คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คำพิพากษา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,887 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 917/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนหนี้ในคดีล้มละลาย แม้เป็นหนี้ตามคำพิพากษาอื่น คำพิพากษาเดิมไม่ผูกพัน
เมื่อมีผู้ขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย แม้ผู้ขอจะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีอื่น หรือเป็นเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ในคดีล้มละลายนั้นเองก็ตาม เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมมีอำนาจสอบสวนในเรื่องหนี้สินที่ขอรับชำระนั้นว่าเป็นหนี้ที่จะขอรับชำระได้หรือไม่ แล้วทำความเห็นเสนอศาลและศาลมีอำนาจสั่งตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 106,107,108
เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งให้จำเลย (ลูกหนี้) เสียดอกเบี้ยแก่โจทก์ (เจ้าหนี้) โดยวิธีคิดดอกเบี้ยทบต้นตามธรรมเนียมประเพณีของธนาคาร ตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ ดังนี้ คำพิพากษาดังกล่าวไม่ผูกพันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือศาล (ในคดีล้มละลาย)เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทำความเห็นเสนอศาลและศาลมีคำสั่งตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่าจะคิดดอกเบี้ยทบต้นหลังจากวันฟ้องไม่ได้ ก็ย่อมมีอำนาจที่จะทำความเห็นและมีคำสั่งเช่นนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินโดยอาศัยสิทธิของผู้อื่น และผลผูกพันของคำพิพากษาต่อจำเลยร่วม
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่นาพิพาท จำเลยต่อสู้ว่านาพิพาทเป็นของ จ. ซึ่งต่อมาได้เข้ามาเป็นจำเลยร่วม จำเลยเข้าทำนาพิพาทแทนจำเลยร่วมเช่นนี้ การที่จำเลยเข้าไปทำนาพิพาทจึงมิใช่เข้าไปยึดถือโดยเจตนาที่จะยึดถือเพื่อตน หากแต่เป็นการเข้าไปครอบครองแทนจำเลยร่วม เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าที่นาพิพาทเป็นของโจทก์จำเลยร่วมซึ่งอ้างว่าที่นาพิพาทเป็นของตนมิได้ฎีกา คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ชี้ขาดว่าที่นาพิพาทเป็นของโจทก์ย่อมผูกพันจำเลยและจำเลยร่วมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 คดีฟังเป็นยุติได้ว่าที่นาพิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยซึ่งเข้าทำนาพิพาทโดยอาศัยสิทธิของจำเลยร่วมจึงไม่มีสิทธิใด ๆ ที่จะโต้แย้งโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองแทนจำเลยร่วม: คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ผูกพันทุกฝ่ายเมื่อจำเลยร่วมไม่คัดค้าน
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่นาพิพาท จำเลยต่อสู้ว่านาพิพาท เป็นของ จ. ซึ่งต่อมาได้เข้ามาเป็นจำเลยร่วมจำเลยเข้าทำนาพิพาทแทนจำเลยร่วมเช่นนี้การที่จำเลยเข้าไปทำนาพิพาทจึงมิใช่เข้าไปยึดถือโดยเจตนาที่จะยึดถือเพื่อตนหากแต่เป็นการเข้าไปครอบครองแทนจำเลยร่วมเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าที่นาพิพาทเป็นของโจทก์จำเลยร่วมซึ่งอ้างว่าที่นาพิพาทเป็นของตนมิได้ฎีกา คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ชี้ขาดว่าที่นาพิพาทเป็นของโจทก์ย่อมผูกพันจำเลยและจำเลยร่วมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 คดีฟังเป็นยุติได้ว่าที่นาพิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยซึ่งเข้าทำนา พิพาทโดยอาศัยสิทธิของจำเลยร่วมจึงไม่มีสิทธิใด ๆ ที่จะโต้แย้งโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดการพิจารณาคดีและการพิพากษาเมื่อจำเลยไม่มาศาลตามนัด
วันนัดสืบพยานโจทก์ ศาลสืบตัวโจทก์จวนจะหมดปากแล้ว หมายจำเลยจึงเพิ่งมาศาลยื่นคำร้องขอเลื่อน ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนและสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณานัดต่อมาซึ่งเป็นวันนัดสืบพยานจำเลย จำเลยทราบนัดแล้วไม่มาศาล ศาลจึงสั่งงดสืบพยานจำเลยแล้วพิพากษาคดีไปในวันนั้น ดังนี้ ถือได้ว่า การพิจาราณาดคดีดังกล่าวเป็นอันสิ้นสุดลงเมื่อศาลสั่งงดสืบพยานจำเลย ศาลจึงมีอำนาจพิพากษาคดีไปในวันที่มีคำสั่งนั้นได้ โดยไม่ต้องแจ้งให้จำเลยทราบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 133

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2524/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวางเงินชำระตามคำพิพากษาเกินกำหนด: ศาลไม่รับอุทธรณ์ตามมาตรา 234
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ จำเลยขอยืดเวลาชำระเงินตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นออกไป 7 วันศาลชั้นต้นอนุญาตจำเลยวางเงินนี้เกินกำหนดไป 1 วัน โดยแถลงว่าเพิ่งหาเงินได้ครบในวันนั้น ศาลชั้นต้นสั่งไม่ส่งอุทธรณ์คำสั่งไปศาลอุทธรณ์ คำสั่งศาลชั้นต้นนี้จำเลยอุทธรณ์ได้ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาได้ ศาลฎีกาพิพากษายืนเพราะศาลมิได้ขยายเวลา 7 วันนี้ให้ จึงเป็นการที่จำเลยมิได้ปฏิบัติตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2523/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งขังลูกหนี้ตามคำพิพากษาต้องมีคำร้องและไต่สวน การบังคับตามสัญญาประนีประนอมเมื่อมีการขายทรัพย์สิน
โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษามิได้ยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้น ขอให้ศาลมีคำสั่งจับกุมและกักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษา การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งกักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษาหลังจากที่มีคำสั่งนัดพร้อม จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยได้ขายที่ดินที่ส่วนของจำเลยให้แก่บุคคลภายนอกไปแล้ว หากโจทก์จะถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการผิดสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมอย่างใด ก็ชอบที่จะดำเนินการกับจำเลยในทางอื่น ศาลไม่มีอำนาจที่จะสั่งให้จำเลยแบ่งที่ดินของจำเลยไว้เพื่อปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 914/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อผูกพันคำพิพากษาคดีอาญาต่อคดีแพ่ง: ศาลพลเรือนต้องถือข้อเท็จจริงจากคำพิพากษาศาลทหาร
ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลพลเรือนจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีอาญาของศาลทหาร ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. 2498 มาตรา 54 เมื่อศาลทหารพิพากษาชี้ขาดข้อเท็จจริงแล้วว่าพยานโจทก์ไม่พอฟังลงโทษจำเลยที่ 1 ว่าประมาท ข้อเท็จจริงดังกล่าวย่อมผูกพันโจทก์ผู้เป็นผู้เสียหายในคดีอาญาของศาลทหาร การที่โจทก์นำสืบข้อเท็จจริงในคดีส่วนแพ่งใหม่ว่าจำเลยที่ 1 ประมาททำให้โจทก์เสียหาย ศาลจะรับฟังตามที่โจทก์นำสืบหาได้ไม่ เพราะขัดกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีอาญาดังกล่าว เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ประมาททำให้โจทก์เสียหาย จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ด้วย (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 2985/2518)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 914/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาศาลทหารในคดีแพ่ง: ศาลพลเรือนต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลทหารวินิจฉัย
ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลพลเรือนจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีอาญาของศาลทหาร ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ.2498 มาตรา 54 เมื่อศาลทหารพิพากษาชี้ขาดข้อเท็จจริงแล้วว่าพยานโจทก์ไม่พอฟังลงโทษจำเลยที่ 1 ว่าประมาทข้อเท็จจริงดังกล่าวย่อมผูกพันโจทก์ผู้เป็นผู้เสียหายในคดีอาญาของศาลทหารการที่โจทก์นำสืบข้อเท็จจริงในคดีส่วนแพ่งใหม่ว่าจำเลยที่ 1 ประมาททำให้โจทก์เสียหาย ศาลจะรับฟังตามที่โจทก์นำสืบหาได้ไม่ เพราะขัดกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีอาญาดังกล่าวเมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ประมาททำให้โจทก์เสียหาย จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ด้วย(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 2685/2518)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 88/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษต่อเมื่อคดีก่อนหน้ามีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีหมายเลขดำที่ 19/2519 ศาลล่างทั้งสองไม่นับต่อให้ เพราะคดีดังกล่าวศาลยังไม่ได้พิพากษา โจทก์ฎีกาขอให้นับโทษจำเลยต่อกับโทษของจำเลยที่ 3 ในคดีหมายเลขดำที่ 19/2519 คดีหมายเลขแดงที่ 473/2519 ของศาลชั้นต้น ซึ่งหมายความว่าสำนวนคดีดำที่ 19/2519 นั้น ศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยแล้วตามสำนวนคดีแดงที่ 473/2519 จำเลยมิได้แก้ฎีกาปฏิเสธข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงรับฟังได้ว่าคดีดังกล่าวศาลได้พิพากษาโทษจำคุกจำเลยแล้วจริง และพิพากษาให้นับโทษต่อ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 88/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษต่อในคดีอาญา: ศาลฎีกาวินิจฉัยให้นับโทษต่อเมื่อมีคำพิพากษาลงโทษในคดีก่อนแล้ว
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีหมายเลขดำที่ 19/2519 ศาลล่างทั้งสองไม่นับต่อให้ เพราะคดีดังกล่าวศาลยังไม่ได้พิพากษา โจทก์ฎีกาขอให้นับโทษจำเลยต่อกับโทษของจำเลยที่ 3 ในคดีหมายเลขดำที่ 19/2519 นั้น ศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยแล้วตามสำนวนคดีแดงที่ 473/2519 จำเลยมิได้แก้ฎีกาปฏิเสธข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงรับฟังได้ว่าคดีดังกล่าวศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยแล้วจริง และพิพากษาให้นับโทษต่อ
of 189