พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,380 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิที่ดินจากการครอบครองปรปักษ์และการไม่ห้ามฟ้องบุพการี
ยื่นคำร้องขอให้ศาลแสดงว่าตนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิในที่ดินที่มีโฉนด ซึ่งมีผู้ยกให้ตนปกครองมาจนได้กรรมสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 และขอให้ศาลสั่งเจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนให้ผู้ร้องนั้น เมื่อบิดาผู้ร้องคัดค้านโต้แย้งเข้ามาทำให้คดีแปรสภาพเป็นคดีมีข้อพิพาทขึ้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 188(4) ก็ตามและการที่ผู้คัดค้านเข้ามามีฐานะเป็นคู่ความ ไม่ใช่เป็นการกระทำของผู้ร้องดังนั้น จึงเรียกไม่ได้ว่าผู้ร้องได้ฟ้องบุพการีของตนคดีจึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1534
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 418/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการฟ้องแย่งการครอบครองที่ดินหลังการโอนสิทธิ
การยึดถือที่ดินไว้ทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้อันเป็นการยึดถือแทนเจ้าของที่ดินนั้น อาจจะเปลี่ยนลักษณะการยึดถือ โดยบอกกล่าวไม่เจตนาจะยึดถือแทนต่อไปก็ได้ หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็ย่อมถือได้ว่าเป็นการถูกแย่งการครอบครองเจ้าของที่ดินจะต้องฟ้องเสียภายใน 1 ปี นับแต่ได้รับบอกกล่าวให้ทราบเช่นนั้น
สามีผู้ยึดถือที่ดินของผู้อื่นในฐานะยึดถือทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้ได้เอาที่ดินนั้นโอนทะเบียนยกให้ภรรยาของตนเสีย โดยเจ้าของที่ดินไม่ทราบจนเมื่อเจ้าของที่ดินมาขอไถ่ที่ดินคืน จึงทราบเช่นนี้ เจ้าของที่ดินยังมีสิทธิฟ้องเอาคืนการครอบครองภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันทราบ
โจทก์ฟ้องเรียกคืนการครอบครองที่ดินจำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ฟ้องคดีขาดอายุความ 1 ปี ตามมาตรา 1375 เช่นนี้ จำเลยเป็นฝ่ายอ้าง จึงมีหน้าที่นำสืบว่าโจทก์ฟ้องเกิน 1 ปี
สามีผู้ยึดถือที่ดินของผู้อื่นในฐานะยึดถือทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้ได้เอาที่ดินนั้นโอนทะเบียนยกให้ภรรยาของตนเสีย โดยเจ้าของที่ดินไม่ทราบจนเมื่อเจ้าของที่ดินมาขอไถ่ที่ดินคืน จึงทราบเช่นนี้ เจ้าของที่ดินยังมีสิทธิฟ้องเอาคืนการครอบครองภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันทราบ
โจทก์ฟ้องเรียกคืนการครอบครองที่ดินจำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ฟ้องคดีขาดอายุความ 1 ปี ตามมาตรา 1375 เช่นนี้ จำเลยเป็นฝ่ายอ้าง จึงมีหน้าที่นำสืบว่าโจทก์ฟ้องเกิน 1 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 232/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินให้ผู้อื่นและการครอบครองปรปักษ์ หากมีตราจองยังไม่แยก สิทธิยังไม่สมบูรณ์
