คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจ้าของร่วม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 264 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1782/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดินโดยหลอกลวงและสิทธิในทรัพย์สินร่วม กรณีทายาทรับมรดกและเจ้าของร่วม
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการให้ที่ดินพิพาทระหว่างโจทก์ที่ 1 กับจำเลยโดยบรรยายข้อเท็จจริงมาในฟ้องเกี่ยวกับเจตนาในการทำนิติกรรมรายนี้ว่า โจทก์ที่ 1 ถูกจำเลยหลอกลวงว่าให้ทำนิติกรรมเสียทีหนึ่งก่อน แล้วค่อยโอนให้โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 4ในภายหลัง โจทก์ที่ 1 จึงโอนที่ดินพิพาทให้จำเลยโดยไม่รู้เท่าทันถึงเหตุการณ์ โจทก์ที่ 1 ไม่มีเจตนายกที่ดินพิพาทให้จำเลยแต่เพียงผู้เดียวเป็นฟ้องที่กล่าวโดยชัดแจ้งพอให้จำเลยเข้าใจสภาพแห่งข้อหาของโจทก์แล้ว แม้โจทก์จะระบุด้วยว่าการกระทำดังกล่าวเป็นกลฉ้อฉลและเป็นการแสดงเจตนาลวงอันเป็นการขัดกันก็เป็นการยกเอากฎหมายมาปรับกับข้อเท็จจริงตามความเข้าใจของโจทก์ หาเป็นเหตุที่จะถือว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมไม่
โจทก์ฟ้องเรียกที่ดินพิพาทจากจำเลยทั้งหมด แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าโจทก์ที่ 1 ได้ยกส่วนของตนให้จำเลยไปแล้ว และโจทก์ที่ 2 ถึงที่ 4 มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทในฐานะทายาทผู้รับมรดกของ ส. บิดา ซึ่งยังมีทายาทอื่นอีก เช่น จำเลย อีกด้วย. เฉพาะส่วนของ โจทก์ที่ 1ในฐานะภริยาของ ส. ซึ่งยกให้จำเลยนั้น ข้อเท็จจริงก็ยังฟังเป็นยุติไม่ได้ว่ามีอยู่ครึ่งหนึ่งหรือ 1 ใน 3 ดังนี้ ยังไม่สมควรที่ศาลจะพิพากษาให้แบ่งส่วนในที่ดินพิพาทไปเลย ควรให้โจทก์ที่ 2 ถึงที่ 4 มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยในโฉนดที่ดินรายพิพาทตามคำขอของโจทก์เท่านั้นฝ่ายใดจะมีกรรมสิทธิ์อยู่เป็นส่วนเท่าใด เป็นเรื่องที่จะต้องไปว่ากล่าวเอาแก่กันเป็นอีกคดีหนึ่งต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1090/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของร่วมมรดกและการบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินร่วม ศาลยืนยึดสิทธิเจ้าหนี้
ผู้ตายถึงแก่กรรมโดยมิได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกสวนของตนให้แก่ผู้ใดไว้ สวนจึงเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาทโดยธรรมทุกคน
ครอบครัวของจำเลยอยู่ร่วมเรือนเดียวกันกับผู้ร้อง จำเลยแสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้มีส่วนเป็นเจ้าของสวนยางพารารายนี้เช่น เป็นผู้นำสำรวจที่ดินสวนยางพารานี้เพื่อเสียภาษีบำรุงท้องที่และเป็นผู้ไปเสียภาษีบำรุงท้องที่เอง ทั้งได้ไปแจ้งใบสุทธิยางผู้ร้องรับว่าสวนยางพารายังมิได้แบ่งปันกันในระหว่างทายาท ฉะนั้นจำเลยซึ่งเป็นทายาทด้วยผู้หนึ่ง จึงมีสิทธิเป็นเจ้าของสวนยางพารารวมอยู่ด้วย
โจทก์เป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษา จึงมีสิทธิที่จะยึดสวนยางพาราซึ่งจำเลยเป็นเจ้าของรวมบางส่วนเพื่อบังคับชำระหนี้ได้
ผู้ร้องขัดทรัพย์ซึ่งเป็นเจ้าของร่วมกันไม่มีอำนาจร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด
โจทก์มีสิทธิจะยึดที่ดินแปลงใดของจำเลยตามคำพิพากษามาบังคับชำระหนี้ก็ได้เพราะโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้มีสิทธิที่จะให้ชำระหนี้ของตนจากทรัพย์สินของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้โดยสิ้นเชิง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1090/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของร่วมมรดกและการบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินรวม เจ้าของร่วมไม่มีอำนาจขัดทรัพย์
ผู้ตายถึงแก่กรรมโดยมิได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกสวนของตนให้แก่ผู้ใดไว้ สวนจึงเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาทโดยธรรมทุกคน
ครอบครัวของจำเลยอยู่ร่วมเรือนเดียวกันกับผู้ร้อง จำเลยแสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้มีส่วนเป็นเจ้าของสวนยางพารารายนี้เช่น เป็นผู้นำสำรวจที่ดินสวนยางพารานี้เพื่อเสียภาษีบำรุงท้องที่ และเป็นผู้ไปเสียภาษีบำรุงท้องที่เอง ทั้งได้ไปแจ้งใบสุทธิยางผู้ร้องรับว่าสวนยางพารายังมิได้แบ่งปันกันในระหว่างทายาท ฉะนั้น จำเลยซึ่งเป็นทายาทด้วยผู้หนึ่ง จึงมีสิทธิเป็นเจ้าของสวนยางพารารวมอยู่ด้วย
โจทก์เป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษา จึงมีสิทธิที่จะยึดสวนยางพาราซึ่งจำเลยเป็นเจ้าของรวมบางส่วนเพื่อบังคับชำระหนี้ได้
ผู้ร้องขัดทรัพย์ซึ่งเป็นเจ้าของร่วมกันไม่มีอำนาจร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด
โจทก์มีสิทธิจะยึดที่ดินแปลงใดของจำเลยตามคำพิพากษามาบังคับชำระหนี้ก็ได้เพราะโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้มีสิทธิที่จะให้ชำระหนี้ของตนจากทรัพย์สินของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้โดยสิ้นเชิง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1883/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องคดีบุกรุกที่ดินร่วม ศาลอนุญาตได้แม้สืบพยานแล้ว หากไม่กระทบฐานะเจ้าของร่วม
โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง แม้จำเลยคัดค้าน ศาลเห็นว่าการที่โจทก์ถอนฟ้องไม่ทำให้ฐานะของจำเลยที่เป็นเจ้าของร่วมกับโจทก์ในที่ดินพิพาทเปลี่ยนแปลงไป แม้จะสืบพยานไปบ้างแล้วก็มีอำนาจอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1883/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องคดีครอบครองปรปักษ์ ไม่กระทบสิทธิเจ้าของร่วม ศาลอนุญาตถอนฟ้องได้แม้มีการสืบพยานแล้ว
โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง แม้จำเลยคัดค้าน ศาลเห็นว่าการที่โจทก์ถอนฟ้องไม่ทำให้ฐานะของจำเลยที่เป็นเจ้าของร่วมกับโจทก์ในที่ดินพิพาทเปลี่ยนแปลงไป แม้จะสืบพยานไปบ้างแล้ว ก็มีอำนาจอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1543/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์ในกองมรดกเพื่อชำระหนี้: แม้ผู้รับมรดกมีชื่อเป็นเจ้าของร่วม ก็ไม่ตัดสิทธิโจทก์ในการยึดทรัพย์
ก่อนศาลพิพากษาให้จำเลยในฐานะทายาทผู้รับมรดกของ พ. ชำระหนี้เงินกู้แก่โจทก์จำเลยและผู้ร้องขัดทรัพย์ได้จดทะเบียนลงชื่อเป็นผู้รับมรดกที่ดินของ พ. เช่นนี้แม้จำเลยและผู้ร้องจะมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ที่พิพาทแทน พ. เจ้ามรดกแล้วก็ตามแต่ที่พิพาทก็ยังเป็นทรัพย์ในกองมรดกของ พ. อยู่นั่นเอง โจทก์ชอบที่จะยึดมาชำระหนี้ได้
แม้จะฟังว่าจำเลยที่ 1 และผู้ร้องมีชื่อเป็นเจ้าของร่วมในโฉนดที่ดินแปลงที่โจทก์ยึดก็ตาม แต่เมื่อยังไม่มีการแบ่งแยกโฉนดเป็นสัดส่วน จำเลยจึงยังมีส่วนเป็นเจ้าของที่ดินแปลงนี้ด้วย โจทก์มีสิทธินำเจ้าพนักงานบังคับยึดที่ดินแปลงนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1543/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์ในกองมรดกเพื่อชำระหนี้ แม้ผู้รับมรดกจะมีชื่อเป็นเจ้าของร่วม ก็ยังยึดได้หากยังไม่ได้แบ่งแยกสัดส่วน
