พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,459 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 556/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีฟ้องซ้ำหลังมีคำพิพากษาเด็ดขาด และการร้องสอดของบุคคลภายนอกคดีเดิม
คู่ความพิพาทกันในกรรมสิทธิทรัพย์พิพาทซึ่งศาลฎีกาได้พิพากษาเด็ดขาดไปแล้วว่า ทรัพย์พิพาทเป็นของจำเลยโจทก์ซึ่งเป็นคู่ความในคดีก่อนและเป็นฝ่ายแพ้คดีกลับมาฟ้องจำเลยในคดีนี้ขึ้นใหม่อ้างว่าคำพิพากษาศาลฎีกาไม่ถูกต้องด้วยประการต่างๆ นั้น เป็นการรื้อร้องฟ้องใหม่ซึ่งประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน
คารมที่คู่ความยกขึ้นอ้างเป็นข้อเถียงข้อแย้งนั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นประเด็นแห่งคดีเสมอไป
ฟ้องไม่ระบุว่าทรัพย์เป็นอะไรอยู่ที่ไหน คำขอแต่เพียงว่า 'ให้แบ่งมรดกของนายแกรนอกพินัยกรรมทั้งหมดถ้าหากมีให้โจทก์ตามส่วนที่ควรได้ตามกฎหมายนั้น' ไม่เป็นฟ้องที่จะรับไว้พิจารณา
เมื่อผู้ร้องสอดมิได้เป็นคู่ความกับโจทก์จำเลยในคดีก่อนแม้ศาลจะได้พิพากษาชี้กรรมสิทธิในทรัพย์ว่าเป็นของจำเลยก็ดีจำเลยจะนำไปใช้ยันกับผู้ร้องสอดซึ่งเป็นบุคคลภายนอกแห่งคดีเดิมนั้นไม่ได้ถ้าผู้ร้องสอดมีข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักว่าตนมีสิทธิดีกว่าจำเลย
เมื่อกรณีพิพาทระหว่างโจทก์จำเลยคงมีแต่เรื่องอื่นอันไม่เกี่ยวกับปัญหาที่ผู้ร้องสอดร้องสอดแล้วสิทธิของผู้ร้องสอด จึงยังไม่เกี่ยวเนื่องกับคำพิพากษาหรือคำสั่งในคดีผู้ร้องสอดชอบที่แยกคดีไปฟ้องร้องว่ากล่าวเป็นอีกคดีหนึ่ง
คารมที่คู่ความยกขึ้นอ้างเป็นข้อเถียงข้อแย้งนั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นประเด็นแห่งคดีเสมอไป
ฟ้องไม่ระบุว่าทรัพย์เป็นอะไรอยู่ที่ไหน คำขอแต่เพียงว่า 'ให้แบ่งมรดกของนายแกรนอกพินัยกรรมทั้งหมดถ้าหากมีให้โจทก์ตามส่วนที่ควรได้ตามกฎหมายนั้น' ไม่เป็นฟ้องที่จะรับไว้พิจารณา
เมื่อผู้ร้องสอดมิได้เป็นคู่ความกับโจทก์จำเลยในคดีก่อนแม้ศาลจะได้พิพากษาชี้กรรมสิทธิในทรัพย์ว่าเป็นของจำเลยก็ดีจำเลยจะนำไปใช้ยันกับผู้ร้องสอดซึ่งเป็นบุคคลภายนอกแห่งคดีเดิมนั้นไม่ได้ถ้าผู้ร้องสอดมีข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักว่าตนมีสิทธิดีกว่าจำเลย
เมื่อกรณีพิพาทระหว่างโจทก์จำเลยคงมีแต่เรื่องอื่นอันไม่เกี่ยวกับปัญหาที่ผู้ร้องสอดร้องสอดแล้วสิทธิของผู้ร้องสอด จึงยังไม่เกี่ยวเนื่องกับคำพิพากษาหรือคำสั่งในคดีผู้ร้องสอดชอบที่แยกคดีไปฟ้องร้องว่ากล่าวเป็นอีกคดีหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: ประเด็นต่างกัน แม้เคยถูกกล่าวอ้างเป็นบริวารในคดีก่อน ไม่ถือฟ้องซ้ำตามกฎหมาย
ขั้นบังคับคดีแพ่งคดีหนึ่งจำเลยเคยถูกศาลสั่งให้ขับไล่ให้ออกจากห้องเช่าโดยว่าเป็นบริวารนายงักย้งจำเลยในคดี แต่จำเลยได้ต่อสู้ว่าไม่ใช่ ซึ่งศาลได้ไต่สวนแล้วสั่งว่า จำเลยไม่ใช่บริวารของนายงักย้ง แต่จำเลยได้เข้าอยู่อาศัยโดยเช่าจากโจทก์และสามี ต่อมาโจทก์มาฟ้องขับไล่จำเลยอีกได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะมีประเด็นคนละประเด็น เพราะในคดีก่อนประเด็นมีเพียงว่าจำเลยเป็นบริวารนายงักย้นหรือไม่ ทั้งคดีเข้าข้อยกเว้นตาม ประมวล.วิ.แพ่ง มาตรา 148(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: ประเด็นต่างกัน แม้เคยเป็นบริวาร ไม่ถือฟ้องซ้ำตามมาตรา 148(1) ว.พ.พ.