ที่นา,ยกให้ แปลสัญญา ขายที่ไม่ใช่ของตน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1805/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยอ้างการครอบครองปรปักษ์ตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 1382 และ พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน
พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2486 มาตรา 14 และกฎกระทรวงมหาดไทยซึ่งออกตาม พ.ร.บ.นี้ข้อ 1 ว่าผู้ขอจดทะเบียนการได้มา ซึ่งกรรมสิทธิที่ดินที่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิแล้วตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1382 ต้องยื่นคำขอต่อเจ้าพนักงานที่ดินพร้อมด้วยคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลแสดงว่าตนมีกรรมสิทธิในที่ดินนั้น ฉะนั้นการที่ผู้ครอบครองที่ดินจนได้กรรมสิทธิตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1382 แล้ว แม้ที่ดินนั้นจะมีชื่อผู้อื่นในโฉนด ผู้ครอบครองก็ย่อมจะยื่นคำร้องต่อศาลอย่างคดีไม่มีข้อพิพาทขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงว่าตนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิในที่ดินแปลงนั้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องฟ้องผู้มีชื่อในโฉนดนั้นมาเป็นจำเลยอย่างคดีมีข้อพิพาท แต่ถ้าผู้มีชื่อในโฉนดร้องคัดค้านเข้ามาศาลก็ย่อมสั่งว่าคดีกลายเป็นมีข้อพิพาทให้เสียกค่าธรรมเนียมและดำเนินคดีอย่างคดีมีข้อพิพาทตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ฯ มาตรา 188 ข้อ 4
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1112/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายฝากที่ดินโดยผู้ไม่มีอำนาจ สัญญาไม่ผูกพันบุตร และการครอบครองปรปักษ์ที่ต้องเจตนาเป็นเจ้าของ
บิดาเอาที่ดิน ( ไม่มีโฉนด ) พร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน อันเป็นของบุตรไปขายฝากเขาไว้มีกำหนดไถ่คืนภายใน 10 ปี ในนามตนเองเป็นส่วนตัว มิใช่ทำแทนบุตร ผู้รับซื้อฝากก็ทราบว่าที่ดินเป็นของบุตร ดังนี้จะนำสัญญามาใช้ยันบุตรไม่ได้และผู้รับซื้อฝากจะอ้างว่าได้ครอบครองมาครบ 10 ปีแล้ว ก็ไม่ได้อีกเพราะเมื่อสัญญานั้นไม่ผูกพันบุตรดังกล่าวแล้ว การครอบครองของจำเลยตามข้อสัญญาและตามกิริยาที่ปฏิบัติต่อกันเป็นทำนองเอาที่ดินประกันเงินกู้ โดยยอมให้มีสิทธิไถ่ถอนได้ภายใน 10 ปี ฉะนั้นภายในกำหนด 10 ปีนั้นผู้รับซื้อฝากจะอ้างว่า ตนครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของหาได้ไม่
จำเลยรับซื้อฝากที่ดินจากบิดาของโจทก์โดยรู้ว่าบิดาครอบครองแทนโจทก์และไม่มีอำนาจโอน จำเลยอ้างอายุความปกครองโดยปรปักษ์ยันโจทก์ไม่ได้
จำเลยเคยฟ้องมารดาของเด็ก ( ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว ) ขอให้ศาลขัลไล่ออกจากที่พิพาทโดยอ้างว่าได้กรรมสิทธิมาจากการขายฝากหลุดเป็นกรรมสิทธิ ศาลพิพากษาให้จำเลยชนะ แต่คดียังไม่ถึงที่สุดเด็กกลับมาเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นของเด็ก มิใช่ของบิดามารดา การที่บิดเอาที่ไปขายฝากแก่จำเลย เด็กไม่ทราบ เป็นเรื่องจำเลยสมคบกับบิดาเด็กแจ้งเท็จต่ออำเภอว่าเป็นที่ของบิดาเด็ก จึงขอให้เพิกถอนสัญญาขายฝาก ดังนี้ ถือว่าไม่เป็นฟ้องซ้ำ และคำพิพากษาในคดีก่อนก็ไม่ผูกพันเด็ก
