คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจ้าพนักงาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,471 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้สินบนเจ้าพนักงาน: การกระทำร่วม การรู้เห็น และการพิสูจน์เจตนา
ไปร่วมทำการลักทรัพย์กับเขา ได้ทรัพย์มาแล้วถูกตำรวจจับได้ พวก 2 คนได้พูดให้สินบลแก่ตำรวจโดยลำพัง แล้วพวก 2 คนพากันไปเอาของกลางไปขายได้เงินให้ตำรวจไป แม้ผู้นั้นจะอยู่รู้เห็นด้วยในการที่พวกเอาของกลางไปขายแล้วเอาเงินให้ตำรวจ ก็ยังถือไม่ได้ว่าผู้นั้นได้ร่วมมือในการให้สินบลแก่เจ้าพนักงาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้สินบนเจ้าพนักงาน: การกระทำร่วมและความรับผิดชอบ
ไปร่วมทำการลักทรัพย์กับเขา ได้ทรัพย์มาแล้วถูกตำรวจจับได้ พวก 2 คนได้พูดให้สินบนแก่ตำรวจโดยลำพัง แล้วพวก 2 คน พากันไปเอาของกลางไปขายได้เงินให้ตำรวจไป แม้ผู้นั้นจะอยู่รู้เห็นด้วยในการที่พวกเอาของกลางไปขายแล้วเอาเงินให้ตำรวจ ก็ยังถือไม่ได้ว่า ผู้นั้นได้ร่วมมือในการให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 99/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องหา เป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานกระทำทุจริตในหน้าที่
จำเลยที่ 1 เป็นกำนัน จำเลยที่ 2 เป็นราษฎร ได้ไปจับกุมนายรัตน์ นายมิ่งหาว่าเป็นคนร้ายใช้สากกระเดื่องขว้างปานายเหนาะน้องชายจำเลยที่ 2 มีบาดเจ็บ แล้วคุมตัวนายรัตน์นายมิ่งมาที่บ้านจำเลยที่ 1 จำเลยได้เรียกเอาจากนายรัตน์นายมิ่งคนละ 150 บาท และว่าถ้าให้เงินจะเลิกคดีปล่อยตัวไปนายรัตน์นายมิ่งขอให้เงินเพียงคนละ 100 บาท จำเลยที่ 1 ก็ยอม พวกของนายรัตน์นายมิ่งได้นำเงินมาให้แก่จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 รับเงินแล้วพูดว่าเลิกได้ แล้วนายรัตน์นายมิ่งก็พากันกลับบ้านการกระทำดังนี้ย่อมเป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานกระทำการทุจริตในหน้าที่ ส่วนการที่จำเลยขู่ว่า ถ้าไม่หาเงินมาให้นั้นจะส่งไปให้พวกบ้านหนองนาแซงฆ่าเสียนั้น ถ้าเป็นความจริงกลับจะทำให้ความผิดของจำเลยมีโทษหนักขึ้น หาใช่จะทำให้ความผิดของจำเลยสูญหายไปหมดมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 962/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานปลอมหนังสือราชการและยักยอกทรัพย์จากค่าธรรมเนียมใบอนุญาต
จำเลยเป็นนายตรวจสรรพสามิตต์ แต่สรรพสามิตต์จังหวัดสั่งให้จำเลยมาทำหน้าที่เสมียนประจำในแผนกสรรพสามิตต์ โดยให้มีหน้าที่ทำบัญชีต่าง ๆ รับคำร้องขออนุญาตขายปลีกสุราจากราษฎรที่นำมายื่นขอรับอนุญาต เขียนใบอนุญาตขายสุราประเภท 4 สำหรับขายปลีก จำเลยได้เขียนใบอนุญาตขายสุราประเภท 4 สำหรับขายปลีกสุรา โดยจำเลยลงนามของจำเลยในช่องเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตเสียเอง และจำเลยได้รับเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตไว้จากผู้ขอทุกครั้ง แต่จำเลยหานำเงินลงบัญชีและส่งมอบเงินนั้นแก่สรรพสามิตต์จังหวัดหรือสรรพสามิตต์ผู้ช่วยไม่ กลับยักยอกเงินนั้นไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานปลอมหนังสือตามมาตรา 224 และเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ตามมาตรา 231 ด้วย.
