราะถึงจะส่งคำเรียกร้องและรายละเอียดไป จำเลยก็ไม่พิจารณาชดใช้ให้ตามคำปฏิเสธความรับผิดอยู่นั่นเอง และการตอบปฏิเสธเช่นนั้น ถือว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ที่จะได้รับชดใช้ค่าเสียหายตามที่ตกลงกันแล้ว โจทก์จึงมีสิทธิเสนอคดีของตนต่อศาลได้ แม้ในกรณีที่จำเลยเฉยเสียมิได้ตอบปฏิเสธความรับผิด แต่ได้ให้เลขานุการของจำเลยไปสำรวจความเสียหาย ซึ่งหากมีการเสียหายที่จะคิดชดใช้ให้บ้าง ก็ถือว่าข้อสัญญาให้ส่งบัญชีรายละเอียดนี้ จำเลยไม่ติดใจให้โจทก์ส่งแล้ว โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยได้ตามนัยฎีกาที่ 1215/2502
คำฟ้องของบริษัทโจทก์ซึ่งมีอำนาจฟ้องอยู่แล้วนั้น ถึงแม้ชั้นยื่นฟ้องจะมีกรรมการบริษัทลงชื่อในคำฟ้องและใบแต่งทนายแต่ผู้เดียว อันเป็นการขัดต่อข้อบังคับของบริษัทโจทก์ก็ตาม เมื่อศาลได้สั่งให้แก้ไขข้อบกพร่องโดยให้กรรมการบริษัทลงชื่อเสียให้ถูกต้อง ซึ่งโจทก์ก็ได้จัดจัดการแก้ไขโดยให้กรรมการบริษัทลงชื่อครบจำนวนตามข้อบังคับแล้วก่อนที่ศาลจะสั่งให้รับฟ้อง เช่นนี้ ก็ต้องถือว่าคำฟ้องนั้นเป็นคำฟ้องที่ถูกต้อง จำเลยจะเถียงว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องไม่ได้.
คำฟ้องของบริษัทโจทก์ซึ่งมีอำนาจฟ้องอยู่แล้วนั้น ถึงแม้ชั้นยื่นฟ้องจะมีกรรมการบริษัทลงชื่อในคำฟ้องและใบแต่งทนายแต่ผู้เดียว อันเป็นการขัดต่อข้อบังคับของบริษัทโจทก์ก็ตาม เมื่อศาลได้สั่งให้แก้ไขข้อบกพร่องโดยให้กรรมการบริษัทลงชื่อเสียให้ถูกต้อง ซึ่งโจทก์ก็ได้จัดจัดการแก้ไขโดยให้กรรมการบริษัทลงชื่อครบจำนวนตามข้อบังคับแล้วก่อนที่ศาลจะสั่งให้รับฟ้อง เช่นนี้ ก็ต้องถือว่าคำฟ้องนั้นเป็นคำฟ้องที่ถูกต้อง จำเลยจะเถียงว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โมฆะของการสมรสซ้อน: คู่สมรสเดิมมีสิทธิฟ้องเพิกถอนการสมรสใหม่
โจทก์กับ ส. เป็นสามีภริยากันอยู่ตามกฎหมายลักษณะผัวเมีย ครั้นเมื่อ ส. ตาย กระทรวงกลาโหมได้จ่ายบำนาญตกทอดให้แก่โจทก์ตลอดมา ต่อมาจำเลยไปคัดค้าน กระทรวงกลาโหมจึงงดจ่าย ปรากฏว่าก่อน ส. ตาย ส. ได้สมรสกับจำเลยโดยจดทะเบียนสมรส การจดทะเบียนสมรสเช่นนี้ย่อมเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1445 (3) , 1490 โจทก์จึงฟ้องจำเลยขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนทะเบียนสมรสนั้นเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1770/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายฝากและการรับซื้อฝากแทนกัน ผู้รับซื้อฝากมีสิทธิฟ้องขับไล่ได้ แม้ตัวการจะยังไม่เปิดเผยชื่อ
