พบผลลัพธ์ทั้งหมด 128 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 434/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือรับสภาพหนี้จากบุคคลธรรมดาไม่ต้องปิดอากรแสตมป์ ใช้เป็นพยานหลักฐานได้
หนังสือรับสภาพหนี้มิได้ปิดอากรแสตมป์ใช้เป็นพยานหลักฐานได้หรือไม่แม้จำเลยมิได้ให้การไว้ ศาลก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้
ตามประมวลรัษฎากรเฉพาะใบรับรองหนี้ที่บริษัทสมาคมคณะบุคคลหรือองค์การทำต้องปิดอากรแสตมป์ ใบรับรองหนี้ที่บุคคลธรรมดาทำไม่ต้อง ปิดอากรแสตมป์ก็ใช้เป็นพยานหลักฐานได้
ตามประมวลรัษฎากรเฉพาะใบรับรองหนี้ที่บริษัทสมาคมคณะบุคคลหรือองค์การทำต้องปิดอากรแสตมป์ ใบรับรองหนี้ที่บุคคลธรรมดาทำไม่ต้อง ปิดอากรแสตมป์ก็ใช้เป็นพยานหลักฐานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2438/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้จากการสลักหลังเช็คและมอบอำนาจให้รับชำระหนี้ ถือเป็นหนังสือรับสภาพหนี้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 172
ฎีกาว่าศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อนต่อหลักฐานในสำนวน เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
จำเลยสลักหลังเช็คของผู้อื่นมอบให้โจทก์เพื่อเป็นการชำระหนี้ ต่อมาธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค จำเลยจึงทำหนังสือมอบอำนาจโอนสิทธิเรียกร้องของจำเลยที่มีอยู่ต่อผู้อื่นให้โจทก์เพื่อไปรับชำระหนี้ดังกล่าว ดังนี้ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการรับสภาพหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172
จำเลยสลักหลังเช็คของผู้อื่นมอบให้โจทก์เพื่อเป็นการชำระหนี้ ต่อมาธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค จำเลยจึงทำหนังสือมอบอำนาจโอนสิทธิเรียกร้องของจำเลยที่มีอยู่ต่อผู้อื่นให้โจทก์เพื่อไปรับชำระหนี้ดังกล่าว ดังนี้ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการรับสภาพหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือรับสภาพหนี้ที่ทำหลังอายุความขาดแล้ว ไม่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง และไม่ถือเป็นการรับสภาพหนี้โดยสัญญา
ลูกหนี้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ฝ่ายเดียว เมื่อหนี้ขาดอายุความแล้ว และขอผ่อนผันการดำเนินคดี เจ้าหนี้ไม่ตอบรับ ไม่เป็นการรับสภาพหนี้โดยสัญญา ไม่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1627/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือรับสภาพหนี้มีผลผูกพัน แม้การซื้อขัดมติคณะกรรมการ การซื้อผิดแหล่งถือเป็นความผิดของผู้ซื้อ
จำเลยได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้เป็นผู้ซื้อข้าวโพดให้โจทก์โดยให้ซื้อเฉพาะหน้าฉาง แต่จำเลยไปซื้อข้าวโพดจากประเทศลาว จำเลยได้ยืมเงินทดรองไปจากโจทก์จำนวนหนึ่ง จำเลยซื้อข้าวโพดแล้วยังเหลือเงินอยู่บ้าง ได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ยอมใช้เงินจำนวนที่เหลือนี้แก่โจทก์ จำเลยจะอ้างว่าเนื่องจากรัฐบาลสั่งปิดพรมแดนไม่สามารถนำข้าวโพดเข้ามาในประเทศได้ การชำระหนี้กลายเป็นพ้นวิสัยย่อมฟังไม่ได้ เพราะเป็นความผิดของจำเลยเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1611/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสัญญาขายลดเช็ค: สัญญาต่างตอบแทน อายุความ 10 ปี เริ่มนับใหม่เมื่อมีหนังสือรับสภาพหนี้
