พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,244 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 829/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลอุทธรณ์ลดโทษและให้รอการลงโทษเหมาะสมกับพฤติการณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก2ปีโดยไม่รอการลงโทษศาลอุทธรณ์แก้เป็นจำคุก1ปี6เดือนและปรับ15,000บาทให้รอการลงโทษไว้เป็นการแก้ไขมากโจทก์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ข้อหาความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตปรากฏว่าจำเลยมีเครื่องยนต์เลื่อยไม้ขนาด1แรงม้า1เครื่องพร้อมด้วยอุปกรณ์เครื่องเลื่อย1ชุด ตั้งอยู่บริเวณชายคาบ้านจำเลยและมีขี้เลื่อยอยู่ใต้แท่นเลื่อยประมาณ1ปีการที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุก1ปี6เดือนและปรับ15,000บาทให้รอการลงโทษจำคุกไว้2ปีเป็นการใช้ดุลพินิจตามพฤติการณ์แห่งคดีเหมาะสมแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 550/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ต้องยื่นภายในกำหนด หากพ้นกำหนดแม้ศาลรับคำร้อง ศาลฎีกาก็ไม่รับวินิจฉัย
จำเลยมีสิทธิฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันอ่านเมื่อวันครบกำหนดหนึ่งเดือนที่จำเลยจะยื่นฎีกาได้ตรงกับวันศุกร์และมิใช่วันหยุดราชการจำเลยซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำก็ต้องยื่นฎีกาต่อพัสดีภายในระยะเวลาดังกล่าวเช่นกันการที่จำเลยยื่นฎีกาต่อพัสดีเมื่อพ้นระยะเวลาหนึ่งเดือนแล้วแม้ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยไว้ศาลฎีกาก็วินิจฉัยให้ไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลอุทธรณ์ไม่พิจารณาอุทธรณ์จำเลยครบถ้วน ศาลฎีกาย้อนสำนวนเพื่อให้ถูกต้องตามกระบวนการ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยไม่เต็มตามฟ้อง โจทก์จำเลยต่างอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้น แต่ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาเฉพาะอุทธรณ์ของโจทก์เพียงฝ่ายเดียวมิได้พิจารณาพิพากษาอุทธรณ์ของจำเลยซึ่งไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาศาลฎีกาย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกระบวนพิจารณาและเพื่อให้การวินิจฉัยความผิดของจำเลยเป็นตามลำดับศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 208(2), 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาอุทธรณ์ไม่ครบถ้วน ศาลฎีกาย้อนสำนวนเพื่อให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาอุทธรณ์ของจำเลยตามกระบวนการ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยไม่เต็มตามฟ้องโจทก์จำเลยต่างอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นแต่ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาเฉพาะอุทธรณ์ของโจทก์เพียงฝ่ายเดียวมิได้พิจารณาพิพากษาอุทธรณ์ของจำเลยซึ่งไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาศาลฎีกาย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกระบวนพิจารณาและเพื่อให้การวินิจฉัยความผิดของจำเลยเป็นตามลำดับศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา208(2),225.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4807/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์ในการพิพากษาจำเลยที่ไม่เคยอุทธรณ์ ต้องพิจารณาเหตุที่เกี่ยวข้องกับคดีทั้งหมด มิใช่เหตุส่วนตัว
เหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดีนั้น ต้องเป็นเหตุที่เกี่ยวข้องกับคดีนั้นทั้งเรื่อง มิใช่เหตุส่วนตัวของจำเลยคนใดคนหนึ่ง ดังนั้นการที่จะวินิจฉัยว่าจำเลยคนใดมีเจตนาบุกรุกหรือไม่ จะต้องพิเคราะห์ถึงการกระทำของจำเลยแต่ละคนการที่จำเลยที่ 1 เปิดประตูเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายด้วยตนเอง ต่อมาจึงเรียกจำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้ตามขึ้นไปในภายหลังนั้นจะเห็นได้ว่าการกระทำของจำเลยแต่ละคนหาเกี่ยวข้องกันทั้งเรื่องไม่ กรณีเป็นเหตุส่วนตัวของจำเลยแต่ละคนโดยแท้มิใช่เหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ศาลอุทธรณ์จึงไม่มีอำนาจก้าวล่วงเข้าไปวินิจฉัยถึงการกระทำของจำเลยที่ 1 ว่าขาดเจตนาทุจริตและที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่ 1 ด้วยนั้นไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4264/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กฎหมายเปลี่ยนแปลงระหว่างพิจารณาคดี ทำให้ความผิดตามฟ้องหมดไป แม้ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องก็ถูกต้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยไม่ซื้อหุ้นให้โจทก์ตามที่โจทก์สั่งซื้ออันเป็นความผิดตามมาตรา21และมีบทลงโทษตามมาตรา42แห่งพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพ.ศ.2517ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกามีพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ฉบับที่2)พ.ศ.2527 ซึ่งใช้บังคับตั้งแต่วันที่27กันยายนพ.ศ.2527ยกเลิกความในมาตรา21และมาตรา42เดิมโดยมิได้บัญญัติถึงลักษณะความผิดที่โจทก์ฟ้องไว้อีกจึงเป็นกรณีที่กฎหมายที่บัญญัติในภายหลังมิได้กำหนดให้การกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดฉะนั้นการกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดตามฟ้องหรือไม่ก็ตามการวินิจฉัยก็ไม่เป็นประโยชน์แก่คดีของโจทก์เพราะแม้จะเป็นความผิดจำเลยก็พ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา2วรรคสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4248/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาต้องรอคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลอุทธรณ์ในคดีที่ยังไม่สิ้นสุด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้องที่ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนหมายบังคับคดี ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวและศาลอุทธรณ์ยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งเกี่ยวกับอุทธรณ์คำสั่งของผู้ร้อง คงมีคำสั่งเฉพาะคำร้องขอทุเลาการบังคับของผู้ร้องเท่านั้น คดียังอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ผู้ร้องจึงยังไม่มีสิทธิฎีกาทั้งนี้ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4248/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาเมื่อคดีอยู่ระหว่างพิจารณาในศาลอุทธรณ์: การไม่อาจฎีกาจนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้องที่ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนหมายบังคับคดี ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวและศาลอุทธรณ์ยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งเกี่ยวกับอุทธรณ์คำสั่งของผู้ร้อง คงมีคำสั่งเฉพาะคำร้องขอทุเลาการบังคับของผู้ร้องเท่านั้น คดียังอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ผู้ร้องจึงยังไม่มีสิทธิฎีกาทั้งนี้ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4246/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายนัดผ่านทนายความ: การส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถึงทนายจำเลยโดยบุคคลอื่นที่สำนักงานเดียวกัน ถือว่าชอบด้วยกฎหมาย
พนักงานเดินหมายได้นำหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปส่งให้ทนายจำเลย ณ สำนักงานของทนายจำเลยแล้วไม่พบตัว บุคคลอายุเกิน20 ปีซึ่งอยู่ในสำนักงานเดียวกันนั้นเต็มใจรับหมายไว้แทนต้องถือว่าได้มีการส่งหมายนัดแก่ทนายจำเลยโดยถูกต้องและชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 75,76 แล้ว จำเลยอ้างว่าทนายจำเลยไม่ทราบหมายนัดหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 38/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่รับอุทธรณ์ปัญหาข้อเท็จจริง และผลของการที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งรับอุทธรณ์
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์เพราะเห็นว่าเป็นข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 เป็นคำสั่งปฏิเสธไม่ส่งอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 232 จำเลยอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวถึงแม้จะไม่ได้ยื่นภายในกำหนด 10 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ก็ตาม แต่เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้รับอุทธรณ์คำสั่งของศาลอุทธรณ์ดังกล่าวจึงเป็นที่สุดตามมาตรา 236 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง