พบผลลัพธ์ทั้งหมด 135 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 203/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องฐานลักทรัพย์หลังศาลแขวงสั่งมีมูลฐานรับของโจร และหลักการสั่งคดีชั้นไต่สวนมูลฟ้อง
พนักงานสอบสวนฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ชั้นไต่สวนมูลฟ้องจำเลยรับสารภาพฐานรับของโจร ศาลแขวงสั่งว่าคดีมีมูลฐานรับของโจร และรับประทับฟ้อง โจทก์เห็นว่า ความผิดฐานลักทรัพย์และรับของโจรเป็นข้อเท็จจริงอันเดียวกัน เกี่ยวพันกันและต่อเนื่องกัน จึงฟ้องจำเลยฐานลักทรัพย์ต่อศาลอาญา ย่อมทำได้ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 16
ในกรณีที่โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรฐานใดฐานหนึ่งนั้น เมื่อศาลแขวงไต่สวนมูลฟ้องแล้วควรสั่งว่าคดีมีมูลหรือไม่มีมูลเท่านั้น ควรให้ศาลซึ่งจะพิจารณาพิพากษาคดีนั้นเป็นผู้ชี้ขาดต่อไป
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2502)
ในกรณีที่โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรฐานใดฐานหนึ่งนั้น เมื่อศาลแขวงไต่สวนมูลฟ้องแล้วควรสั่งว่าคดีมีมูลหรือไม่มีมูลเท่านั้น ควรให้ศาลซึ่งจะพิจารณาพิพากษาคดีนั้นเป็นผู้ชี้ขาดต่อไป
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 203/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องฐานลักทรัพย์หลังศาลแขวงสั่งมีมูลฐานรับของโจร และหลักการสั่งคดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง
พนักงานสอบสวนฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร
ชั้นไต่สวนมูลฟ้องจำเลยรับสารภาพฐานรับของโจรศาลแขวงสั่งว่าคดีมีมูลฐานรับของโจร และรับประทับฟ้องโจทก์เห็นว่าว่า ความผิดฐานลักทรัพย์และรับของโจรเป็นข้อเท็จจริงอันเดียวกันเกี่ยวพันกันและต่อเนื่องกันจึงฟ้องจำเลยฐานลักทรัพย์ต่อศาลอาญา ย่อมทำได้ตาม พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 16
ในกรณีที่โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรฐานใดฐานหนึ่งนั้นเมื่อศาลแขวงไต่สวนมูลฟ้องแล้วควรสั่งว่าคดีมีมูลหรือไม่มีมูลเท่านั้น ไม่ควรสั่งว่ามีมูลฐานใดฐานหนึ่ง เพราะเป็นคำสั่งชั้นไต่สวนมูลฟ้องเท่านั้น ควรให้ศาลซึ่งจะพิจารณาพิพากษาคดีนั้นเป็นผู้ชี้ขาดต่อไป(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2502)
ชั้นไต่สวนมูลฟ้องจำเลยรับสารภาพฐานรับของโจรศาลแขวงสั่งว่าคดีมีมูลฐานรับของโจร และรับประทับฟ้องโจทก์เห็นว่าว่า ความผิดฐานลักทรัพย์และรับของโจรเป็นข้อเท็จจริงอันเดียวกันเกี่ยวพันกันและต่อเนื่องกันจึงฟ้องจำเลยฐานลักทรัพย์ต่อศาลอาญา ย่อมทำได้ตาม พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 มาตรา 16
ในกรณีที่โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรฐานใดฐานหนึ่งนั้นเมื่อศาลแขวงไต่สวนมูลฟ้องแล้วควรสั่งว่าคดีมีมูลหรือไม่มีมูลเท่านั้น ไม่ควรสั่งว่ามีมูลฐานใดฐานหนึ่ง เพราะเป็นคำสั่งชั้นไต่สวนมูลฟ้องเท่านั้น ควรให้ศาลซึ่งจะพิจารณาพิพากษาคดีนั้นเป็นผู้ชี้ขาดต่อไป(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 19/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องในคดีอาญาและการไม่อยู่ในฐานะคู่ความก่อนมีคำประทับฟ้อง
คดีที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งงดการไต่สวนมูลฟ้องและไม่ประทับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณาอ้างว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อไปนั้นจำเลยยังมิได้อยู่ในฐานะที่จะฎีกาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1142/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานคำเบิกความในชั้นไต่สวนมูลฟ้องใช้ได้ในการพิจารณาคดี ศาลใช้ดุลพินิจในการรับฟัง
คำพยานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องซึ่งศาลต้องจดไว้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญานั้น เป็นพยานเอกสารอย่างหนึ่ง ซึ่งน่าจะพิสูจน์ได้ว่า จำเลยมีผิดหรือบริสุทธิ์จึงชอบที่จะอ้างเป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ ส่วนที่จะรับฟังหรือไม่เพียงใดเป็นดุลพินิจของศาลที่พิจารณาจะวินิจฉัยอีกชั้นหนึ่ง
ฉะนั้น เมื่อศาลล่างฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาโดยวินิจฉัยถึงคำเบิกความของโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องประกอบกับคำพยานอื่นที่ได้มาเบิกความในชั้นพิจารณาจึงไม่เป็นการผิดต่อกฎหมาย แต่อย่างใด
