คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
จดทะเบียน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,377 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เครื่องหมายการค้าก่อนจดทะเบียน: จำเลยใช้ก่อนโจทก์ จดทะเบียนภายหลัง ไม่ถือเป็นละเมิด
ข้อเท็จจริงปรากฎว่าจำเลยได้ปรุงยาธาตุและใช้ฉลากชื่อยาของจำเลยจำหน่ายมาก่อนที่โจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้ายาธาตุของโจทก์แล้ว แม้ฉลากจะมีลักษณะคล้ายกัน แต่ก็แสดงว่าจำเลยมิได้มีเจตนาที่จะลวงให้ผู้ซื้อหลงเชื่อว่าเป็นของบุคคลหรือบริษัทอื่น อันจะเป็นความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 237 (หรือประมวล ก.ม.อาญา มาตรา 274)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เครื่องหมายการค้าก่อนจดทะเบียน: การคุ้มครองเครื่องหมายการค้าเดิมเมื่อมีการจดทะเบียนภายหลัง
ข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยได้ปรุงยาธาตุและใช้ฉลากชื่อยาของจำเลยจำหน่ายมาก่อนที่โจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้ายาธาตุของโจทก์แล้ว แม้ฉลากจะมีลักษณะคล้ายกัน แต่ก็แสดงว่าจำเลยมิได้มีเจตนาที่จะลวงให้ผู้ซื้อหลงเชื่อว่าเป็นของบุคคลหรือบริษัทอื่นอันจะเป็นความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 237(หรือประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 274)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1087-1090/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับโอนที่ดินโดยสุจริตและจดทะเบียน ย่อมมีสิทธิเหนือผู้ครอบครองปรปักษ์ แม้ครอบครองก่อนนานกว่า 10 ปี หากการโอนต่อๆ มาไม่ถึง 10 ปี
ผู้รับโอนที่ดินมีโฉนดไว้โดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วย่อมมีสิทธิดีกว่าผู้ที่ครอบครองที่ดินนั้นมาโดยปรปักษ์กว่า 10 ปี ถ้ามีผู้รับโอนทางทะเบียนต่อมาเป็นทอดๆ อีกไม่ถึง 10 ปีนับแต่วันโอนครั้งแรก ผู้รับโอนต่อๆ มานี้จะรู้หรือไม่รู้ถึงการครอบครองโดยปรปักษ์ ก็มีสิทธิดีกว่าผู้ครอบครอง (อ้างฎีกาที่ 1015/2485)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 794/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การค้าแข่งขันและการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า: ผู้แทนจำหน่ายย่อมไม่มีสิทธิผูกขาด
สั่งสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาขายในประเทศในฐานะเป็นตัวแทนช่วงขายสินค้านั้น แล้วจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของสินค้านั้นไว้ที่กรมทะเบียนการค้า ดังนี้ ไม่ทำให้ผู้จดทะเบียนได้สิทธิเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้น เพราะตนไม่ใช่ผู้ประดิษฐ์
ฉะนั้น การที่ผู้อื่นสั่งสินค้าชนิดเดียวกันนั้นเข้ามาขายในประเทศไทยบ้าง จึงเป็นการค้าแข่งขัน ไม่เป็นการละเมิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 794/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การค้าแข่งขันกับสินค้าต่างประเทศ: การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไม่ได้ทำให้เป็นเจ้าของสิทธิแต่เพียงผู้เดียว
สั่งสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาขายในประเทศไทยในฐานะเป็นตัวแทนช่วงขายสินค้านั้น แล้วจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของสินค้านั้นไว้ที่กรมทะเบียนการค้า ดังนี้ ไม่ทำให้ผู้จดทะเบียนได้สิทธิเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้นเพราะตนไม่ใช่ผู้ประดิษฐ์
ฉะนั้น การที่ผู้อื่นสั่งสินค้าชนิดเดียวกันนั้นเข้ามาขายในประเทศไทยบ้างจึงเป็นการค้าแข่งขัน ไม่เป็นการละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 712/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคุ้มครองเครื่องหมายการค้าจำกัดเฉพาะประเภทสินค้าที่จดทะเบียน แม้คล้ายคลึงกันก็ไม่อาจอ้างสิทธิเหนือผู้ขอจดทะเบียนก่อน