จำเลยรับซื้อฝากที่ดินจากบิดาของโจทก์โดยรู้ว่าบิดาครอบครองแทนโจทก์และไม่มีอำนาจโอน จำเลยอ้างอายุความปกครองโดยปรปักษ์ยันโจทก์ไม่ได้
จำเลยเคยฟ้องมารดาของเด็ก ( ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว ) ขอให้ศาลขัลไล่ออกจากที่พิพาทโดยอ้างว่าได้กรรมสิทธิมาจากการขายฝากหลุดเป็นกรรมสิทธิ ศาลพิพากษาให้จำเลยชนะ แต่คดียังไม่ถึงที่สุดเด็กกลับมาเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นของเด็ก มิใช่ของบิดามารดา การที่บิดเอาที่ไปขายฝากแก่จำเลย เด็กไม่ทราบ เป็นเรื่องจำเลยสมคบกับบิดาเด็กแจ้งเท็จต่ออำเภอว่าเป็นที่ของบิดาเด็ก จึงขอให้เพิกถอนสัญญาขายฝาก ดังนี้ ถือว่าไม่เป็นฟ้องซ้ำ และคำพิพากษาในคดีก่อนก็ไม่ผูกพันเด็ก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1029/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการสละกรรมสิทธิในที่ดิน แม้มีโฉนด แต่การครอบครองก่อนและต่อเนื่องเป็นสำคัญ
ฟ้องของโจทก์มีว่า ยายโจทก์ได้ให้ศาลจ้าวจืนอาศัยปลูกสร้างศาลจ้าวลงในที่ดินพิพาทบัดนี้ที่ดินตกเป็นของโจทก์ ๆ จึงขอให้ขับไล่
กรรมการศาลจ้าว ซึ่งเป็นจำเลยให้การว่า ยายโจทก์ทำหนังสือยกที่พิพาทให้ทำเป็นศาลจ้าวของเอกชนโดยได้รับค่าตอบแทนไป 300 บาท 10 ปีเศษแล้ว
จำเลยอ้างเอกสาร 2 ฉะบับ ซึ่งยายโจทก์ยกที่ดินให้ปลูกศาลจ้าว ซึ่งโจทก์เองเป็นผู้เขียนกับเอกสารการรับเงินค่าตอบแทน 300 บาท โจทก์รับรองเอกสารดังกล่าวแล้ว และว่าได้มอบที่พิพาทให้ในวันทำเอกสาร โจทก์ไปรับโฉนดมา จำเลยไม่ทราบดังนี้ เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบว่า จำเลยอาศัยดังข้อกล่าวอ้าง
กรรมการศาลจ้าว ซึ่งเป็นจำเลยให้การว่า ยายโจทก์ทำหนังสือยกที่พิพาทให้ทำเป็นศาลจ้าวของเอกชนโดยได้รับค่าตอบแทนไป 300 บาท 10 ปีเศษแล้ว
จำเลยอ้างเอกสาร 2 ฉะบับ ซึ่งยายโจทก์ยกที่ดินให้ปลูกศาลจ้าว ซึ่งโจทก์เองเป็นผู้เขียนกับเอกสารการรับเงินค่าตอบแทน 300 บาท โจทก์รับรองเอกสารดังกล่าวแล้ว และว่าได้มอบที่พิพาทให้ในวันทำเอกสาร โจทก์ไปรับโฉนดมา จำเลยไม่ทราบดังนี้ เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบว่า จำเลยอาศัยดังข้อกล่าวอ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1029/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และหน้าที่การพิสูจน์ของโจทก์เกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน
ฟ้องของโจทก์มีว่า ยายโจทก์ได้ให้ศาลจ้าวจีนอาศัยปลูกสร้างศาลจ้าวลงในที่ดินพิพาท บัดนี้ที่ดินตกเป็นของโจทก์โจทก์จึงขอให้ขับไล่
กรรมการศาลจ้าว ซึ่งเป็นจำเลยให้การว่า ยายโจทก์ทำหนังสือยกที่พิพาทให้ทำเป็นศาลจ้าวของเอกชนโดยได้รับค่าตอบแทนไป 300 บาท 10 ปีเศษแล้ว
จำเลยอ้างเอกสาร 2 ฉบับ ซึ่งยายโจทก์ยกที่ดินให้ปลูกศาลจ้าว ซึ่งโจทก์เองเป็นผู้เขียนกับเอกสารการรับเงินค่าตอบแทน 300 บาท โจทก์รับรองเอกสารดังกล่าวแล้ว และว่าได้มอบที่พิพาทให้ในวันทำเอกสาร โจทก์ไปรับโฉนดมา จำเลยไม่ทราบ ดังนี้ เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบว่า จำเลยอาศัยดังข้อกล่าวอ้าง