โจทก์เป็นกรรมการอำนาวยการบริษัท ท. และบริษัท ทปด.โจทก์ให้ ส.ลงชื่อเป็นผู้ซื้อฝากทรัพย์รายพิพาทจากจำเลย แต่ความจริงปรากฎว่าบริษัท ทปด.เป็นผู้ซื้อฝากที่แท้จริง จำเลยมิได้ไถ่ทรัพย์คืนจนพ้นกำหนด ส.ถึงแก่กรรม ทายาทของ ส. โอนทรัพย์รายพิพาทให้แก่โจทก์เมื่อตัวการที่ไม่เปิดเผยชื่อ คือ บริษัท ทปด.ยังมิได้แสดงตนเข้ารับเอาสัญญาที่โจทก์ได้ทรัพย์รายพิพาท โจทก์ก็คงมีสิทธิตามสัญญานั้นอยู่ มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยและให้จำเลยส่งทรัพย์รายพิพาทให้ เมื่อโจทก์ฟ้องแล้วบริษัท ทปด.ร้องสอดขอเข้ามาในคดีเข้าแทนที่โจทก์รับเอาสัญญาจากโจทก์ โจทก์ก็ยินยอม ดังนี้ บริษัท ทปด.ก็ได้อำนาจจากโจทก์โดยตัวแทนยอมคืนทรัพย์สินให้ตัวการ จำเลยจะคัดค้านว่าโจทก์กับบริษัท ทปอ.ไม่มีอำนาจฟ้องย่อมฟังไม่ได้
และเมื่อพ้นกำหนดการไถ่แล้ว ทรัพย์รายพิพาทไม่ใช่เป็นของจำเลยแล้ว จำเลยก็ไม่มีสิทธิที่จะอยู่และใช้ทรัพย์นี้ได้ต่อไป ดังนั้น โจทก์จะเป็นผู้รับซื้อฝากเองหรือผู้ใดจะอ้างว่าเป็นตัวการเข้ารับเอาสัญญาที่โจทก์รับซื้อฝากแทน ผลก็เท่ากัน ไม่ทำให้เสื่อมสิทธิของจำเลยในการขายฝากนี้แต่อย่างใด เพราะเมื่อจำเลยไม่มีสิทธิในทรัพย์รายพิพาทแล้ว ทรัพย์นั้นจะเป็นของบริษัท ทปด.ผู้ร้องสอดดังที่ผู้ร้องสอดกล่าวอ้างหรือว่าเป็นของบริษัท ท. โดย ส.รับซื้อแทนดังที่จำเลยอ้าง ก็เป็นเรื่องของโจทก์ที่จะยอมรับความเป็นจริง จำเลยไม่อาจอ้างเรื่องสิทธิฟ้องร้องขึ้นต่อสู้ว่าทรัพย์นั้นเป็นของบริษัท ท.
และเมื่อพ้นกำหนดการไถ่แล้ว ทรัพย์รายพิพาทไม่ใช่เป็นของจำเลยแล้ว จำเลยก็ไม่มีสิทธิที่จะอยู่และใช้ทรัพย์นี้ได้ต่อไป ดังนั้น โจทก์จะเป็นผู้รับซื้อฝากเองหรือผู้ใดจะอ้างว่าเป็นตัวการเข้ารับเอาสัญญาที่โจทก์รับซื้อฝากแทน ผลก็เท่ากัน ไม่ทำให้เสื่อมสิทธิของจำเลยในการขายฝากนี้แต่อย่างใด เพราะเมื่อจำเลยไม่มีสิทธิในทรัพย์รายพิพาทแล้ว ทรัพย์นั้นจะเป็นของบริษัท ทปด.ผู้ร้องสอดดังที่ผู้ร้องสอดกล่าวอ้างหรือว่าเป็นของบริษัท ท. โดย ส.รับซื้อแทนดังที่จำเลยอ้าง ก็เป็นเรื่องของโจทก์ที่จะยอมรับความเป็นจริง จำเลยไม่อาจอ้างเรื่องสิทธิฟ้องร้องขึ้นต่อสู้ว่าทรัพย์นั้นเป็นของบริษัท ท.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 141/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระบัญชีห้างหุ้นส่วน: สิทธิฟ้องร้องก่อนปฏิบัติตามขั้นตอนตามกฎหมาย
ผู้เป็นหุ้นส่วนฟ้องห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียนเป็นจำเลยว่า ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนตกลงเลิกห้างหุ้นส่วนแต่ยังมิได้จดทะเบียนเลิกและชำระบัญชี โจทก์เตือนให้ไปจัดการ จำเลยก็เพิกเฉย ขอให้บังคับ จำเลยให้การแต่เพียงว่าผู้เป็นหุ้นส่วนได้ตกลงกันแบ่งทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนกันเอง หนี้สินของห้างหุ้นส่วนก็ไม่มี เป็นการเลิกและชำระบัญชีกันเองเสร็จแล้ว ไม่จำเป็นที่จะขอให้ศาลตั้งผู้ชำระบัญชีตามฟ้องแล้ว ดังนี้ ในชั้นฎีกาจำเลยจะยกปัญหาเรื่องคำฟ้องของโจทก์ขึ้นฎีกาว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1061, 1251 หาใช่ห้างหุ้นส่วนเป็นผู้จัดการชำระบัญชีไม่ คำฟ้องของโจทก์กล่าวแต่เพียงว่าจำเลยไม่จัดการชำระบัญชี ต้องถือว่าโจทก์มิได้ปฏิบัติตามกฎหมายใน 2 มาตรานั้นก่อน จึงไม่มีสิทธินำคดีมาฟ้อง ดังนี้หาได้ไม่