ผู้ใดจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าใดสำหรับสินค้าจำพวกหนึ่งตามรายการท้าย พ.ร.บ.แล้วจะถือว่าคุ้มครองไปทั่วทุกจำพวกไม่ได้ ถ้ามีผู้ขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอันมีลักษณะคล้ายคลึงกันบ้างในสินค้าจำพวกอื่นไว้ก่อนแล้ว ตนจะมาขอให้ศาลสั่งว่าตนมีสิทธิดีกว่าในการที่จะขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสำหรับสินค้าจำพวกหลังไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 418/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายที่ดิน: หน้าที่ของผู้ขายในการจดทะเบียนแบ่งแยกและโอนขาย แม้ผู้ขายเป็นบุคคลไร้ความสามารถ
สัญญาจะซื้อขายความว่า ผู้ขายยอมขายที่ดิน ซึ่งอยู่ระหว่างแบ่งแยกระหว่างผู้ถือกรรมสิทธิ์รวม เฉพาะส่วนของผู้ขาย 3 ไร่ ดังนี้ เป็นหน้าที่ของผู้ขายต้องจดทะเบียนแบ่งแยก และโอนขายให้ผู้ซื้อผู้ซื้อบังคับตามสัญญาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิไม่สุจริตในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ไม่ตัดสิทธิฟ้องเพิกถอน แม้มิได้คัดค้านตามมาตรา 20
มาตรา 20 แห่ง พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474 บัญญัติเกี่ยวกับวิธีการที่จะยื่นตัดค้านต่อเจ้าพนักงานเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับสิทธิฟ้องร้อง ดังนี้ เมื่อโจทก์ไม่คัดค้านต่อเจ้าพนักงาน ภายใน 3 เดือน ตามมาตรา 20 นี้ก็ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องจำเลย ให้เพิกถอนการจดทะเบียน เพราะใช้สิทธิไม่สุจริตแต่อย่างใด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1687/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่ได้จดทะเบียนมีผลบังคับใช้ 3 ปี การฟ้องขับไล่ไม่เป็นการฟ้องซ้ำหากเหตุต่างกัน
คดีแรกโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยอาศัยเหตุที่คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าลงมติให้โจทก์เข้าอยู่ในห้องพิพาทได้ ศาลพิพากษาให้ยกฟ้องไปแล้ว คดีหลังโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยอีก แต่อาศัยเหตุที่สัญญาเช่าหมดอายุแล้ว เช่นนี้ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ เพราะอาศัยเหตุที่ฟ้องต่างกัน
เมื่อฟังว่าจำเลยเช่าเพื่อประกอบการค้าโดยตรง ก็ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ
ทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์กันไว้ 5 ปี แต่ไม่มีการจดทะเบียนการเช่า ย่อมมีผลบังคับได้เพียง 3 ปีเท่านั้น เมื่อครบ 3 ปีแล้วผู้ให้เช่าก็มีสิทธิที่จะบอกเลิกสัญญาเช่าได้
ทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์กันไว้ 5 ปี แต่เมื่อไม่ปรากฎในหนังสือสัญญาเช่าว่าจะไปจดทะเบียนการเช่าในภายหลัง ย่อมไม่ผูกพันผู้รับโอนทรัพย์ที่ให้เช่า ให้จำต้องไปจดทะเบียนการเช่าให้แก่ผู้เช่า.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1687/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าหมดอายุ, การฟ้องซ้ำ, และผลของการไม่จดทะเบียนสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์
คดีแรกโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยอาศัยเหตุที่คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าลงมติให้โจทก์เข้าอยู่ในห้องพิพาทได้ ศาลพิพากษาให้ยกฟ้องไปแล้ว คดีหลังโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยอีก แต่อาศัยเหตุที่สัญญาเช่าหมดอายุแล้ว เช่นนี้ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ เพราะอาศัยเหตุที่ฟ้องต่างกัน
เมื่อฟังว่าจำเลยเช่าเพื่อประกอบการค้าโดยตรง ก็ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
ทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์กันไว้ 5 ปี แต่ไม่มีการจดทะเบียนการเช่า ย่อมมีผลบังคับได้เพียง 3 ปีเท่านั้น เมื่อครบ 3 ปีแล้วผู้ให้เช่าก็มีสิทธิที่จะบอกเลิกสัญญาเช่าได้
ทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์กันไว้ 5 ปี แต่เมื่อไม่ปรากฏในหนังสือสัญญาเช่าว่าจะไปจดทะเบียนการเช่าในภายหลังย่อมไม่ผูกพันผู้รับโอนทรัพย์ที่ให้เช่า ให้จำต้องไปจดทะเบียนการเช่าให้แก่ผู้เช่า
of 138