พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,314 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 893/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินมรดก: คำสั่งศาลแสดงสิทธิครอบครองไม่ตัดสิทธิทายาท
ไปร้องต่อศาลขอให้แสดงสิทธิครอบครองในที่ดินมีโฉนดอ้างว่าเจ้าของที่ดินขายให้คนนั้นแม้ศาลจะมีคำสั่งแสดง ว่าผู้นั้นได้สิทธิครอบครองในที่ดินนั้น ก็ตามเมื่อความจริงปรากฎว่า เจ้าจองที่ดินนั้นมิได้ขาย เป็นแต่ให้เช่าดังนี้ คำสั่งของศาลดังกล่าวย่อมไม่เป็นการตัดสิทธิเจ้าของที่ดินหรือทายาทที่จะฟ้องเรียกร้องเอาที่ดินนั้นคืนมา./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนัดพร้อมกับนัดชี้สองสถาน: การยื่นเพิ่มเติมฟ้องหลังนัดพร้อมยังทันตามกฎหมาย
โจทก์จำเลยพิพาทกันเรื่องมรดก เมื่อจำเลยยื่นคำให้การแล้ว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้นัดพร้อมครั้นถึงกำหนด คู่ความ ขอเลื่อนไปเนื่องจากมีทางตกลงกันได้ จนถึงกำหนดนัดพร้อมกันครั้งที่ 2 คู่ความก็ยังขอเวลาไปเจรจา เพื่อแบ่ง มรดกกันเองก่อน ขอให้ศาลงดคดีไว้ 1 เดือน ศาลก็อนุญาตดังนี้ การนัดทั้ง 2 ครั้งดังกล่าวย่อมถือว่าเป็นการนัด พร้อม ไม่ใช่นัดชี้สองสถาน และการนัดพร้อมทั้ง 2 ครั้งนั้นคู่ความหรือศาลก็หาได้กระทำอย่างหนึ่งอย่างใด อันจะเป็นการเรียกได้ว่า ได้มีการชี้สองสถาน ดังที่บัญญัติไว้ใน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 183 ไม่ จึงเรียกไม่ได้ว่ามีการชี้ สองสถานแล้ว./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 509/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกเฉพาะส่วน ทายาทที่ไม่อุทธรณ์ไม่ได้รับส่วนแบ่ง
ในคดีที่โจทก์หลายคนฟ้องจำเลย ขอให้แบ่งมรดก จำเลยต่อสู้ว่าเป็นทรัพย์ของจำเลย ไม่ใช่มรดก เมื่อศาลชั้นต้นฟังว่าทรัพย์พิพาทเป็นของจำเลยไม่ใช่มรดกจึงพิพากษาไม่ให้แบ่งนั้นถ้าโจทก์บางคนอุทธรณ์ขอให้แบ่งส่วนโจทก์บางคนไม่อุทธรณ์ ยินยอมตามคำพิพากษาดังนี้ถ้าศาลอุทธรณ์เห็นว่าทรัพย์พิพาทตกเป็นมรดก อันจะต้องแบ่งให้ทายาทแล้วศาลอุทธรณ์ก็จะพิพากษาให้แบ่งเฉพาะโจทก์ที่อุทธรณ์ขึ้นมาเท่านั้นจะพิพากษาให้โจทก์ที่มิได้อุทธรณ์ขึ้นมาได้รับส่วนแบ่งด้วย ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 438/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนสัญญาโอนกรรมสิทธิที่ดินต้องมีคู่ความครบถ้วน การฟ้องไม่ครอบคลุมถึงผู้รับโอนทำให้ศาลไม่สามารถบังคับคดีถึงบุคคลภายนอกได้
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่า โจทก์เป็นทายาทโดยธรรม เป็นผู้รับมรดกที่ดินของบิดาโจทก์ ซึ่งถือแก่กรรมไปแล้ว
