พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,834 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเองในคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย ศาลพิจารณาจากเหตุการณ์และสภาพร่างกายของผู้ถูกกระทำ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนา แม้จำเลยให้การรับสารภาพ หากทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้กระทำการป้องกันตนเอง ศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยให้เป็นผลดีแก่จำเลยได้
จำเลยไปทวงเงินที่ผู้ตายเป็นหนี้อยู่ ผู้ตายกลับต่อยจำเลยและติดตามเข้าไปทำร้ายซ้ำเติมอีก จำเลยอายุเพียง 19 ปี รูปร่างเล็กและเตี้ยกว่าผู้ตายไม่มีทางสู้แรงปะทะของผู้ตายได้จึงใช้มีดแทงไป 1 ที บังเอิญมีดไปถูกที่สำคัญเข้า ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
จำเลยไปทวงเงินที่ผู้ตายเป็นหนี้อยู่ ผู้ตายกลับต่อยจำเลยและติดตามเข้าไปทำร้ายซ้ำเติมอีก จำเลยอายุเพียง 19 ปี รูปร่างเล็กและเตี้ยกว่าผู้ตายไม่มีทางสู้แรงปะทะของผู้ตายได้จึงใช้มีดแทงไป 1 ที บังเอิญมีดไปถูกที่สำคัญเข้า ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการทำร้ายร่างกาย: พิจารณาจากเหตุการณ์ บาดแผล และอาวุธที่ใช้
มูลเหตุที่จะเกิดทำร้ายเนื่องจากจำเลยและผู้เสียหายโต้เถียงกันเรื่องปิดน้ำหัวคันนา และจำเลยใช้จอบฟันดินทำร้ายผู้เสียหาย บาดแผลไม่แสดงว่าถูกคมจอบเลย แสดงว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า ผู้เสียหายและถ้าจำเลยมีเจตนาฆ่าก็น่าจะฟันด้วยคมจอบ จำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้ายร่างกาย vs. เจตนาฆ่า: การพิจารณาจากอาวุธและบาดแผล
มูลเหตุที่จะเกิดทำร้ายเนื่องจากจำเลยและผู้เสียหายโต้เถียงกันเรื่องปิดน้ำหัวคันนา และจำเลยใช้จอบฟันดินทำร้ายผู้เสียหายบาดแผลไม่แสดงว่าถูกคมจอบเลยแสดงว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าผู้เสียหายและถ้าจำเลยมีเจตนาฆ่าก็น่าจะฟันด้วยคมจอบจำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 561/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยในคดีทำร้ายร่างกายจนแท้งลูก ศาลลงโทษตามบทมาตราที่ถูกต้องได้ แม้โจทก์จะอ้างบทผิดมาตราอื่น
ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลย ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับอันตรายสาหัสคือแท้งลูก แม้โจทก์จะอ้างบทผิด คืออ้างประมวลกฎหมายอาญา ม. 279 ศาลก็ลงโทษตาม ม. 297 ซึ่งเป็นบทมาตราที่ถูกต้องได้ทั้งนี้ อาศัย ป.วิ.อ. มาตรา 192
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 561/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้แท้งลูก แม้ผิดบทมาตรา ศาลลงโทษได้ตามความผิดที่เข้าข่าย
ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับอันตรายสาหัสคือแท้งลูกแม้โจทก์จะอ้างบทผิด คืออ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279 ศาลก็ลงโทษตาม มาตรา297 ซึ่งเป็นบทมาตราที่ถูกต้องได้ทั้งนี้ อาศัย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 558/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำเพื่อป้องกันตัวเมื่อถูกทำร้ายก่อน ศาลยกฟ้องเนื่องจากเหตุป้องกันตัวพอสมควร
