พบผลลัพธ์ทั้งหมด 154 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 323/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องที่ขาดการลงชื่อ: ศาลมีอำนาจสั่งให้แก้ไขเพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปได้
สืบพยานโจทก์ได้ 1 ปาก โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลว่าคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ โจทก์ยังมิได้ลงชื่อทั้งเป็นสำเนาด้วย โจทก์ขอส่งคำขอท้ายฟ้องอันแท้จริงใหม่ศาลชั้นต้นสอบถามจำเลยจำเลยว่าแล้วแต่ศาลจะสั่งดังนี้ศาลชั้นต้นจะสั่งยกคำร้องของโจทก์ หาชอบไม่ น่าจะเป็นความพลั้งเผลอของผู้ที่กลัดคำฟ้องกลัดสับสนกันไป หากศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์จัดทำใหม่ให้ถูกต้อง ก็ไม่ทำให้จำเลยเสียหายในการดำเนินคดีหรือต่อสู้คดีแต่ประการใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051-1055/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องและการยอมรับตัวแทนของบริษัท แม้มีข้อจำกัดตามข้อบังคับบริษัทก็ผูกพันได้
แม้จำเลยจะได้รับสำเนาคำร้องของโจทก์ที่ขอแก้ไขและเพิ่มเติมฟ้องยังไม่ถึง 3 วัน ก่อนศาลชั้นต้นทำคำสั่งอนุญาตก็ดี แต่เมื่อปรากฎว่าจำเลยแถลงไม่คัดค้านที่โจทก์ขอแก้ทั้งได้ทำคำให้การแก้ฟ้องเพิ่มเติมแล้ว จำเลยจะมาคัดค้านในชั้นฎีกาไม่ได้.
พฤติการณ์ที่บริษัทจำกัดจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ได้ปฏิบัติมา เห็นได้ว่าบริษัทจำเลยที่ 1 รู้แล้วยอมให้จำเลยที่ 2 เชิดตัวเองแสดงกับบุคคลภายนอกว่าเป็นตัวแทนของตน แม้ข้อบังคับของบริษัทมีว่าต้องมีกรรมการ 2 นายลงชื่อในนิติกรรม จึงจะผูกพันจำเลยที่ 1 ได้ บริษัทจำเลยที่ 1 ก็ไม่พ้นความรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้ทำการโดยสุจริต.
พฤติการณ์ที่บริษัทจำกัดจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ได้ปฏิบัติมา เห็นได้ว่าบริษัทจำเลยที่ 1 รู้แล้วยอมให้จำเลยที่ 2 เชิดตัวเองแสดงกับบุคคลภายนอกว่าเป็นตัวแทนของตน แม้ข้อบังคับของบริษัทมีว่าต้องมีกรรมการ 2 นายลงชื่อในนิติกรรม จึงจะผูกพันจำเลยที่ 1 ได้ บริษัทจำเลยที่ 1 ก็ไม่พ้นความรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้ทำการโดยสุจริต.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051-1055/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมโดยปริยายของบริษัทต่อการกระทำของตัวแทน แม้ขัดต่อข้อบังคับบริษัท และการแก้ไขฟ้อง
แม้จำเลยจะได้รับสำเนาคำร้องของโจทก์ที่ขอแก้ไขและเพิ่มเติมฟ้องยังไม่ถึง 3 วันก่อนศาลชั้นต้นทำคำสั่งอนุญาตก็ดีแต่เมื่อปรากฏว่าจำเลยแถลงไม่คัดค้านที่โจทก์ขอแก้ทั้งได้ทำคำให้การแก้ฟ้องเพิ่มเติมแล้วจำเลยจะมาคัดค้านในชั้นฎีกาไม่ได้
พฤติการณ์ที่บริษัทจำกัดจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2ปฏิบัติมา เห็นได้ว่าบริษัทจำเลยที่ 1 รู้แล้วยอมให้จำเลยที่ 2 เชิดตัวเองแสดงกับบุคคลภายนอกว่าเป็นตัวแทนของตนแม้ข้อบังคับของบริษัทมีว่าต้องมีกรรมการ 2 นายลงชื่อในนิติกรรม จึงจะผูกพันจำเลยที่ 1 ได้บริษัทจำเลยที่ 1 ก็ไม่พ้นความรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้ทำการโดยสุจริต
