พบผลลัพธ์ทั้งหมด 183 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411-1412/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขาดไร้อุปการะ: ศาลลดค่าเสียหาย, ชำระครั้งเดียว, หนี้ร่วมจากละเมิด
การกำหนดค่าขาดอุปการะให้ชำระเป็นรายเดือน เป็นเวลา 10 ปี ย่อมเป็นการยุ่งยาก ควรกำหนดให้ชำระคราวเดียว และเป็นหนี้ร่วมจากมูลละเมิดไม่อาจแบ่งแยกการชำระหนี้ได้ ศาลพิพากษาให้มีผลถึงจำเลยที่มิได้ฎีกาด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 397-398/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ร่วมจากการกู้เงินระหว่างสมรส แม้หย่าแล้ว เจ้าหนี้มีสิทธิยึดทรัพย์สินส่วนหนึ่งได้
การหย่าโดยคำพิพากษามีผลตั้งแต่เวลาคำพิพากษาถึงที่สุดสามีกู้เงินไปสร้างตึกแถวขาย เป็นการประกอบกิจการงานหาเลี้ยงครอบครัวจึงเป็นหนี้ร่วมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1482 เดิม ซึ่งเจ้าหนี้บังคับคดีแก่สินบริคณห์ได้ตามมาตรา 1480 แม้มิได้ฟ้องภริยาด้วยก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2242/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ร่วมกันแบ่งชำระ: การคำนวณหนี้ค่าจ้างทนายตามสัดส่วนทุนทรัพย์และขอบเขตความรับผิดของลูกหนี้แต่ละราย
ส.ในนามของบริษัทลูกหนี้ กับในนามของห้างหุ้นส่วนจำกัด ส.และในฐานะส่วนตัวได้ทำสัญญาจ้างผู้ขอรับชำระหนี้เป็นทนายแก้ต่างในคดีแพ่ง 2 คดี เป็นเงินค่าจ้างจำนวนหนึ่ง คดีแรกเป็นคดีที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. และส. ถูกฟ้องเป็นจำเลย คดีหลังเป็นคดีที่บริษัทลูกหนี้และ ส.ถูกฟ้องเป็นจำเลย ผู้ขอรับชำระหนี้ได้เข้าเป็นทนายความให้บริษัทลูกหนี้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส.และส.ทั้ง 2คดี จนเสร็จสิ้นแล้ว หนี้ค่าจ้างว่าความจำนวนตามสัญญาดังกล่าวเป็นหนี้อันจะแบ่งกันชำระได้ และมีบุคคลหลายคนเป็นลูกหนี้ คือบริษัทลูกหนี้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. และส. เมื่อไม่ปรากฏว่าได้มีการกำหนดไว้ว่าลูกหนี้ทั้งสามจะต้องรับผิดร่วมกันในจำนวนหนี้ทั้งหมด แต่ได้มีการระบุในสัญญาว่าค่าจ้างว่าความนั้นคิดห้าเปอร์เซ็นต์จากจำนวนทุนทรัพย์ของทั้ง 2 คดี เจตนาของคู่กรณีจึงอาจต้องการคิดค่าจ้างว่าความโดยคำนวณจากทุนทรัพย์ของแต่ละคดีแยกจากกันก็ได้ ถึงแม้จะทำสัญญาจ้างว่าความเป็นฉบับเดียวกันก็ตาม กรณีจึงต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 290 คือลูกหนี้แต่ละคนต้องรับผิดเพียงเป็นส่วนละเท่าๆ กัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3289/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่ารักษาพยาบาลภริยาเป็นหนี้ร่วม สามีต้องรับผิดชอบร่วมด้วยตามกฎหมาย
ค่ารักษาพยาบาลเป็นหนี้ร่วมตาม มาตรา 1482(1)เดิม สามีต้องรับผิดร่วมกับภริยา ในเงินที่ภริยาขอให้โจทก์ออกเงินทดรองค่ารักษาพยาบาลภริยาไปก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2772/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกร้องหนี้ร่วมกันระหว่างจำเลยและบุตรชาย แม้ได้รับชำระหนี้บางส่วนจากกองทรัพย์สินล้มละลาย ก็ยังฟ้องเรียกหนี้ส่วนที่เหลือได้
จำเลยเป็นหนี้ค่าซื้อของเชื่อโจทก์ ม. บุตรชายจำเลยได้ออกเช็คชำระหนี้ดังกล่าวบางส่วนแทนจำเลยให้แก่โจทก์ แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค โจทก์ฟ้อง ม. เป็นจำเลยในคดีล้มละลายในมูลหนี้ตามเช็คและได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไว้ต่อมาโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ขอให้ชำระค่าซื้อของเชื่อนั้นทั้งหมดพร้อมทั้งดอกเบี้ย ปรากฏว่าโจทก์ได้รับชำระหนี้ในคดีล้มละลายมาแล้วบางส่วนหลังจากที่ยื่นฟ้องคดีนี้แล้วดังนี้ แม้โจทก์จะได้รับชำระหนี้จำนวนดังกล่าวมาแล้วก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้รับชำระโดยครบถ้วน จึงไม่เป็นการตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องเรียกร้องในส่วนที่ยังไม่ได้รับชำระหนี้จากจำเลยซึ่งต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1652/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดียึดทรัพย์สินส่วนตัวของภรรยาที่เป็นหนี้ร่วม ศาลฎีกาตัดสินว่าโจทก์ไม่มีอำนาจยึด
สินส่วนตัวของภรรยาไม่ใช่ทรัพย์สินที่เป็นของภรรยา ซึ่งตามกฎหมายอาจถือได้ว่าเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือเป็นทรัพย์สินที่อาจบังคับเอาชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 282 วรรคท้าย