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ได้ทำหนังสือสัญญารับสภาพหนี้และรับใช้หนี้ให้ไว้กับโจทก์ โดยยอมรับว่า ตามที่จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาขายลดเช็คไว้กับโจทก์ 10 ฉบับ และตั๋วสัญญาใช้เงินอีก 1 ฉบับ รวมยอดเงินหลังจากชำระหนี้บ้างแล้วคงเหลือเงินจำนวนหนึ่ง จำเลยขอผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์เป็นรายเดือน เดือนละ 20,000 บาท โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน เห็นได้ว่าโจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดในมูลหนี้ตามสัญญาขายลดเช็ค หาได้ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดในฐานะผู้สั่งจ่ายเช็คและผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือผู้สลักหลังเช็คหรือตั๋วสัญญาใช้เงินไม่ จำเลยที่ 1 ก็ให้การรับว่าได้ขายลดเช็คและตั๋วสัญญาใช้เงินจริง เท่ากับให้การรับว่าเป็นหนี้โจทก์ในมูลหนี้ตามสัญญาขายลดเช็คที่โจทก์นำมาฟ้อง
สัญญาขายลดเช็คเป็นสัญญาต่างตอบแทนประเภทหนึ่ง สิทธิเรียกร้องของโจทก์ตามสัญญาขายลดเช็ค ไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 คือมีกำหนดอายุความ 10 ปี สัญญารับสภาพหนี้ทำไว้เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2515 ซึ่งขณะนั้นสิทธิเรียกร้องตามสัญญาขายลดเช็คและตั๋วสัญญาใช้เงินยังไม่ขาดอายุความ จึงทำให้อายุความสะดุดหยุดลงเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันนั้น ถึงวันฟ้องยังไม่เกิน 10 ปี จึงยังไม่ขาดอายุความ
สัญญาขายลดเช็คเป็นสัญญาต่างตอบแทนประเภทหนึ่ง สิทธิเรียกร้องของโจทก์ตามสัญญาขายลดเช็ค ไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 คือมีกำหนดอายุความ 10 ปี สัญญารับสภาพหนี้ทำไว้เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2515 ซึ่งขณะนั้นสิทธิเรียกร้องตามสัญญาขายลดเช็คและตั๋วสัญญาใช้เงินยังไม่ขาดอายุความ จึงทำให้อายุความสะดุดหยุดลงเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันนั้น ถึงวันฟ้องยังไม่เกิน 10 ปี จึงยังไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1056/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือรับสภาพหนี้สมบูรณ์หรือไม่? การข่มขู่เป็นเหตุให้โมฆียะ/โมฆะได้หรือไม่? อำนาจฟ้องและฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้ค่าน้ำมันปิโตรเลี่ยมตามหนังสือรับสภาพหนี้ที่จำเลยทำให้บริษัทโจทก์ไว้ โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นหนี้ค่าน้ำมันปิโตรเลียมอยู่แก่บริษัทโจทก์ จำเลยได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้บริษัทโจทก์ไว้รับว่าเป็นหนี้บริษัทโจทก์อยู่ตามจำนวนในหนังสือรับสภาพหนี้นั้นนั้นจริง แต่จำเลยบิดพลิ้วไม่ชำระ จึงฟ้องขอให้บังคับจำเลยให้ชำระหนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้แก่โจทก์ ดังนี้ เป็นฟ้องที่ได้กล่าวระบุความอันเป็นมูลกรณีที่ทำให้เปิดอำนาจฟ้องร้องของโจทก์ และเหตุที่จำเลยจะต้องรับผิดชอบต่อโจทก์ เป็นฟ้องที่ได้แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหานั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรค 2 แล้ว แม้จะมิได้ระบุว่าหนี้นั้นเป็นหนี้ค่าน้ำมันปิโตรเลี่ยม เมื่อเดือนไหน ปีไหน กี่ครั้ง ก็หาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่
