คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจตนาเป็นเจ้าของ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 118 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 561/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินนามือเปล่า: การสละเจตนาครอบครองทำให้สิทธิสิ้นสุดลง และผู้ครอบครองใหม่ได้สิทธิครอบครอง
การครอบครองที่ดินนามือเปล่าที่ยังไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ ผู้ครอบครองได้แต่สิทธิครอบครองเท่านั้น หาได้กรรมสิทธิ์ไม่
จำเลยได้สละเจตนาครอบครองโดยทำสัญญาขายขาดที่ดินนามือเปล่า ให้โจทก์เข้าครอบครองแล้ว การครอบครองของจำเลยย่อมสิ้นสุดลงตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377 และโจทก์ผู้เข้ายึดถือโดยเจตนาเป็นเจ้าของย่อมได้ซึ่งสิทธิครอบครอง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์จะใช้บังคับสำหรับที่ดินนามือเปล่า หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ที่ดินมือเปล่า แม้สัญญามีข้อบกพร่อง หากครอบครองนานและมีเจตนาเป็นเจ้าของ ย่อมได้กรรมสิทธิ์
โจทก์จำนองที่นามือเปล่า 1 แปลงไว้กับจำเลย โดยมีข้อสัญญาว่า ถ้าครบ 3 ปี ไม่ไถ่โจทก์ยอมยกที่นารายนี้ให้เป็นกรรมสิทธิแก่จำเลย เมื่อครบ 3 ปีแล้วโจทก์ไม่สามารถไถ่คืน จึงมอบที่ให้จำเลยครอบครองตลอดมาเป็นเวลา 15 ปี ดังนี้ แม้สัญญาจะไม่สมบูรณ์ตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 711 ก็ดี ที่พิพาทอยู่ในความครอบครองของจำเลยตลอดมา 15 ปี เป็นการล่วงเลยกำหนดเวลาไถ่ถอนตามสัญญานานแล้ว กรณีมีเหตุแสดงว่าจำเลยครอบครองโดยเจตนาเป็นเจ้าของและทั้งตามบทบัญญัติแห่ง ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 1369 บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินไว้ ท่านสันนิษฐานไว้ก่อนว่า บุคคลนั้นยึดถือเพื่อตนดังนี้ จึงเป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานนั้น เมื่อโจทก์จำเลยไม่ติดใจสืบพะยาน ก็ต้องถือว่าที่พิพาทตกเป็นสิทธิแก่จำเลยแล้ว.
(อ้างฎีกา 279/2490)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ที่ดินมือเปล่า แม้สัญญาไม่สมบูรณ์ แต่การครอบครองนานปีโดยเจตนาเป็นเจ้าของ ทำให้ได้กรรมสิทธิ์
โจทก์จำนองที่นามือเปล่า 1 แปลงไว้กับจำเลย โดยมีข้อสัญญาว่าถ้าครบ 3 ปี ไม่ไถ่โจทก์ยอมยกที่นารายนี้ ให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่จำเลยเมื่อครบ 3 ปีแล้วโจทก์ไม่สามารถไถ่คืน จึงมอบที่ให้จำเลยครอบครองตลอดมาเป็นเวลา15 ปี ดังนี้ แม้สัญญาจะไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 711 ก็ดี ที่พิพาทอยู่ในความครอบครองของจำเลยตลอดมา 15 ปี เป็นการล่วงเลยกำหนดเวลาไถ่ถอนตามสัญญานานแล้ว กรณีมีเหตุแสดงว่าจำเลยครอบครองโดยเจตนาเป็นเจ้าของและทั้งตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1369 บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินไว้ ท่านสันนิษฐานไว้ก่อนว่า บุคคลนั้นยึดถือเพื่อตน ดังนี้ จึงเป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานนั้น เมื่อโจทก์จำเลยไม่ติดใจสืบพยาน ก็ต้องถือว่าที่พิพาทตกเป็นสิทธิแก่จำเลยแล้ว (อ้างฎีกา279/2490)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1032/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินมือเปล่าโดยตัวแทนและการครอบครองปรปักษ์
จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินมือเปล่าร่วมกับ อ. จำเลยได้เชิด อ.เป็นตัวแทนให้ฟ้องคดีและขายนารายนี้ให้แก่โจทก์ และจำเลยปล่อยให้โจทก์ครอบครองโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า 1 ปี โจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิในที่ดินนั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1027/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิร่วมในที่ดิน การสันนิษฐานตามมาตรา 1357 และเจตนาเป็นเจ้าของตามมาตรา 1362
บิดายกที่ดินรายพิพาทให้แก่นางนิตย์โจทก์และจำเลย ต่อมามีการรังวัดขอรับโฉนด การที่นางนิตย์โจทก์ใส่ชื่อจำเลยเป็นเจ้าของร่วมเฉย ๆ โดยไม่แบ่งส่วนไว้ ต้องสันนิษฐานว่ามีส่วนเท่ากัน (ม 1357)
โจทก์อ้างว่านาเป็นของโจทก์มากกว่าครึ่ง คือเท่าที่โจทก์ครอบครองอยู่เวลานี้ จำเลยต่อสู้ว่าได้มอบนาให้โจทก์ไว้ทำต่างดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้ การที่โจทก์ทำนารายพิพาทไม่เป็นเหตุให้โจทก์ได้กรรมสิทธิ โจทก์จำเป็นต้องมีเจตนาเป็นเจ้าของตามมาตรา 1362 ป.พ.พ. ข้อเจตนาเป็นเจ้าของนี้โจทก์นำสืบไม่ได้ก็ไม่มีสิทธิที่จะเอาที่นาทั้งหมดตามที่ครอบครองอยู่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1027/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินให้โดยไม่ระบุส่วนได้ส่วนเสีย สันนิษฐานเป็นเจ้าของร่วมกัน ส่วนเจตนาเป็นเจ้าของต้องพิสูจน์