พฤติการณ์ที่บริษัทจำกัดจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2ปฏิบัติมา เห็นได้ว่าบริษัทจำเลยที่ 1 รู้แล้วยอมให้จำเลยที่ 2 เชิดตัวเองแสดงกับบุคคลภายนอกว่าเป็นตัวแทนของตนแม้ข้อบังคับของบริษัทมีว่าต้องมีกรรมการ 2 นายลงชื่อในนิติกรรม จึงจะผูกพันจำเลยที่ 1 ได้บริษัทจำเลยที่ 1 ก็ไม่พ้นความรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้ทำการโดยสุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องคดีอาญา: เหตุผลสมควร, ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ, อนุญาตได้ก่อนมีคำพิพากษา
โจทก์ฟ้องว่าเหตุเกิดเวลากลางคืนเพราะพยานโจทก์ทุกปากในชั้นสอบสวนว่าเกิดเหตุเวลา 19.00 น. แต่ชั้นศาลพิจารณาพยานโจทก์ทุกปากให้การว่าเกิดเหตุเวลา 17.00 น. เศษ โจทก์จึงขอแก้เวลาเกิดเหตุอันเป็นรายละเอียดซึ่งต่อสู้แถลงในฟ้องก่อนศาลพิพากษาดังนี้เมื่อไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบหลงข้อต่อสู้ย่อมแก้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องคดีอาญา: เหตุสมควร & ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ
โจทก์ฟ้องว่าเหตุเกิดเวลากลางคืนเพราะพยานโจทก์ทุกปากในชั้นสอบสวนว่าเกิดเหตุเวลา 19.00 น. แต่ชั้นศาลพิจารณาพยานโจทก์ทุกปากให้การว่าเกิดเหตุเวลา 17.00 น.เศษโจทก์จึงขอแก้เวลาเกิดเหตุอันเป็นรายละเอียดซึ่งต่อสู้แถลงในฟ้องก่อนศาลพิพากษาดังนี้เมื่อไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบหลงข้อต่อสู้ย่อมแก้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องและการใช้พยานหลักฐานจากสัญญาที่มีการแก้ไขอากรแสตมป์
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตาม สัญญากู้ 7,000 บาท แล้วยื่นคำร้องเพิ่มเติมฟ้องว่าเดิมจำเลยกู้ไป 6,000 บาทแล้วไม่ชำระจึงทำสัญญาใหม่รวมทั้งดอกเบี้ยด้วยเป็น 7,000 บาท ตามฟ้อง ดังนี้เป็นการอธิบายฟ้องเดิมของโจทก์ที่ว่าเหตุที่ฟ้องจำเลยตามสัญญากู้ฉบับหลังมีที่มาอย่างไร ไม่เป็นเคลือบคลุม โจทก์ย่อมแก้ไขข้อหาได้
การขีดฆ่าอากรแสตมป์ในสัญญากู้ แม้ผู้กู้จะมิได้ขีดฆ่าเอง แต่ผู้เขียนเป็นผู้ขีดฆ่านั้น ก็ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ (ฎีกาที่ 561/2487)
การขีดฆ่าอากรแสตมป์ในสัญญากู้ แม้ผู้กู้จะมิได้ขีดฆ่าเอง แต่ผู้เขียนเป็นผู้ขีดฆ่านั้น ก็ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ (ฎีกาที่ 561/2487)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องและการใช้พยานหลักฐานจากเอกสารสัญญากู้ที่มีการแก้ไข
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ 7,000 บาท แล้วยื่นคำร้องเพิ่มเติมฟ้องว่าเดิมจำเลยกู้ไป 6,000 บาทแล้วไม่ชำระ จึงทำสัญญาใหม่รวมทั้งดอกเบี้ยด้วยเป็น 7,000 บาทตามฟ้อง ดังนี้เป็นการอธิบายฟ้องเดิมของโจทก์ที่ว่าเหตุที่ฟ้องจำเลยตามสัญญากู้ฉบับหลังมีที่มาอย่างไร ไม่เป็นเคลือบคลุม โจทก์ย่อมแก้ไขข้อหาได้
การขีดฆ่าอากรแสตมป์ในสัญญากู้ แม้ผู้กู้จะมิได้ขีดฆ่าเอง แต่ผู้เขียนเป็นผู้ขีดฆ่านั้น ก็ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ (ฎีกาที่ 561/2487)
การขีดฆ่าอากรแสตมป์ในสัญญากู้ แม้ผู้กู้จะมิได้ขีดฆ่าเอง แต่ผู้เขียนเป็นผู้ขีดฆ่านั้น ก็ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ (ฎีกาที่ 561/2487)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องและพยานหลักฐานจากเอกสารสัญญากู้ที่มีการแก้ไข การฟ้องไม่เคลือบคลุมหากเป็นการอธิบายเหตุผลของฟ้องเดิม
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ 7,000 บาท แล้วยื่นคำร้องเพิ่มเติมฟ้องว่าเดิมจำเลยกู้ไป 6,000 บาทแล้วไม่ชำระ จึงทำสัญญาใหม่รวมทั้งดอกเบี้ยด้วยเป็น 7,000 บาทตามฟ้อง ดังนี้เป็นการอธิบายฟ้องเดิมของโจทก์ที่ว่าเหตุที่ฟ้องจำเลยตามสัญญากู้ฉบับหลังมีที่มาอย่างไร ไม่เป็นเคลือบคลุม โจทก์ย่อมแก้ไขข้อหาได้
การขีดฆ่าอากรแสตมป์ในสัญญากู้ แม้ผู้กู้จะมิได้ขีดฆ่าเอง แต่ผู้เขียนเป็นผู้ขีดฆ่านั้น ก็ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ (ฎีกาที่ 561/2487)
การขีดฆ่าอากรแสตมป์ในสัญญากู้ แม้ผู้กู้จะมิได้ขีดฆ่าเอง แต่ผู้เขียนเป็นผู้ขีดฆ่านั้น ก็ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ (ฎีกาที่ 561/2487)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1160/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเป็นโจทก์ร่วมของผู้เยาว์ในคดีอาญา และการแก้ไขฟ้องให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ในคดีอาญาผู้เยาว์ขอเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมโดยลำพัง ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตแล้ว ต่อมาคดีขึ้นสู่ศาลอุทธรณ์ ฎีกา ๆ จะยกฟ้องหรือมไม่รับวินิจฉัยฟ้องของผู้เยาว์เสียทีเดียวยังไม่ได้ ต้องสั่งให้แก้ไขข้อบกพร่องเรื่องความสามารถเสียก่อน แต่อย่างไรก็ดีหากศาลอุทธรณ์ ฎีกา เห็นว่าจะได้ให้แก้ไขเรื่องความสามารถให้สมบูรณ์แล้วก็ดี แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฎแล้วนั้นไม่อาจมีทางที่ศาลจะแก้ไขให้เป็นไปตามอุทธรณ์ฎีกาของผู้เยาว์ได้แล้ว ศาลอุทธรณ์ฎีกาจะพิพากษาให้ยกอุทธรณ์ฎีกาของผู้เยาว์เสียเลยก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1160/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเป็นโจทก์ร่วมของผู้เยาว์ และขอบเขตการแก้ไขฟ้องในคดีอาญา
ในคดีอาญาผู้เยาว์ขอเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมโดยลำพัง ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตแล้ว ต่อมาคดีขึ้นสู่ศาลอุทธรณ์ฎีกาศาลอุทธรณ์ฎีกาจะยกฟ้องหรือไม่รับวินิจฉัยฟ้องของผู้เยาว์เสียทีเดียวยังไม่ได้ ต้องสั่งให้แก้ไขข้อบกพร่องเรื่องความสามารถเสียก่อน แต่อย่างไรก็ดีหากศาลอุทธรณ์ฎีกาเห็นว่าแม้จะได้ให้แก้ไขเรื่องความสามารถให้สมบูรณ์แล้วก็ดี แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏแล้วนั้นไม่อาจมีทางที่ศาลจะแก้ไขให้เป็นไปตามอุทธรณ์ฎีกาของผู้เยาว์ได้แล้วศาลอุทธรณ์ฎีกาจะพิพากษาให้ยกอุทธรณ์ฎีกาของผู้เยาว์เสียเลยก็ได้