และว่า ถ้าจำเลยได้ทำสัญญาโอนกรรมสิทธิที่ดินให้กับผู้อื่นแล้ว ขอให้ทำลายเอกสารเสียด้วย แต่โจทก์มิได้ฟ้องผู้รับโอนที่ดินรายนั้นจากจำเลยเป็นจำเลยด้วยไม่ ดังนี้ แม้จะฟังข้อเท็จจริงว่าที่ดินนั้น เป็นของบิดาโจทก์ตกได้แก่โจกท์ ศาลก็ไม่ชอบที่จะพิพากษาให้เพิกถอนสัญญาโอนกรรมสิทธิอันเป็นผลเลยไปถึงบุคคลภายนอก ซึ่งมิได้เป็นคู่ความด้วย./
และว่า ถ้าจำเลยได้ทำสัญญาโอนกรรมสิทธิที่ดินให้กับผู้อื่นแล้ว ขอให้ทำลายเอกสารเสียด้วย แต่โจทก์มิได้ฟ้องผู้รับโอนที่ดินรายนั้นจากจำเลยเป็นจำเลยด้วยไม่ ดังนี้ แม้จะฟังข้อเท็จจริงว่าที่ดินนั้น เป็นของบิดาโจทก์ตกได้แก่โจกท์ ศาลก็ไม่ชอบที่จะพิพากษาให้เพิกถอนสัญญาโอนกรรมสิทธิอันเป็นผลเลยไปถึงบุคคลภายนอก ซึ่งมิได้เป็นคู่ความด้วย./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 438/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนสัญญาโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน - การฟ้องคดีเฉพาะจำเลยผู้ทำสัญญา โดยไม่ฟ้องผู้รับโอน
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่า โจทก์เป็นทายาทโดยธรรม เป็นผู้รับมรดกที่ดินของบิดาโจทก์ ซึ่งถึงแก่กรรมไปแล้วและว่า ถ้าจำเลยได้ทำสัญญาโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้กับผู้อื่นแล้ว ขอให้ทำลายเอกสารเสียด้วย แต่โจทก์มิได้ฟ้องผู้รับโอนที่ดินรายนั้นจากจำเลย เป็นจำเลยด้วยไม่ ดังนี้ แม้จะฟังข้อเท็จจริงว่าที่ดินนั้น เป็นของบิดา โจทก์ตกได้แก่โจทก์ ศาลก็ไม่ชอบที่จะพิพากษาให้เพิกถอนสัญญาโอน กรรมสิทธิ์อันเป็นผลเลยไปถึงบุคคลภายนอก ซึ่งมิได้เป็นคู่ความด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 403/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิทายาทและการฟ้องแย้งการจัดการมรดก: การแสดงสิทธิทายาทที่ไม่ขัดขวางการจัดการมรดก
ทายาทของผู้ตายฟ้องผู้จัดการมรดกของผู้ตายขอให้ศาลแสดงว่าตนเป็นทายาทของผู้ตาย และมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายแต่ผู้เดียว นั้น เมื่อปรากฎในคำฟ้องว่า จำเลยไปร้องขอรับมรดกที่ดินมรดกโดยแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่า ผู้ตายไม่มีทายาทอื่น ดังนี้ เป็นเรื่องที่ทายาทขอให้แสดงสิทธิเท่านั้น จึงไม่เป็นการขัดต่อการจัดการมรดกแต่อย่างใด ฉะนั้นแม้ขณะนั้นจำเลยจะเป็นผู้จัดการมรดกโดยศาลตั้งทายาทผู้นั้นก็ยังฟ้องได้ และศาลก็จะพิพากษาเพียงบแสดงว่าโจทก์เป็นทายาทของผู้ตายเท่านั้น ส่วนจะเป็นทายาทแต่คนเดียวหรือไม่นั้น ไม่ชี้ขาดเพราะเป็นการพิพาทกันระหว่างโจทก์ กับจำเลยซึ่งไปอ้างต่อเจ้าพนักงานว่าไม่มีทายาทอื่น นอกจากจำเลยเท่านั้น./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 403/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิทายาทและการฟ้องคดีระหว่างผู้จัดการมรดกกับทายาทอื่น