ฟ้องของโจทก์กล่าวว่า ได้เตือนให้จำเลยไปจัดการจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนและชำระบัญชีกับตั้งผู้ชำระบัญชี แต่จำเลยเพิกเฉย ดังนี้ถือได้ว่า จำเลยไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 1061 แล้ว โจทก์ชอบที่จะนำคดีมาฟ้องได้ ส่วนการตั้งผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนที่จดทะเบียนต้องใช้มาตรา 1251 โจทก์มีอำานจฟ้องขอให้ตั้งกองหมายเป็นผู้ชำระบัญชีได้
ฟ้องของโจทก์กล่าวว่า ได้เตือนให้จำเลยไปจัดการจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนและชำระบัญชีกับตั้งผู้ชำระบัญชี แต่จำเลยเพิกเฉย ดังนี้ถือได้ว่า จำเลยไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 1061 แล้ว โจทก์ชอบที่จะนำคดีมาฟ้องได้ ส่วนการตั้งผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนที่จดทะเบียนต้องใช้มาตรา 1251 โจทก์มีอำานจฟ้องขอให้ตั้งกองหมายเป็นผู้ชำระบัญชีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุคคลภายนอกรับประโยชน์จากสัญญาชำระหนี้แทนกัน: สิทธิฟ้องเรียกร้องของโจทก์
โจทก์กู้เงินธนาคารไปให้ ข.กับผู้อื่นหมุนซื้อที่ดิน ต่อมา ข. กับจำเลยทำสัญญากันว่า ข.ยอมยกที่ดินให้จำเลยและจำเลยยอมรับภาระชำระหนี้ที่โจทก์เป็นลูกหนี้ธนาคารอยู่นั้น ดังนี้ โจทก์ย่อมเป็นบุคคลากรภายนอกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มารตรา 375 ที่จะได้รับประโยชน์จากการชำระหนี้ตามสัญญาที่กล่าวนั้น คือ จำเลยจำชำระหนี้ธนาคารแทนโจทก์ เมื่อโจทก์ได้แสดงเจตนารับประโยชน์ตามสัญญานั้นแล้ว แต่จำเลยไม่ปฎิบัติตามสัญญาทำให้โจทก์ต้อกู้เงินมาใช้หนี้ธนาคารเอง โจทก์ย่อมฟ้องเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินตามสัญญานั้นแก่โจทก์ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1870/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์สัญชาติไทย: พยานผู้เชี่ยวชาญและสิทธิฟ้องร้องเมื่อถูกโต้แย้ง
โจทก์อ้างผู้มีความรู้เชี่ยวชาญมาเบิกความเป็นพยานเพื่อพิสูจน์ว่าโจทก์เป็นบุตรของนางกิมไน้ และเป็นพี่ของน้องอีก 3 คน การตรวจพิสูจน์นี้ต้องมีการฉายเอกซเรย์กระดูก ตรวจโลหิต และถ่ายรูปแล้วทำรายงานการตรวจพิสูจน์พร้อมด้วยความเห็นตามหลักวิชาการ การที่โจทก์ให้พยานดูหลักฐานเหล่านี้แล้วส่งต่อศาลก็เพื่อประกอบคำเบิกความของพยานผู้มีความรู้เชี่ยวชาญนี้ รายงานและภาพถ่ายต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ใช่พยานเอกสารโดยตรง โจทก์ไม่จำต้องส่งสำเนาให้แก่จำเลยก่อนวันสืบพยาน 3 วัน
โจทก์จำต้องให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลฮ่องกงออกหนังสือเดินทางให้เป็นบุคคลสัญชาติจีนเพื่อให้ได้เดินทางกลับมาประเทศไทยเท่านั้น ครั้นมาถึง โจทก์ได้อ้างตนต่อกองตรวจคนเข้าเมืองว่าเป็นบุคคลสัญชาติไทย และขอพิสูจน์สัญชาติ แต่ถูกปฏิเสธ ถือได้ว่ากระทรวงมหาดไทย กรมตำรวจ และหัวหน้ากองตรวจคนเข้าเมืองได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามกฎหมาย โจทก์มีอำนาจฟ้องได้
