คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ใบอนุญาต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 358 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2444/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานปล้นทรัพย์และพกพาอาวุธโดยไม่ได้รับอนุญาต โจทก์ต้องพิสูจน์การไม่มีใบอนุญาต
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนติดตัวไปในหมู่บ้านโดยมิได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว จำเลยให้การปฏิเสธ แม้จะฟังได้ว่าขณะที่จำเลยกับพวกปล้นทรัพย์ของผู้เสียหายจำเลยมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วยก็ตามโจทก์ก็ต้องนำสืบให้ได้ว่าจำเลยมิได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองและมิได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวจึงจะลงโทษจำเลยได้ มิฉะนั้นคงลงโทษจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1519/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนส่งประจำทางโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดฐานสนับสนุนการกระทำผิด
จำเลยได้ประกอบการขนส่งประจำทาง โดยใช้รถยนต์นั่งซึ่งได้จดทะเบียนเข้าร่วมกิจการประกอบการขนส่งไม่ประจำทางกับห้างหุ้นส่วนจำกัด บ. ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งไม่ประจำทาง ขนส่งคนและสิ่งของเพื่อสินจ้างในเส้นทางที่ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางได้รับอนุญาต โดยจำเลยไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522มาตรา 23,126 การที่จำเลยนำรถเข้าร่วมกิจการขนส่งไม่ประจำทางกับห้างหุ้นส่วนจำกัด บ. จะถือว่าจำเลยเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางหาได้ไม่ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามบทบัญญัติมาตรา 40,138 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ทั้งข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด บ.ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางเป็นตัวการผู้กระทำผิด จึงไม่อาจลงโทษจำเลยในฐานเป็นผู้สนับสนุนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1519/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนส่งประจำทางโดยไม่ได้รับอนุญาต: ความผิดตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก และการสนับสนุนความผิด
จำเลยได้ประกอบการขนส่งประจำทาง โดยใช้รถยนต์นั่งซึ่งได้จดทะเบียนเข้าร่วมกิจการประกอบการขนส่งไม่ประจำทางกับห้างหุ้นส่วนจำกัด บ. ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งไม่ประจำทาง ขนส่งคนและสิ่งของเพื่อสินจ้างในเส้นทางที่ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางได้รับอนุญาต โดยจำเลยไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 23,126
การที่จำเลยนำรถเข้าร่วมกิจการขนส่งไม่ประจำทางกับห้างหุ้นส่วนจำกัด บ. จะถือว่าจำเลยเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางหาได้ไม่ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามบทบัญญัติมาตรา 40,138 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ทั้งข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด บ.ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางเป็นตัวการผู้กระทำผิด จึงไม่อาจลงโทษจำเลยในฐานเป็นผู้สนับสนุนได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1084/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์ความผิดฐานมีอาวุธปืนไม่รับอนุญาต โจทก์ต้องพิสูจน์เลขทะเบียนอาวุธปืนตรงกับใบอนุญาต
ความผิดฐานมีอาวุธปืนไม่รับอนุญาต ภาระการพิสูจน์ความผิดตกแก่ฝ่ายโจทก์ที่จะต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าปืนของกลางเป็นปืนไม่มีทะเบียนและจำเลยไม่มีใบอนุญาต แต่ทางนำสืบของโจทก์ปรากฏว่าใบอนุญาตที่เรียกมาจากจำเลยจะใช้กับอาวุธปืนของกลางหรือไม่ก็ไม่ทราบ เมื่อส่งอาวุธปืนของกลางไปพิสูจน์หาได้พิสูจน์ไม่ว่าเครื่องหมายเลขประจำอาวุธปืนเป็นเลขทะเบียนเดียวกันกับที่ปรากฎในใบอนุญาตหรือไม่ ดังนี้ลงโทษจำเลยในความผิดดังกล่าวไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5982/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์การไม่มีใบอนุญาตพาอาวุธปืน และความผิดฐานพาอาวุธโดยไม่มีเหตุสมควร
ในความผิดฐานพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โจทก์มีหน้าที่นำสืบว่าจำเลยไม่ได้รับใบอนุญาตดังกล่าว เมื่อโจทก์ไม่นำสืบก็ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา 8 ทวิ วรรคแรก ประกอบมาตรา 72 ทวิวรรคสองไม่ได้ คงลงโทษได้เพียงฐานพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5177/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่โจทก์ในการพิสูจน์การไม่มีใบอนุญาตอาวุธปืน เมื่อจำเลยปฏิเสธ
ความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธ โจทก์มีหน้าที่นำสืบว่าจำเลยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ถ้าไม่นำสืบก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5177/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบโจทก์ในคดีอาวุธปืน - การพิสูจน์การไม่มีใบอนุญาต
ความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธโจทก์มีหน้าที่นำสืบว่าจำเลยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ถ้าไม่นำสืบก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 508/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนแร่เกินใบอนุญาตต้องมีเจตนาหรือรู้เห็นเป็นใจ การริบแร่ต้องพิเคราะห์เจตนาเจ้าของ
เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 2 มิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ถือไม่ได้ว่าเป็นตัวการตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2510 มาตรา 10 และพิพากษายกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 2 โจทก์มิได้อุทธรณ์หรือแก้อุทธรณ์ในปัญหานี้ ดังนั้นการที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวการในการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทนหรือลูกจ้างของจำเลยที่ 2 จึงเป็นฎีกาในปัญหาที่ยุติแล้ว และเป็นปัญหาที่มิได้ว่ากล่าวกันมาในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 110 วรรคท้าย แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 มาตรา 19 บัญญัติว่า'การขนแร่เกินใบอนุญาตที่มิได้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวงให้ถือว่าแร่ที่ขนทั้งสิ้นนั้นเป็นแร่ที่ขนโดยไม่ได้รับอนุญาต' หมายความว่าเจ้าของแร่หรือผู้ถืออาชญาบัตร ผู้ถือประทานบัตรชั่วคราว ผู้ถือประทานบัตรหรือผู้รับใบอนุญาตจะต้องมีเจตนาหรือรู้เห็นเป็นใจในการขนแร่เกินใบอนุญาตด้วย เมื่อจำเลยที่ 2 ได้รับอนุญาตให้ขนแร่ดีบุกจำนวน 11 กระสอบโดยได้ว่าจ้างจำเลยที่ 1 ให้ขับรถยนต์ไปบรรทุกแร่ดีบุกจาก ท.คนเฝ้ารักษาแร่ดีบุกของจำเลยที่ 2 ท. ได้ยักยอกแร่ดีบุกของจำเลยที่ 2 บรรทุกไปในรถยนต์คันดังกล่าวอีก 15 กระสอบ กรณีแร่ดีบุกจำนวน 15 กระสอบนี้จำเลยที่ 2 มิได้มีเจตนาหรือรู้เห็นเป็นใจที่จะให้ขนเกินไปจากที่ระบุไว้ในใบอนุญาตขนแร่ หากแต่เป็นการกระทำโดยพลการของ ท. เอง จึงถือไม่ได้ว่าแร่ของกลางทั้งหมดเป็นแร่ที่ขนโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 110 และริบไม่ได้ตามมาตรา 154

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 508/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนแร่เกินใบอนุญาต การพิสูจน์เจตนา/รู้เห็นเป็นใจของเจ้าของแร่ และขอบเขตการริบของกลาง
เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 2 มิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ถือไม่ได้ว่าเป็นตัวการตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2510 มาตรา 10 และพิพากษายกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 2 โจทก์มิได้อุทธรณ์หรือแก้อุทธรณ์ในปัญหานี้ ดังนั้นการที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวการในการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทนหรือลูกจ้างของจำเลยที่ 2 จึงเป็นฎีกาในปัญหาที่ยุติแล้ว และเป็นปัญหาที่มิได้ว่ากล่าวกันมาในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 110 วรรคท้าย แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่3) พ.ศ. 2522 มาตรา 19 บัญญัติว่า'การขนแร่เกินใบอนุญาตที่มิได้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวงให้ถือว่าแร่ที่ขนทั้งสิ้นนั้นเป็นแร่ที่ขนโดยไม่ได้รับอนุญาต' หมายความว่าเจ้าของแร่หรือผู้ถืออาชญาบัตรผู้ถือประทานบัตรชั่วคราว ผู้ถือประทานบัตรหรือผู้รับใบอนุญาตจะต้องมีเจตนาหรือรู้เห็นเป็นใจในการขนแร่เกินใบอนุญาตด้วยเมื่อจำเลยที่ 2 ได้รับอนุญาตให้ขนแร่ดีบุกจำนวน 11 กระสอบโดยได้ว่าจ้างจำเลยที่ 1 ให้ขับรถยนต์ไปบรรทุกแร่ดีบุกจากท.คนเฝ้ารักษษแร่ดีบุกของจำเลยที่2ท. ได้ยักยอกแร่ดีบุกของจำเลยที่ 2บรรทุกไปในรถยนต์คันดังกล่าวอีก 15 กระสอบกรณีแร่ดีบุกจำนวน 15 กระสอบนี้จำเลยที่ 2 มิได้มีเจตนาหรือรู้เห็นเป็นใจที่จะให้ขนเกินไปจากที่ระบุไว้ในใบอนุญาตขนแร่ หากแต่เป็นการกระทำโดยพลการของ ท. เอง จึงถือไม่ได้ว่าแร่ของกลางทั้งหมดเป็นแร่ที่ขนโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 110 และริบไม่ได้ตามมาตรา 154.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3350/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เอกสารปลอมเพื่อขอใบอนุญาตอาวุธปืน โดยแสดงเอกสารที่ถูกแก้ไขและลงชื่อปลอม
จำเลยนำเอาอาวุธปืนมีรอยขูดลบตรงเลขหมายประจำปืนกับเครื่องหมายทะเบียนปืน และนำใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนของป.ฉบับที่หาย ไปแสดงต่อนายทะเบียนอาวุธปืนเพื่อให้ออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนให้จำเลยโดยอ้างว่า เจ้าของอาวุธปืนลงชื่อสลักหลังใบอนุญาตขายอาวุธปืนให้จำเลย ซึ่งเป็นเท็จ เป็นเหตุให้นายทะเบียนอาวุธปืนหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง และออกใบอนุญาตให้จำเลย ตามพฤติการณ์เชื่อได้ว่าจำเลยรู้อยู่แล้วว่าข้อความหลังใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนนั้นปลอม จำเลยมีความผิดฐานใช้เอกสารปลอม.
of 36