ทายาทของผู้ตายฟ้องผู้จัดการมรดกของผู้ตายขอให้ศาลแสดงว่าตนเป็นทายาทของผู้ตาย และมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายแต่ผู้เดียวนั้นเมื่อปรากฏในคำฟ้องว่า จำเลยไปร้องขอรับมรดกที่ดินมรดกโดยแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่า ผู้ตายไม่มีทายาทอื่นดังนี้เป็นเรื่องที่ทายาทขอให้แสดงสิทธิเท่านั้น จึงไม่เป็นการขัดต่อการจัดการมรดกแต่อย่างใดฉะนั้นแม้ขณะนั้นจำเลยจะเป็นผู้จัดการมรดกโดยศาลตั้งทายาทผู้นั้นก็ยังฟ้องได้ และศาลก็จะพิพากษาเพียงแสดงว่าโจทก์เป็นทายาทของผู้ตายเท่านั้นส่วนจะเป็นทายาทแต่คนเดียวหรือไม่นั้น ไม่ชี้ขาดเพราะเป็นการพิพาทกันระห่างโจทก์ กับจำเลยซึ่งไปอ้างต่อเจ้าพนักงานว่าไม่มีทายาทอื่น นอกจากจำเลยเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดคดีผู้พิทักษ์เนื่องจากผู้เสมือนไร้ความสามารถถึงแก่กรรม ทรัพย์สินตกทอดสู่ทายาท
ร้องขอเป็นผู้พิทักษ์ผู้เสมือนไร้ความสามารถ เมื่อคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ปรากฎว่าผู้เสมือนไร้ความสามารถถึงแก่กรรมลง ก็ย่อมไม่มีประโยชน์อย่างใดที่จะพิจารณากันต่อไปว่าผู้ร้องสมควรจะเป็นผู้พิทักษ์หรือไม่เพราะทรัพย์มรดกของผู้
ตาย ย่อมตกทอดไปยังทายาทโดยอำนาจแห่งกฎหมายแล้ว ศาลฎีกาจึงต้องสั่งจำหน่ายคดีชั้นฎีกาเสีย
ตาย ย่อมตกทอดไปยังทายาทโดยอำนาจแห่งกฎหมายแล้ว ศาลฎีกาจึงต้องสั่งจำหน่ายคดีชั้นฎีกาเสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 218/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินไม่ผูกพันกับความเป็นทายาท การเพิกถอนคำสั่งศาลเรื่องสถานะบุตร
ผู้ที่อ้างว่าได้ที่ดินของผู้ตายมาโดยทางครอบครอง หาใช้เพราะเป็นทายาทผู้รับมรดกของผู้ตายไม่การที่ผู้ใดจะเป็นทายาทของผู้ตายหรือไม่ ย่อมไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิครอบครองของผู้นั้น ฉะนั้นการที่ศาลสั่งว่าผู้ใดผู้หนึ่งเป็นบุตรของผู้ตาย จึงไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิของผู้ที่อ้างว่าครอบครองที่ดินนั้นตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 55 ผู้นั้นจึงย่อมไม่มีสิทธิจะฟ้องศาลขอให้เพิกถอนคำสั่งที่สั่งว่าผู้ใดเป็นบุตรผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 112/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งทรัพย์มรดกโดยการครอบครองเกิน 1 ปี และสิทธิในการยกอายุความของผู้ซื้อ
ทายาทผู้ครอบครองทรัพย์มรดกของผู้ตายมาแต่ผู้เดียวเกิน1 ปี โดยทายาทอื่นมิได้เรียกร้องมรดกนั้นเสียภายใน
กำหนด 1 ปี ทรัพย์มรดกนั้นย่อมตกเป็นของทายาทผู้ครอบครอง และเมื่อทายาทผู้ครอบครองขายทรัพย์นั้นไปแก่
บุคคลภายนอก บุคคลภายนอกก็ย่อมจะใช้สิทธิของทายาทผู้นั้นได้ด้วย.
กำหนด 1 ปี ทรัพย์มรดกนั้นย่อมตกเป็นของทายาทผู้ครอบครอง และเมื่อทายาทผู้ครอบครองขายทรัพย์นั้นไปแก่
บุคคลภายนอก บุคคลภายนอกก็ย่อมจะใช้สิทธิของทายาทผู้นั้นได้ด้วย.