ชั้นบังคับคดีแพ่งคดีหนึ่งจำเลยเคยถูกศาลสั่งให้ขับไล่ให้ออกจากห้องเช่าโดยว่าเป็นบริวารนายงักย้งจำเลยในคดีแต่จำเลยได้ต่อสู้ว่าไม่ใช่ซึ่งศาลได้ไต่สวนแล้วสั่งว่าจำเลยไม่ใช่บริวารของนายงักย้งแต่จำเลยได้เข้าอยู่อาศัยโดยเช่าจากโจทก์และสามีต่อมาโจทก์มาฟ้องขับไล่จำเลยอีกได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำเพราะมีประเด็นคนละประเด็นเพราะในคดีก่อนประเด็นมีเพียงว่าจำเลยเป็นบริวารนายงักย้งหรือไม่ทั้งคดีเข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1524/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำและขอบเขตคำพิพากษา: ศาลฎีกาอนุญาตฟ้องซ้ำได้หากคำพิพากษาเดิมเปิดช่องไว้ และคำพิพากษาใช้ยันบุคคลนอกคดีได้
แม้คดีนี้จะมีประเด็นเดียวกับคดีก่อน แต่เมื่อมีคำพิพากษาศาลให้อำนาจแก่โจทก์ที่จะเรียกร้องที่พิพาทอีกได้แล้วฟ้องของโจทก์ในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
เมื่อจำเลยที่ 2 ตั้งประเด็นต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของนายเสงี่ยมเช่นเดียวกับจำเลยที่ 1 และศาลฎีกาได้พิพากษาไว้ในคดีก่อนระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ว่าไม่ใช่ของนายเสงี่ยม นายเสงี่ยมไม่ได้เกี่ยวข้องครอบครองที่พิพาทแล้ว คำพิพากษาดังกล่าวซึ่งเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์จึงใช้ยันจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลนอกคดีได้
เมื่อจำเลยที่ 2 ตั้งประเด็นต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของนายเสงี่ยมเช่นเดียวกับจำเลยที่ 1 และศาลฎีกาได้พิพากษาไว้ในคดีก่อนระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ว่าไม่ใช่ของนายเสงี่ยม นายเสงี่ยมไม่ได้เกี่ยวข้องครอบครองที่พิพาทแล้ว คำพิพากษาดังกล่าวซึ่งเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์จึงใช้ยันจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลนอกคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1524/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำและการใช้คำพิพากษาในคดีก่อนยันบุคคลนอกคดีเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดิน
แม้คดีนี้จะมีประเด็นเดียวกับคดีก่อน แต่เมื่อมีคำพิพากษาศาลให้อำนาจแก่โจทก์ที่จะเรียกร้องที่พิพาทอีกได้แล้วฟ้องของโจทก์ในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
เมื่อจำเลยที่ 2 ตั้งประเด็นต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของนายเสงี่ยมเช่นเดียวกับจำเลยที่ 1 และศาลฎีกาได้พิพากษาไว้ในคดีก่อนระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ว่าไม่ใช่ของนายเสงี่ยม นายเสงี่ยมไม่ได้เกี่ยวข้องครอบครองที่พิพาทแล้ว คำพิพากษาดังกล่าวซึ่งเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์จึงใช้ยันจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลนอกคดีได้