บิดายกที่ดินรายพิพาทให้แก่นางนิตย์โจทก์และจำเลย ต่อมามีการรังวัดขอรับโฉนด การที่นางนิตย์โจทก์ใส่ชื่อจำเลยเป็นเจ้าของร่วมเฉยๆ โดยไม่แบ่งส่วนไว้ ต้องสันนิษฐานว่ามีส่วนเท่ากัน (ม.1357)
โจทก์อ้างว่านาเป็นของโจทก์มากกว่าครึ่ง คือเท่าที่โจทก์ครอบครองอยู่เวลานี้ จำเลยต่อสู้ว่าได้มอบนาให้โจทก์ไว้ทำต่างดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้การที่โจทก์ทำนารายพิพาทไม่เป็นเหตุให้โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ โจทก์จำเป็นต้องมีเจตนาเป็นเจ้าของตาม ม.1382ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ข้อเจตนาเป็นเจ้าของนี้โจทก์นำสืบไม่ได้ก็ไม่มีสิทธิที่จะเอาที่นาทั้งหมดตามที่ครอบครองอยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 565/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิที่ดินโดยครอบครองปรปักษ์ แม้ผู้ยกให้ไม่มีกรรมสิทธิสมบูรณ์
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยได้เข้าครอบครองที่ดินโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมาเกิน 10 ปีแล้ว จำเลยก็ย่อมได้กรรมสิทธิตามมาตรา 1382 ป.พ.พ. โดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้ที่ยกที่ดินให้จำเลยเข้าครอบครองนั้นจะเป็นเจ้าของที่ดินหรือไม่ และหนังสือยกให้นั้นจะใช้ได้ตามกฎหมายหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 565/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ แม้ผู้ยกให้ไม่มีกรรมสิทธิ์สมบูรณ์
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้เข้าครอบครองที่ดินโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า 10 ปีแล้ว
จำเลยก็ย่อมได้กรรมสิทธิ์ตามมาตรา 1382ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์โดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้ที่ยกที่ดินให้จำเลยเข้าครอบครองนั้นจะเป็นเจ้าของที่ดินหรือไม่และหนังสือยกให้นั้นจะใช้ได้ตามกฎหมายหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 136/2477

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ตาม ป.พ.พ.ม.1382 จากพฤติการณ์การทำประโยชน์
ที่ดิน ป.พ.พ.ม.1382 ปกครองปรปักษ์พฤตติการณ์อย่างไรฟังว่าเป็นการปกครองโดยปรปักษ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9173/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต้องมีเจตนาเป็นเจ้าของและแจ้งให้เจ้าของเดิมทราบ หากไม่แจ้งสิทธิครอบครองยังไม่สมบูรณ์
ผู้ร้องทั้งสามเป็นฝ่ายกล่าวอ้างในคำร้องขอว่า ผู้ร้องทั้งสามร่วมกันครอบครองที่ดินพิพาทโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาเกินกว่า 10 ปี ต่อเนื่องกับการครอบครองยึดถือเพื่อตนของบิดามารดาของผู้ร้องทั้งสามแต่ละคนที่ บ. ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินพิพาทบอกยกที่ดินพิพาทให้ตั้งแต่ประมาณปี 2500 ที่ดินพิพาทจึงตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องทั้งสามร่วมกันโดยการครอบครองปรปักษ์ ผู้คัดค้านโต้แย้งว่า บ. ให้บิดามารดาของผู้ร้องแต่ละคนอาศัยอยู่ในที่ดินพิพาทโดยไม่มีค่าตอบแทนตั้งแต่ประมาณปี 2500 หลังจากนั้นบิดามารดาของผู้ร้องทั้งสามแต่ละคนตลอดจนผู้ร้องทั้งสามไม่เคยบอกกล่าวหรือแสดงเจตนาแก่ บ. หรือผู้คัดค้านซึ่งเป็นทายาทว่าจะเปลี่ยนลักษณะการครอบครองโดยจะไม่ครอบครองแทนอีกต่อไป ภาระการพิสูจน์จึงตกแก่ผู้ร้องทั้งสาม
ผู้ร้องทั้งสามบรรยายคำร้องขอว่า ผู้ร้องทั้งสามครอบครองที่ดินพิพาทโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของสืบต่อจากบิดามารดาที่ถึงแก่ความตายแล้วร่วมกันเป็นเวลานานกว่า 20 ปี และมีคำขอให้ศาลมีคำสั่งว่าที่ดินพิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องทั้งสามร่วมกันโดยการครอบครองปรปักษ์ กรณีมิใช่คำร้องขอที่ประสงค์ขอให้ศาลมีคำสั่งว่า ที่ดินพิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องแต่ละคนโดยการครอบครองปรปักษ์ตามเนื้อที่ที่แยกกันครอบครองเป็นส่วนสัด จึงย่อมจะคิดแยกทุนทรัพย์ที่ดินตามที่ผู้ร้องแต่ละคนครอบครองอยู่ไม่ได้ ทุนทรัพย์ในคดีนี้ต้องถือตามราคาที่ดินพิพาททั้งแปลงที่คู่ความตีราคา 560,000 บาท
of 12