จำเลยอ้างว่า ที่จำเลยยอมทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้บริษัทโจทก์ เพราะบริษัทโจทก์ข่มขู่ว่าจะไม่ส่งน้ำมันที่จำเลยสั่งซื้อให้ จำเลยมีความต้องการที่จะขายน้ำมันของบริษัทโจทก์ต่อไป ทั้งมีลูกค้าสั่งซื้อน้ำมันจากจำเลยรอรับน้ำมันจากจำเลยอยู่เป็นจำนวนมากหากไม่ได้น้ำมันไปจะถูกต่อว่าและเสียลูกค้าจำนวนมากไป ทั้งจะต้องเสียซื่อเสียงในการค้า ตกอยู่ภายใต้บังคับจิตใจไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จึงต้องทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้บริษัทโจทก์ไว้ ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเป็นหนี้บริษัทโจทก์อยู่ จึงย่อมเป็นการถูกต้องชอบธรรมที่บริษัทโจทก์จะเรียกให้จำเลยชำระ หรือให้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้ การกระทำของบริษัทโจทก์เป็นเพียงการหาทางตกลงในการคิดบัญชีหนี้สิน หรือการเร่งรัดเอาชำระหนี้จากจำเลยตามสิทธิที่มีอยู่ของบริษัทโจทก์เท่านั้น หาเป็นการข่มขู่ถึงขนาดที่จะทำให้หนังสือรับสภาพหนี้ดังกล่าวตกเป็นโมฆียะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 126 ไม่
จำเลยอ้างว่า ที่จำเลยยอมทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้บริษัทโจทก์ เพราะบริษัทโจทก์ข่มขู่ว่าจะไม่ส่งน้ำมันที่จำเลยสั่งซื้อให้ จำเลยมีความต้องการที่จะขายน้ำมันของบริษัทโจทก์ต่อไป ทั้งมีลูกค้าสั่งซื้อน้ำมันจากจำเลยรอรับน้ำมันจากจำเลยอยู่เป็นจำนวนมากหากไม่ได้น้ำมันไปจะถูกต่อว่าและเสียลูกค้าจำนวนมากไป ทั้งจะต้องเสียซื่อเสียงในการค้า ตกอยู่ภายใต้บังคับจิตใจไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จึงต้องทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้บริษัทโจทก์ไว้ ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเป็นหนี้บริษัทโจทก์อยู่ จึงย่อมเป็นการถูกต้องชอบธรรมที่บริษัทโจทก์จะเรียกให้จำเลยชำระ หรือให้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้ การกระทำของบริษัทโจทก์เป็นเพียงการหาทางตกลงในการคิดบัญชีหนี้สิน หรือการเร่งรัดเอาชำระหนี้จากจำเลยตามสิทธิที่มีอยู่ของบริษัทโจทก์เท่านั้น หาเป็นการข่มขู่ถึงขนาดที่จะทำให้หนังสือรับสภาพหนี้ดังกล่าวตกเป็นโมฆียะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 126 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1056/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือรับสภาพหนี้สมบูรณ์ แม้มีการโต้แย้งเรื่องการข่มขู่ การฟ้องร้องต้องระบุรายละเอียดหนี้ชัดเจน
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้ค่าน้ำมันปิโตรเลียมตามหนังสือรับสภาพหนี้ที่จำเลยทำให้บริษัทโจทก์ไว้ โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นหนี้ค่าน้ำมันปิโตรเลียมอยู่แก่บริษัทโจทก์ จำเลยได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้บริษัทโจทก์ไว้รับว่าเป็นหนี้บริษัทโจทก์อยู่ตามจำนวนในหนังสือรับสภาพหนี้นั้นจริง แต่จำเลยบิดพลิ้วไม่ชำระจึงฟ้องขอให้บังคับจำเลยให้ชำระหนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้แก่โจทก์ ดังนี้เป็นฟ้องที่ได้กล่าวระบุความอันเป็นมูลกรณีที่ทำให้เกิดอำนาจฟ้องร้องของโจทก์ และเหตุที่จำเลยจะต้องรับผิดชอบต่อโจทก์ เป็นฟ้องที่ได้แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหานั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรค 2 แล้วแม้จะมิได้ระบุว่าหนี้นั้นเป็นหนี้ค่าน้ำมันปิโตรเลียมเมื่อเดือนไหน ปีไหน กี่ครั้งก็หาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่
จำเลยอ้างว่า ที่จำเลยยอมทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้บริษัทโจทก์เพราะบริษัทโจทก์ข่มขู่ว่าจะไม่ส่งน้ำมันที่จำเลยสั่งซื้อให้ จำเลยมีความต้องการที่จะขายน้ำมันของบริษัทโจทก์ต่อไป ทั้งมีลูกค้าสั่งซื้อน้ำมันจากจำเลยรอรับน้ำมันจากจำเลยอยู่เป็นจำนวนมาก หากไม่ได้น้ำมันไปจะต้องถูกต่อว่าและเสียลูกค้าจำนวนมากไป ทั้งจะต้องเสียชื่อเสียงอีกด้วยการข่มขู่ดังกล่าวเป็นภัยที่ถูกคุกคามทำให้หวั่นเกรงต่อเกียรติยศชื่อเสียงในการค้าตกอยู่ภายใต้บังคับจิตใจไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จึงต้องทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้บริษัทโจทก์ไว้ ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเป็นหนี้บริษัทโจทก์อยู่ จึงย่อมเป็นการถูกต้องชอบธรรมที่บริษัทโจทก์จะเรียกให้จำเลยชำระ หรือให้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้ การกระทำของบริษัทโจทก์เป็นเพียงการหาทางตกลงในการคิดบัญชีหนี้สิน หรือการเร่งรัดเอาชำระหนี้จากจำเลยตามสิทธิที่มีอยู่ของบริษัทโจทก์เท่านั้น หาเป็นการข่มขู่อันถึงขนาดที่จะทำให้หนังสือรับสภาพหนี้ดังกล่าวตกเป็นโมฆียะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 126 ไม่
จำเลยอ้างว่า ที่จำเลยยอมทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้บริษัทโจทก์เพราะบริษัทโจทก์ข่มขู่ว่าจะไม่ส่งน้ำมันที่จำเลยสั่งซื้อให้ จำเลยมีความต้องการที่จะขายน้ำมันของบริษัทโจทก์ต่อไป ทั้งมีลูกค้าสั่งซื้อน้ำมันจากจำเลยรอรับน้ำมันจากจำเลยอยู่เป็นจำนวนมาก หากไม่ได้น้ำมันไปจะต้องถูกต่อว่าและเสียลูกค้าจำนวนมากไป ทั้งจะต้องเสียชื่อเสียงอีกด้วยการข่มขู่ดังกล่าวเป็นภัยที่ถูกคุกคามทำให้หวั่นเกรงต่อเกียรติยศชื่อเสียงในการค้าตกอยู่ภายใต้บังคับจิตใจไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จึงต้องทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้บริษัทโจทก์ไว้ ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเป็นหนี้บริษัทโจทก์อยู่ จึงย่อมเป็นการถูกต้องชอบธรรมที่บริษัทโจทก์จะเรียกให้จำเลยชำระ หรือให้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้ การกระทำของบริษัทโจทก์เป็นเพียงการหาทางตกลงในการคิดบัญชีหนี้สิน หรือการเร่งรัดเอาชำระหนี้จากจำเลยตามสิทธิที่มีอยู่ของบริษัทโจทก์เท่านั้น หาเป็นการข่มขู่อันถึงขนาดที่จะทำให้หนังสือรับสภาพหนี้ดังกล่าวตกเป็นโมฆียะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 126 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2462/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของโจทก์, หนังสือรับสภาพหนี้, อายุความ 2 ปีสำหรับค่าบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ
โจทก์วางระเบียบให้พูดวิทยุโทรศัพท์ไปต่างประเทศจากบ้านของผู้ติดตั้งโทรศัพท์ได้ โดยให้ผู้เช่าโทรศัพท์นำเงินค่าธรรมเนียมการใช้วิทยุโทรศัพท์มาชำระภายหลังองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยติดตั้งเครื่องโทรศัพท์ที่บ้านจำเลยตามคำขอของจำเลย จำเลยให้องค์การยูซ่อมเช่าบ้านพร้อมโทรศัพท์ แสดงว่าจำเลยยินยอมให้พนักงานองค์การยูซ่อมใช้เครื่องโทรศัพท์พูดวิทยุโทรศัพท์ไปต่างประเทศได้ด้วย โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องให้จำเลยใช้เงินค่าธรรมเนียมที่พนักงานองค์การยูซ่อมใช้เครื่องโทรศัพท์ดังกล่าวพูดวิทยุทางไกลไปต่างประเทศ
จำเลยมีหนังสือถึงผู้ช่วยผู้อำนวยการกองบัญชีของโจทกว่า จำเลยเข้าใจว่าเป็นการใช้โทรศัพท์ทางไกลข้ามทวีปของผู้เคยอาศัยอยู่ในบ้านจำเลยซึ่งย้ายออกไปแล้ว จำเลยได้มอบเรื่องราวให้องค์การยูซ่อมเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมมามอบให้แก่ส่วนการบัญชีและการเงินของโจทก์แล้ว ได้ผลประการใดจะแจ้งให้ทราบอีกทีหนังสือดังกล่าวไม่มีข้อความแสดงให้เห็นว่าจำเลยรับว่าเป็นหนี้โจทก์และมีเจตนาจะใช้หนี้โดยไม่มีข้อโต้แย้ง จึงไม่เป็นหนังสือรับสภาพหนี้อันจะทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
แม้โจทก์จะเป็นกรมในรัฐบาลมีหน้าที่จัดการสื่อสาร การไปรษณีย์โทรเลขวิทยุเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนก็ดี แต่ผู้ใช้เครื่องโทรศัพท์พูดทางไกลไปต่างประเทศโดยผ่านเครื่องวิทยุโทรศัพท์ของโจทก์จะต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมในการใช้ทุกครั้งเงินค่าธรรมเนียมคือสินจ้าง ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ค้ารับทำการงานเรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(7) จึงมีอายุความ 2 ปี
จำเลยมีหนังสือถึงผู้ช่วยผู้อำนวยการกองบัญชีของโจทกว่า จำเลยเข้าใจว่าเป็นการใช้โทรศัพท์ทางไกลข้ามทวีปของผู้เคยอาศัยอยู่ในบ้านจำเลยซึ่งย้ายออกไปแล้ว จำเลยได้มอบเรื่องราวให้องค์การยูซ่อมเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมมามอบให้แก่ส่วนการบัญชีและการเงินของโจทก์แล้ว ได้ผลประการใดจะแจ้งให้ทราบอีกทีหนังสือดังกล่าวไม่มีข้อความแสดงให้เห็นว่าจำเลยรับว่าเป็นหนี้โจทก์และมีเจตนาจะใช้หนี้โดยไม่มีข้อโต้แย้ง จึงไม่เป็นหนังสือรับสภาพหนี้อันจะทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
แม้โจทก์จะเป็นกรมในรัฐบาลมีหน้าที่จัดการสื่อสาร การไปรษณีย์โทรเลขวิทยุเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนก็ดี แต่ผู้ใช้เครื่องโทรศัพท์พูดทางไกลไปต่างประเทศโดยผ่านเครื่องวิทยุโทรศัพท์ของโจทก์จะต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมในการใช้ทุกครั้งเงินค่าธรรมเนียมคือสินจ้าง ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ค้ารับทำการงานเรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(7) จึงมีอายุความ 2 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2462/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้อง, หนังสือรับสภาพหนี้, อายุความ 2 ปี สำหรับค่าบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ
โจทก์วางระเบียบให้พูดวิทยุโทรศัพท์ไปต่างประเทศจากบ้านของผู้ติดตั้งโทรศัพท์ได้ โดยให้ผู้เช่าโทรศัพท์นำเงินค่าธรรมเนียมการใช้วิทยุโทรศัพท์มาชำระภายหลังองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยติดตั้งเครื่องโทรศัพท์ที่บ้านจำเลยตามคำขอของจำเลย จำเลยให้องค์การยูซ่อมเช่าบ้านพร้อมโทรศัพท์ แสดงว่าจำเลยยินยอมให้พนักงานองค์การยูซ่อมใช้เครื่องโทรศัพท์พูดวิทยุโทรศัพท์ไปต่างประเทศได้ด้วย โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องให้จำเลยใช้เงินค่าธรรมเนียมที่พนักงานองค์การยูซ่อมใช้เครื่องโทรศัพท์ดังกล่าวพูดวิทยุทางไกลไปต่างประเทศ
จำเลยมีหนังสือถึงผู้ช่วยผู้อำนวยการกองบัญชีของโจทก์ว่าจำเลยเข้าใจว่าเป็นการใช้โทรศัพท์ทางไกลข้ามทวีปของผู้เคยอาศัยอยู่ในบ้านจำเลยซึ่งย้ายออกไปแล้ว จำเลยได้มอบเรื่องราวให้องค์การยูซ่อมเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมมามอบให้แก่ส่วนการบัญชีและการเงินของโจทก์แล้ว ได้ผลประการใดจะแจ้งให้ทราบอีกที หนังสือดังกล่าวไม่มีข้อความแสดงให้เห็นว่า จำเลยรับว่าเป็นหนี้โจทก์และมีเจตนาจะใช้หนี้ โดยไม่มีข้อโต้แย้ง จึงไม่เป็นหนังสือรับสภาพหนี้อันจะทำให้อายุความสดุดหยุดลง
แม้โจทก์จะเป็นกรมในรัฐบาลมีหน้าที่จัดการสื่อสาร การไปรษณีย์โทรเลขวิทยุเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนก็ดีแต่ผู้ใช้เครื่องโทรศัพท์พูดทางไกลไปต่างประเทศ โดยผ่านเครื่องวิทยุโทรศัพท์ของโจทก์จะต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมในการใช้ทุกครั้งเงินค่าธรรมเนียมคือสินจ้าง ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ค้ารับทำการงานเรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(7) จึงมีอายุความ 2 ปี
จำเลยมีหนังสือถึงผู้ช่วยผู้อำนวยการกองบัญชีของโจทก์ว่าจำเลยเข้าใจว่าเป็นการใช้โทรศัพท์ทางไกลข้ามทวีปของผู้เคยอาศัยอยู่ในบ้านจำเลยซึ่งย้ายออกไปแล้ว จำเลยได้มอบเรื่องราวให้องค์การยูซ่อมเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมมามอบให้แก่ส่วนการบัญชีและการเงินของโจทก์แล้ว ได้ผลประการใดจะแจ้งให้ทราบอีกที หนังสือดังกล่าวไม่มีข้อความแสดงให้เห็นว่า จำเลยรับว่าเป็นหนี้โจทก์และมีเจตนาจะใช้หนี้ โดยไม่มีข้อโต้แย้ง จึงไม่เป็นหนังสือรับสภาพหนี้อันจะทำให้อายุความสดุดหยุดลง
แม้โจทก์จะเป็นกรมในรัฐบาลมีหน้าที่จัดการสื่อสาร การไปรษณีย์โทรเลขวิทยุเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนก็ดีแต่ผู้ใช้เครื่องโทรศัพท์พูดทางไกลไปต่างประเทศ โดยผ่านเครื่องวิทยุโทรศัพท์ของโจทก์จะต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมในการใช้ทุกครั้งเงินค่าธรรมเนียมคือสินจ้าง ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ค้ารับทำการงานเรียกเอาสินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(7) จึงมีอายุความ 2 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2725/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนังสือรับสภาพหนี้: ฟ้องข้าม 5 ปี คดีขาดอายุความ
ลูกหนี้ทำหนังสือรับสภาพหนี้เงินดอกเบี้ยที่ค้างให้โจทก์ ต่อมาลูกหนี้ตายโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยซึ่งเป็นทายาทของลูกหนี้ให้รับผิดต่อโจทก์เกินกว่า 5 ปีนับแต่วันที่ลูกหนี้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166