(อ้างฎีกา 896/85, 600/85, 125/2490)
ใบอนุญาตขายสุราประเภท 4 ไม่ใช่หนังสือสำคัญตาม ก.ม. แต่เป็นแต่หนังสือแสดงการอนุญาตให้ขายสุรา จึงเมื่อขออนุญาตก็ต้องมีค่าธรรมเนียมรวมอยู่ด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 962/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมหนังสือราชการและยักยอกทรัพย์ของเจ้าพนักงานที่รับหน้าที่โดยมิชอบ
จำเลยเป็นนายตรวจสรรพสามิตแต่สรรพสามิตจังหวัดสั่งให้จำเลยมาทำหน้าที่เสมียนประจำในแผนกสรรพสามิต โดยให้มีหน้าที่ทำบัญชีต่างๆ รับคำร้องขออนุญาตขายปลีกสุราจากราษฎรที่นำมายื่นขอรับอนุญาต เขียนใบอนุญาตขายสุราประเภท 4 สำหรับขายปลีก จำเลยได้เขียนใบอนุญาตขายสุราประเภท 4 สำหรับขายปลีกสุรา โดยจำเลยลงนามของจำเลยในช่องเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตเสียเองและจำเลยได้รับเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตไว้จากผู้ขอทุกครั้ง แต่จำเลยหานำเงินลงบัญชีและส่งมอบเงินนั้นแก่สรรพสามิตจังหวัดหรือสรรพสามิตผู้ช่วยไม่ กลับยักยอกเงินนั้นไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานปลอมหนังสือตามมาตรา 224 และเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ตามมาตรา 231 ด้วย
(อ้างฎีกา 896/85,600/85,125/2490)
ใบอนุญาตขายสุราประเภท 4 ไม่ใช่หนังสือสำคัญตามกฎหมายแต่เป็นแต่หนังสือแสดงการอนุญาตให้ขายสุราจึงเมื่อขออนุญาตก็ต้องมีค่าธรรมเนียมรวมอยู่ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 884/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์ vs. ยักยอกทรัพย์: เจ้าพนักงานมีหน้าที่เฝ้ารักษาทรัพย์หรือไม่
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ มีหน้าที่เป็นยามเฝ้าดูแลโกดังของ ส.ร.ส. ได้สมคบกับคนร้ายปล้นทรัพย์ของ ส.ร.ส. ไป ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานปล้นทรัพย์ แต่ไม่มีผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ เพราะจำเลยไม่ได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ปกครองรักษาทรัพย์นั้น เป็นแต่ถูกจัดให้มาเป็นยามเฝ้าโกดังเท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 884/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์ vs. ทุจริตต่อหน้าที่ของเจ้าพนักงาน กรณีหน้าที่เป็นยามเฝ้าทรัพย์
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ มีหน้าที่เป็นยามเฝ้าดูแลโกดังของ ส.ร.ส.ได้สมคบกับคนร้ายปล้นทรัพย์ของส.ร.ส.ไป ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานปล้นทรัพย์ แต่ไม่มีผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ เพราะจำเลยไม่ได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ปกครองรักษาทรัพย์นั้น เป็นแต่ถูกจัดให้มาเป็นยามเฝ้าโกดังเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 776/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้สินบนเจ้าพนักงาน แม้เป็นตำรวจนอกท้องที่ ก็ถือเป็นความผิด
จำเลยให้สินบนแก่เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับจำเลยในการกระทำผิดแม้เจ้าพนักงานตำรวจจะเป็นตำรวจนอกท้องที่ จำเลยก็ต้องมีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 766/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สินบนเจ้าพนักงาน แม้นอกท้องที่ ก็มีความผิด
จำเลยให้สินบลแก่เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับจำเลยในการกระทำผิด แม้เจ้าพนักงานตำรวจจะเป็นตำรวจนอกท้องที่ จำเลยก็ต้องมีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 747/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าเจ้าพนักงาน: การพิจารณาจากพฤติการณ์และเหตุผลประกอบ
ตำรวจกำลังกอดปล้ำจับผู้กระทำผิดอยู่ จำเลยมาถึงก็ใช้ปืนยิงไป 1 นัดถูกตำรวจถึงแก่ความตาย ดังนี้ เมื่อไม่ปรากฎว่าจำเลยมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตาย และจำเลยกับผู้ตายก็เป็นญาติลูกพี่ลูกน้องกัน จำเลยคงมีความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนาตามมาตรา 249.
of 148