ผู้เสียหายเป็นผู้ก่อเหตุก่อนโดยเอาปืนจี้และชกจำเลย จำเลยจึงเตะผู้เสียหาย 1 ทีผู้เสียหายล้มลงไม่มีบาดเจ็บการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเปรียบเทียบของพนักงานสอบสวนในคดีทำร้ายร่างกาย: ประเด็นบาดแผลถึงบาดเจ็บและการยินยอม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์ถึงบาดเจ็บ แต่พนักงานสอบสวนได้เปรียบเทียบปรับจำเลยโดยไม่มีอำนาจทำได้ เพราะบาดแผลของโจทก์ถึงบาดเจ็บ จำเลยต่อสู้ว่า บาดแผลของโจทก์ไม่ถึงบาดเจ็บ พนักงานสอบสวนมีอำนาจเปรียบเทียบได้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปแล้ว ดังนี้ ประเด็นเรื่องการสอบสวนจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อยู่ที่บาดแผลของโจทก์ถึงบาดเจ็บหรือไม่ ถ้าบาดแผลของโจทก์ถึงบาดเจ็บเป็นความผิดตามมาตรา 254 พนักงานสอบสวนก็ไม่มีอำนาจเปรียบเทียบ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า บาดแผลของโจทก์ไม่ถึงบาดเจ็บ การเปรียบเทียบชอบด้วยกฎหมายแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับไปแล้ว แต่ศาลอุทธรณ์กลับไปวินิจฉัยว่า ผู้เสียหายและผู้ต้องหาไม่ได้ให้ความยินยอมในการเปรียบเทียบ ๆ จึงใช้ไม่ได้ ดังนี้ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า บาดแผลของโจทก์ไม่ถึงบาดเจ็บ การเปรียบเทียบชอบด้วยกฎหมายแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับไปแล้ว แต่ศาลอุทธรณ์กลับไปวินิจฉัยว่า ผู้เสียหายและผู้ต้องหาไม่ได้ให้ความยินยอมในการเปรียบเทียบ ๆ จึงใช้ไม่ได้ ดังนี้ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเปรียบเทียบความผิดทำร้ายร่างกายขึ้นอยู่กับบาดแผลถึงขั้นบาดเจ็บหรือไม่ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์ถึงบาดเจ็บ แต่พนักงานสอบสวนได้เปรียบเทียบปรับจำเลยโดยไม่มีอำนาจทำได้เพราะบาดแผลของโจทก์ถึงบาดเจ็บจำเลยต่อสู้ว่า บาดแผลของโจทก์ไม่ถึงบาดเจ็บ พนักงานสอบสวนมีอำนาจเปรียบเทียบได้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปแล้วดังนี้ ประเด็นเรื่องการสอบสวนจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่อยู่ที่บาดแผลของโจทก์ถึงบาดเจ็บหรือไม่ ถ้าบาดแผลของโจทก์ถึงบาดเจ็บเป็นความผิดตามมาตรา 254 พนักงานสอบสวนก็ไม่มีอำนาจเปรียบเทียบ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า บาดแผลของโจทก์ไม่ถึงบาดเจ็บ การเปรียบเทียบชอบด้วยกฎหมายแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับไปแล้วแต่ศาลอุทธรณ์กลับไปวินิจฉัยว่าผู้เสียหายและผู้ต้องหาไม่ได้ให้ความยินยอมในการเปรียบเทียบ การเปรียบเทียบจึงใช้ไม่ได้ ดังนี้ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า บาดแผลของโจทก์ไม่ถึงบาดเจ็บ การเปรียบเทียบชอบด้วยกฎหมายแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับไปแล้วแต่ศาลอุทธรณ์กลับไปวินิจฉัยว่าผู้เสียหายและผู้ต้องหาไม่ได้ให้ความยินยอมในการเปรียบเทียบ การเปรียบเทียบจึงใช้ไม่ได้ ดังนี้ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1240/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวที่สมควรแก่เหตุ: โจรปล้นทรัพย์ทำร้ายร่างกาย จำเลยป้องกันเพื่อปกป้องตนเองและผู้อื่น
พฤติการณ์ของผู้ตายเป็นโจรปล้นทรัพย์ทำร้ายนายเหืองจำเลยแล้วยังจะทำซ้ำอีก นายเบืองนายโหนจำเลยเข้าไปป้องกันโดยตีผู้ตายเสียก่อนเพื่อไม่ให้ผู้ตายทำร้ายนายเหืองจำเลย พรรคพวกของผู้ตาย 2 คน ยังกลับมาช่วยผู้ตายอีก ขณะนั้นเป็นเวลากลางคืน ผู้ตายกับพวกจะก่อกรรมรุนแรงอย่างใดต่อไปย่อมรู้ไม่ได้ ในที่สุดผู้ตายก็ตายลงในเวลานั้นเอง การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นความจำเป็นเพื่อป้องกันชีวิตให้พ้นอันตรายซึ่งเกิดโดยผิดด้วยกฎหมาย เช่นนี้ ไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1116/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนตาบอด แม้ไม่มีเจตนา แต่ยังคงเป็นความผิดตามกฎหมาย
จำเลยต่อยหมายถูกบริเวณหน้าตาผู้เสียหาย เป็นผลให้ตาบอด เช่นนี้ จำเลยย่อมมีผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 (1)