กรรมการศาลจ้าว ซึ่งเป็นจำเลยให้การว่า ยายโจทก์ทำหนังสือยกที่พิพาทให้ทำเป็นศาลจ้าวของเอกชนโดยได้รับค่าตอบแทนไป 300 บาท 10 ปีเศษแล้ว
จำเลยอ้างเอกสาร 2 ฉบับ ซึ่งยายโจทก์ยกที่ดินให้ปลูกศาลจ้าว ซึ่งโจทก์เองเป็นผู้เขียนกับเอกสารการรับเงินค่าตอบแทน 300 บาท โจทก์รับรองเอกสารดังกล่าวแล้ว และว่าได้มอบที่พิพาทให้ในวันทำเอกสาร โจทก์ไปรับโฉนดมา จำเลยไม่ทราบ ดังนี้ เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบว่า จำเลยอาศัยดังข้อกล่าวอ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 930/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความครอบครองปรปักษ์ที่ดินทำประโยชน์ แม้ไม่มีหนังสือสำคัญสิทธิ
ที่ดินที่มีเจ้าของยึดถือปกครองมาไม่น้อยกว่า 20 ปี เป็นที่สวนยางทำประโยชน์แล้ว แม้จะไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน อายุความที่จะขาดสิทธิเรียกร้องเอาคืน ต้องถือ 9-10 ปี ถ้าผู้อื่นครองครองยังไม่ถึง 10 ปี เจ้าของยังมีสิทธิเรียกร้องเอากลับคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 930/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความครอบครองปรปักษ์ที่ดินทำประโยชน์ แม้ไม่มีหนังสือสำคัญ เจ้าของยังมีสิทธิเรียกร้องคืนได้หากครอบครองไม่ถึง 10 ปี
ที่ดินที่มีเจ้าของยึดถือปกครองมาไม่น้อยกว่า 20 ปี เป็นที่สวนยางทำประโยชน์แล้ว แม้จะไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน อายุความที่จะขาดสิทธิเรียกร้องเอาคืนต้องถือ 9-10 ปี ถ้าผู้อื่นครอบครองยังไม่ถึง10 ปี เจ้าของยังมีสิทธิเรียกร้องเอากลับคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 907/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขับไล่และการครอบครองปรปักษ์: สิทธิผู้ได้มาโดยเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียน
ฟ้องขับไล่ผู้อาศัยออกจากที่ดินนั้น ไม่จำเป็นต้องระบุถึงวันเริ่มการอาศัยวันแรก เพราะการอาศัยหรือไม่นั้นเป็นลักษณะของอาการที่ประพฤติต่อกันสืบเนื่องเรื่อย ๆ ไป เมื่อโจทก์กล่าวถึงสภาพแห่งคดีพอที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ก็ใช้ได้
ผู้ครอบครองที่ดินด้วยอำนาจปรปักษ์เกินกว่า 10 ปี แต่มิได้จดทะเบียนสิทธิไว้จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ผู้ได้สิทธิในที่ดินนี้มาโดยการเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนสิทธิ โดยสุจริตไม่ได้ ดังบทบัญญัติไว้ใน ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 1299 วรรค 2
ผู้ครอบครองที่ดินด้วยอำนาจปรปักษ์เกินกว่า 10 ปี แต่มิได้จดทะเบียนสิทธิไว้จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ผู้ได้สิทธิในที่ดินนี้มาโดยการเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนสิทธิ โดยสุจริตไม่ได้ ดังบทบัญญัติไว้ใน ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 1299 วรรค 2