ฉะนั้น เมื่อศาลล่างฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาโดยวินิจฉัยถึงคำเบิกความของโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องประกอบกับคำพยานอื่นที่ได้มาเบิกความในชั้นพิจารณาจึงไม่เป็นการผิดต่อกฎหมาย แต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1142/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานคำเบิกความในชั้นไต่สวนมูลฟ้องใช้ได้ในการพิจารณาคดีได้ ศาลใช้ดุลพินิจรับฟัง
คำพยานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องซึ่งศาลต้องจดไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญานั้น เป็นพยานเอกสารอย่างหนึ่งซึ่งน่าจะพิสูจน์ได้ว่า จำเลยมีผิดหรือบริสุทธิ์จึงชอบที่จะอ้างเป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ส่วนที่จะรับฟังหรือไม่เพียงใดเป็นดุลพินิจของศาลที่พิจารณาจะวินิจฉัยอีกชั้นหนึ่ง
ฉะนั้น เมื่อศาลล่างฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาโดยวินิจฉัยถึงคำเบิกความของโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องประกอบกับคำพยานอื่นที่ได้มาเบิกความในชั้นพิจารณาจึงไม่เป็นการผิดต่อกฎหมายแต่อย่างใด
ฉะนั้น เมื่อศาลล่างฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาโดยวินิจฉัยถึงคำเบิกความของโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องประกอบกับคำพยานอื่นที่ได้มาเบิกความในชั้นพิจารณาจึงไม่เป็นการผิดต่อกฎหมายแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 124/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไต่สวนมูลฟ้อง: จำเลยยังไม่เป็นคู่ความ จึงไม่ต้องยื่นบัญชีพยานล่วงหน้า
การไต่สวนมูลฟ้องเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์ โจทก์ไม่จำเป็นต้องยื่นบัญชีระบุพยานล่วงหน้า 3 วัน ก่อนวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง
ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นยกฟ้องอ้างเหตุว่า โจทก์ไม่ยื่นบัญชีพยานล่วงหน้า 3 วันก่อนวัดนัดไต่สวนมูลฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้น ทำการไต่สวนมูลฟ้องต่อไปเช่นนี้ จำเลยไม่มีสิทธิฎีกา เพราะจำเลยยังมิได้อยู่ในฐานะเป็นคู่ความ
ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นยกฟ้องอ้างเหตุว่า โจทก์ไม่ยื่นบัญชีพยานล่วงหน้า 3 วันก่อนวัดนัดไต่สวนมูลฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้น ทำการไต่สวนมูลฟ้องต่อไปเช่นนี้ จำเลยไม่มีสิทธิฎีกา เพราะจำเลยยังมิได้อยู่ในฐานะเป็นคู่ความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 124/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไต่สวนมูลฟ้อง: โจทก์ไม่จำเป็นต้องยื่นบัญชีพยานล่วงหน้า 3 วัน จำเลยยังไม่เป็นคู่ความจึงไม่มีสิทธิฎีกา
การไต่สวนมูลฟ้องเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์ โจทก์ไม่จำเป็นต้องยื่นบัญชีระบุพยานล่วงหน้า 3 วัน ก่อนวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง
ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นยกฟ้องอ้างเหตุว่า โจทก์ไม่ยื่นบัญชีพยานล่วงหน้า 3 วันก่อนวันนัดไต่สวนมูลฟ้องแต่ศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้น ทำการไต่สวนมูลฟ้องต่อไปเช่นนี้ จำเลยไม่มีสิทธิฎีกา เพราะจำเลยยังมิได้อยู่ในฐานะเป็นคู่ความ
ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นยกฟ้องอ้างเหตุว่า โจทก์ไม่ยื่นบัญชีพยานล่วงหน้า 3 วันก่อนวันนัดไต่สวนมูลฟ้องแต่ศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้น ทำการไต่สวนมูลฟ้องต่อไปเช่นนี้ จำเลยไม่มีสิทธิฎีกา เพราะจำเลยยังมิได้อยู่ในฐานะเป็นคู่ความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1297/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไต่สวนมูลฟ้องอาญา: การประเมินมูลฟ้องจากพยานหลักฐานเบื้องต้น เพื่อประทับฟ้องหรือไม่
การไต่สวนมูลฟ้องประสงค์เพียงว่า คดีพอมีมูลตามข้อกล่าวหาในฟ้องหรือไม่ หากพอมีมูล ศาลก็ประทับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 440/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีซ้ำ: ถอนฟ้องแล้วห้ามฟ้องใหม่ แม้ยังไม่ไต่สวนมูลฟ้อง
คดีอาญาที่โจทก์ถอนฟ้องชั่วคราวก็ดี หรือถอนฟ้องไปก่อนไต่สวนมูลฟ้องก็ดี จะนำมาฟ้องอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 440/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ถอนฟ้องคดีอาญาแล้ว ห้ามฟ้องซ้ำ แม้ยังไม่ไต่สวนมูลฟ้อง
คดีอาญาที่โจทก์ถอนฟ้องชั่วคราวก็ดี หรือถอนฟ้องไปก่อนไต่สวนมูลฟ้องก็ดี จะนำมาฟ้องอีกไม่ได้