เมื่อจำเลยที่ 2 ตั้งประเด็นต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของนายเสงี่ยมเช่นเดียวกับจำเลยที่ 1 และศาลฎีกาได้พิพากษาไว้ในคดีก่อนระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ว่าไม่ใช่ของนายเสงี่ยม นายเสงี่ยมไม่ได้เกี่ยวข้องครอบครองที่พิพาทแล้ว คำพิพากษาดังกล่าวซึ่งเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์จึงใช้ยันจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลนอกคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1351/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำหรือไม่: ศาลมิได้วินิจฉัยกรรมสิทธิ์ในคดีก่อน แม้ประเด็นเกี่ยวกับที่ดินเดียวกัน
ในคดีก่อนโจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญเช่าไม่ชำระค่าเช่า ขอให้บังคับให้จำเลยชำระและขอให้ขับไล่จำเลย จำเลยในคดีก่อนกลับเป็นโจทก์ฟ้องคดีนี้ ขอให้โจทก์คดีก่อนยอมรับไถ่ที่ดินที่ขายฝากไว้ดังนี้ แม้คดีก่อนจะถึงที่สุดไปแล้ว ก็ฟ้องคดีใหม่นี้ได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะศาลมิได้วินิจฉัยประเด็นในคดีก่อนโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันกับประเด็นในคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1351/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำหรือไม่: ประเด็นกรรมสิทธิ์ที่ดินต่างจากข้อพิพาทสัญญาเช่า
ในคดีก่อนโจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาเช่าไม่ชำระค่าเช่าขอให้บังคับให้จำเลยชำระและขอให้ขับไล่จำเลย จำเลยในคดีก่อนกลับเป็นโจทก์ฟ้องคดีนี้ ขอให้โจทก์คดีก่อนยอมรับไถ่ที่ดินที่ขายฝากไว้ดังนี้ แม้คดีก่อนจะถึงที่สุดไปแล้ว ก็ฟ้องคดีใหม่นี้ได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะศาลมิได้วินิจฉัยประเด็นในคดีก่อนโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันกับประเด็นในคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1276/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำและการบังคับตามสัญญาประนีประนอม ศาลมีอำนาจวินิจฉัยแม้จำเลยมิได้ยกข้อต่อสู้
แม้จำเลยจะมิได้ยกเรื่องฟ้องซ้ำเป็นข้อต่อสู้ไว้แต่เดิม ศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยได้ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวแก่ความสงบเรียบร้อยของประชาชน
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์จากจำเลยในคดีก่อนจนศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีนั้นไปแล้ว โจทก์นำคดีเรื่องนี้มาฟ้องเรียกทรัพย์รายเดียวกันคืนจากจำเลยอีก เป็นฟ้องซ้ำ
(อ้างฎีกาที่ 54/2499)
โจทก์จำเลยและนายสร่างได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยยอมคืนทรัพย์ให้โจทก์ในเมื่อนายสร่างได้จดทะเบียนสมรสและอยู่กินกับโจทก์ และศาลได้พิพากษาคดีเสร็จเด็ดขาดไปตามนั้นแล้ว เมื่อนายสร่างไม่ยอมไปจดทะเบียนสมรส โจทก์ชอบที่จะขอให้ศาลบังคับตามคำพิพากษาเดิมนั้นเท่าที่จะพึงบังคับได้ สิทธิของโจทก์ที่จะขอให้ศาลบังคับจำเลยให้คืนทรัพย์ยังคงมีอยู่ไม่ใช่ต้องนำคดีมาฟ้องเรียกทรัพย์นั้นคืนอีก
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์จากจำเลยในคดีก่อนจนศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีนั้นไปแล้ว โจทก์นำคดีเรื่องนี้มาฟ้องเรียกทรัพย์รายเดียวกันคืนจากจำเลยอีก เป็นฟ้องซ้ำ
(อ้างฎีกาที่ 54/2499)