ก่อนศาลพิพากษาให้จำเลยในฐานะทายาทผู้รับมรดกของ พ.ชำระหนี้เงินกู้แก่โจทก์ จำเลยและผู้ร้องขัดทรัพย์ได้จดทะเบียนลงชื่อเป็นผู้รับมรดกที่ดินของ พ. เช่นนี้ แม้จำเลยและผู้ร้องจะมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ที่พิพาทแทน พ. เจ้ามรดกแล้วก็ตาม แต่ที่พิพาทก็ยังเป็นทรัพย์ในกองมรดกของ พ. อยู่นั่นเอง โจทก์ชอบที่จะยึดมาชำระหนี้ได้
แม้จะฟังว่าจำเลยที่ 1 และผู้ร้องมีชื่อเป็นเจ้าของร่วมในโฉนดที่ดินแปลงที่โจทก์ยึดก็ตาม แต่เมื่อยังไม่มีการแบ่งแยกโฉนดเป็นสัดส่วน จำเลยจึงยังมีส่วนเป็นเจ้าของที่ดินแปลงนี้ด้วยโจทก์มีสิทธินำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินแปลงนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 136/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งที่ดินมรดก เจ้าของร่วม และการหักชดใช้ค่าสิ่งปลูกสร้างที่สุจริต
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินจากจำเลยในฐานะเจ้าของร่วมแต่ได้ความว่า ในที่พิพาทมีเรือนของโจทก์ปลูกไว้โดยสุจริตหนึ่งหลัง ดังนี้ เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยแบ่งที่พิพาทให้โจทก์การที่สั่งไว้ในคำพิพากษาด้วยว่า ถ้าตกลงแบ่งกันไม่ได้ ให้ประมูลราคากันระหว่างคู่ความ มิฉะนั้นก็ให้ขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่งกัน และการประมูลราคากันหรือขายทอดตลาดนี้ ให้รวมทั้งเรือนนั้นด้วย เงินที่ได้ให้จัดสรรชำระค่าเรือนแก่โจทก์ก่อนนำไปแบ่งกัน นั้น ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น เพราะที่ดินตามฟ้องย่อมหมายถึงส่วนควบ-ด้วย และการที่โจทก์ได้ปลูกเรือนนี้ในที่พิพาท ก็เป็นการใช้ทรัพย์สินในฐานะเจ้าของรวมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1360 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1887/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินยังไม่สมบูรณ์หากยังมิได้จดทะเบียน การยึดที่ดินทำได้แม้มีเจ้าของร่วม
การซื้อขายที่ดินมีโฉนด แม้ผู้ซื้อจะชำระราคาเรียบร้อยและเข้าครอบครองที่ดินแล้วก็ตาม. ถ้ายังไม่ได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์. การซื้อขายย่อมยังไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย. ฉะนั้น ผู้ซื้อที่ดินโฉนดพิพาทส่วนหนึ่งตามกรณีข้างต้นนี้ย่อมไม่มีสิทธิร้องขอให้ปล่อยที่ดินส่วนของผู้ซื้อซึ่งถูกโจทก์เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ขายนำยึดบังคับชำระหนี้. เพราะแม้แต่การยึดที่ดินที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษากับผู้อื่นมีกรรมสิทธิ์รวมโดยยังมิได้แบ่งกันเป็นส่วนสัดนั้น. เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็ยังมีสิทธิยึดได้ทั้งแปลง.แต่คดีนี้ผู้ร้องยังไม่มีกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินที่โจทก์นำยึด จึงไม่มีสิทธิร้องขัดทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1608/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมโดยปริยายในการขายที่ดินมรดก เจ้าของร่วมไม่ได้คัดค้านถือเป็นการยินยอม
การที่จำเลยที่ 2 ขายที่ดินมือเปล่าซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยโดยที่จำเลยที่ 1 ก็รู้เรื่องมิได้คัดค้านประการใดนั้นย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ยินยอมให้จำเลยที่ 2 ขายส่วนของจำเลยที่ 1 โดยปริยายด้วย
of 27