โจทก์จำต้องให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลฮ่องกงออกหนังสือเดินทางให้เป็นบุคคลสัญชาติจีนเพื่อให้ได้เดินทางกลับมาประเทศไทยเท่านั้น ครั้นมาถึง โจทก์ได้อ้างตนต่อกองตรวจคนเข้าเมืองว่าเป็นบุคคลสัญชาติไทย และขอพิสูจน์สัญชาติ แต่ถูกปฏิเสธ ถือได้ว่ากระทรวงมหาดไทย กรมตำรวจ และหัวหน้ากองตรวจคนเข้าเมืองได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามกฎหมาย โจทก์มีอำนาจฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1023/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องร้องขอคุ้มครองสิทธิในสัญชาติ: การพิสูจน์สัญชาติก่อนฟ้องคดี
โจทก์ถือหนังสือเดินทางที่พนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่ฮ่องกงออกให้เป็นคนสัญชาติจีน เมื่อโจทก์เดินทางเข้ามาถึงประเทศไทยเพื่อขออยู่ชั่วคราว กองตรวจคนเข้าเมืองก็อนุญาต แต่ก่อนถึงวันครบกำหนด โจทก์ก็ยื่นฟ้องกรมตำรวจกับหัวหน้ากองตรวจคนเข้าเมืองเป็นจำเลย อ้างว่าโจทก์เป็นคนไทยโดยกำเนิด ขอให้จำเลยระงับคำสั่งให้โจทก์ออกไปจากประเทศไทย ทั้งนี้ โดยโจทก์ให้เหตุผลว่ากลัวจะถูกส่งออกนอกประเทศไทย เมื่อครบกำหนดวันที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ ซึ่งแท้จริงแล้วทางจำเลยยังมิได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์ที่จะอยู่ในประเทศไทยและโจทก์ไม่มีหลักฐานใด แสดงว่าก่อนยื่นฟ้องคดีนี้โจทก์ได้เคยร้องต่อจำเลยว่าโจทก์เป็นคนไทย ไม่ได้ยื่นขอพิสูจน์สัญชาติต่อศาลหรือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ดังนี้ โจทก์ยังไม่มีสิทธิที่จะฟ้องจำเลยต่อศาลได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยจากเงินกู้ระยะยาว: สิทธิฟ้องเรียกดอกเบี้ยค้างชำระมีอายุความ 5 ปี
กฎหมายมิได้ห้ามคิดเอาดอกเบี้ยจากต้นเงินกู้เกิน 5 ปี เป็นแต่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 166เกี่ยวกับสิทธิฟ้องเรียกดอกเบี้ยที่ค้างส่งหรือค้างชำระว่าให้มีกำหนดอายุความ 5 ปี เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 764/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารหลักฐานแชร์เปียหวย ไม่ถือเป็นสัญญากู้ เมื่อชำระหนี้แล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกเงินอีก
จำเลยทำหนังสือให้โจทก์เพียงเพื่อให้เป็นหลักฐานในการเล่นแชร์เปียหวยกัน กรณีก็ต้องบังคับตามข้อตกลงในการเล่นแชร์เปียหวยนั้น เมื่อโจทก์เปียแชร์ได้ จำเลยก็ได้ชำระเงินให้แก่นายวงตามวิธีการที่ตกลงในการเล่นแชร์ ไว้นั้นแล้ว หนี้ในอันที่จำเลยจะต้องชำระก็เป็นอันระงับไปด้วยการชำระหนี้เสร็จแล้ว โจทก์หามีสิทธิจะนำหนังสือที่จำเลยเพียงทำให้ไว้เป็นหลักฐานในการเล่นแชร์ดังกล่าวข้างต้น มาฟ้องเรียกเงินจากจำเลยโดยอ้างว่าเป็นหนังสือสัญญากู้ได้ไม่