โจทก์จำเลยและนายสร่างได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า จำเลยยอมคืนทรัพย์ให้โจทก์ในเมื่อนายสร่างได้จดทะเบียนสมรสและอยู่กินกับโจทก์ และศาลได้พิพากษาคดีเสร็จเด็ดขาดไปตามนั้นแล้ว เมื่อนายสร่างไม่ยอมไปจดทะเบียนสมรส โจทก์ชอบที่จะขอให้ศาลบังคับตามคำพิพากษาเดิมนั้นเท่าที่จะพึงบังคับได้ สิทธิของโจทก์ที่จะขอให้ศาลบังคับจำเลยให้คืนทรัพย์ยังคงมีอยู่ไม่ใช่ต้องนำคดีมาฟ้องเรียกทรัพย์นั้นคืนอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1276/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำและการบังคับตามสัญญาประนีประนอม ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยแม้จำเลยมิได้ยกข้อต่อสู้
แม้จำเลยจะมิได้ยกเรื่องฟ้องซ้ำเป็นข้อต่อสู้ไว้แต่เดิมศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยได้ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวแก่ความสงบเรียบร้อยของประชาชน
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์จากจำเลยในคดีก่อนจนศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีนั้นไปแล้วโจทก์นำคดีเรื่องนี้มาฟ้องเรียกทรัพย์รายเดียวกันคืนจากจำเลยอีก เป็นฟ้องซ้ำ (อ้างฎีกาที่ 54/2494)
โจทก์จำเลยและนายสร่างได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่าจำเลยยอมคืนทรัพย์ให้โจทก์ในเมื่อนายสร่างได้จดทะเบียนสมรสและอยู่กินกับโจทก์ และศาลได้พิพากษาคดีเสร็จเด็ดขาดไปตามนั้นแล้ว เมื่อนายสร่างไม่ยอมไปจดทะเบียนสมรส โจทก์ชอบที่จะขอให้ศาลบังคับตามคำพิพากษาเดิมนั้นเท่าที่จะพึงบังคับได้ สิทธิของโจทก์ที่จะขอให้ศาลบังคับจำเลยให้คืนทรัพย์ยังคงมีอยู่ไม่ใช่ต้องนำคดีมาฟ้องเรียกทรัพย์นั้นคืนอีก
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์จากจำเลยในคดีก่อนจนศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีนั้นไปแล้วโจทก์นำคดีเรื่องนี้มาฟ้องเรียกทรัพย์รายเดียวกันคืนจากจำเลยอีก เป็นฟ้องซ้ำ (อ้างฎีกาที่ 54/2494)
โจทก์จำเลยและนายสร่างได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่าจำเลยยอมคืนทรัพย์ให้โจทก์ในเมื่อนายสร่างได้จดทะเบียนสมรสและอยู่กินกับโจทก์ และศาลได้พิพากษาคดีเสร็จเด็ดขาดไปตามนั้นแล้ว เมื่อนายสร่างไม่ยอมไปจดทะเบียนสมรส โจทก์ชอบที่จะขอให้ศาลบังคับตามคำพิพากษาเดิมนั้นเท่าที่จะพึงบังคับได้ สิทธิของโจทก์ที่จะขอให้ศาลบังคับจำเลยให้คืนทรัพย์ยังคงมีอยู่ไม่ใช่ต้องนำคดีมาฟ้องเรียกทรัพย์นั้นคืนอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1196/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกกระบือคืนหรือชำระราคาหลังศาลพิพากษาว่าสัญญาซื้อขายเป็นโมฆะ การฟ้องในมูลละภมิควรได้ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ
โจทก์ฟ้องเรียกกระบือคืน ถ้าคืนให้ไม่ได้ก็ให้ชำระราคากระบือ 800 บาท ตามสัญญาซื้อขาย ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยยังมิได้ชำระราคา แต่การซื้อขายเป็นโมฆะเพราะมิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ตามกฎหมาย จึงพิพากษายกฟ้อง แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องใหม่ในมูลกรณีอื่น โจทก์จึงฟ้องเรียกกระบือคืน ถ้าคืนไม่ได้ก็ให้ชำระราคาในมูลลาภมิควรได้ ดังนี้ ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