โจทก์มิได้ฟ้องผู้ร้องเป็นจำเลย ผู้ร้องมิได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์ แม้หนี้ที่จำเลยที่ 1 เป็นลูกหนี้โจทก์เป็นหนี้ร่วมระหว่างจำเลยที่ 1 กับผู้ร้อง โจทก์ก็ไม่มีอำนาจยึดที่พิพาท ซึ่งเป็นสินส่วนตัวของผู้ร้องเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1039/2492)
โจทก์มิได้ฟ้องผู้ร้องเป็นจำเลย ผู้ร้องมิได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของโจทก์ แม้หนี้ที่จำเลยที่ 1 เป็นลูกหนี้โจทก์เป็นหนี้ร่วมระหว่างจำเลยที่ 1 กับผู้ร้อง โจทก์ก็ไม่มีอำนาจยึดที่พิพาท ซึ่งเป็นสินส่วนตัวของผู้ร้องเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1039/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1652/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์สินส่วนตัวของภรรยาชำระหนี้สามี: ศาลฎีกาคุ้มครองทรัพย์สินส่วนตัว แม้เป็นหนี้ร่วม
สินส่วนตัวของภรรยาไม่ใช่ทรัพย์สินที่เป็นของภรรยาซึ่งตามกฎหมายอาจถือได้ว่าเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือเป็นทรัพย์สินที่อาจบังคับเอาชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 282 วรรคท้าย
โจทก์มิได้ฟ้องผู้ร้องเป็นจำเลย ผู้ร้องมิได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาชองโจทก์ แม้หนี้ที่จำเลยที่ 1 เป็นลูกหนี้โจทก์เป็นหนี้ร่วมระหว่างจำเลยที่ 1 กับผู้ร้องโจทก์ก็ไม่มีอำนาจยึดที่พิพาทซึ่งเป็นสินส่วนตัวของผู้ร้องเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ได้(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1039/2492)
โจทก์มิได้ฟ้องผู้ร้องเป็นจำเลย ผู้ร้องมิได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาชองโจทก์ แม้หนี้ที่จำเลยที่ 1 เป็นลูกหนี้โจทก์เป็นหนี้ร่วมระหว่างจำเลยที่ 1 กับผู้ร้องโจทก์ก็ไม่มีอำนาจยึดที่พิพาทซึ่งเป็นสินส่วนตัวของผู้ร้องเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ได้(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1039/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1536/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้ร่วมสินสมรส: ภรรยาต้องรับผิดชอบหนี้ที่สามีทำขึ้นระหว่างสมรส หากภรรยามีส่วนรู้เห็นและได้รับประโยชน์จากหนี้นั้น
ผู้ร้องรู้เห็นในการที่จำเลยซึ่งเป็นสามีผู้ร้องเข้าเป็นกรรมการสหกรณ์โจทก์รับดำเนินงานจัดซื้อข้าวโพด โดยมีรายได้จากโจทก์วันละ 30 บาท ผู้ร้องเคยพาผู้อื่นไปขายข้าวโพดกับโจทก์ จึงมีส่วนช่วยในการดำเนินงานดังกล่าวหารายได้จุนเจือครอบครัว หนี้ตามคำพิพากษาเป็นค่าเสียหายเกิดจากจำเลยดำเนินงานดังกล่าวและประพฤติผิดสัญญาต่อโจทก์เป็นหนี้ที่จำเลยก่อขึ้นในระหว่างสมรส ถือได้ว่าเป็นหนี้ที่จำเลยกับผู้ร้องเป็นลูกหนี้ร่วมกันผู้ร้องต้องร่วมรับผิด จึงไม่มีสิทธิขอกันส่วนตามคำร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1510/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้จากการจำนองที่ดินสินสมรสเพื่อปรนเปรอภริยาน้อย ไม่เป็นหนี้ร่วม และสามีต้องจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดู
สามีเอาที่ดินสินสมรสไปจำนองธนาคารเอาเงินไปปรนเปรอภริยาน้อยหนี้นี้ไม่เป็นหนี้ร่วมตามมาตรา 1482(1) ที่ใช้อยู่ในขณะนั้น
สามีแพ้คดีที่ภริยาฟ้องหย่าโดยเหตุที่สามีต้องรับผิดฝ่ายเดียว ภริยาไม่มีรายได้ สามีต้องจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูตามฐานะของภริยา และความสามารถของสามี ตามมาตรา 1506, 1508 ซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้น
สามีแพ้คดีที่ภริยาฟ้องหย่าโดยเหตุที่สามีต้องรับผิดฝ่ายเดียว ภริยาไม่มีรายได้ สามีต้องจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูตามฐานะของภริยา และความสามารถของสามี ตามมาตรา 1506, 1508 ซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2526/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้จากการละเมิดของสามี: ไม่เป็นหนี้ร่วมของภริยา
มูลหนี้เกิดจากการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นสามีของผู้ร้องเป็นการกระทำเฉพาะตัว โดยไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้มีส่วนร่วมรู้เห็นในการกระทำละเมิดต่อโจทก์เลย จะถือว่าเป็นหนี้ร่วมที่ผู้ร้องจะต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 3 ต่อโจทก์หาได้ไม่