พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,380 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 907/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขับไล่และการครอบครองปรปักษ์ สิทธิโดยการจดทะเบียนสำคัญกว่า
ฟ้องขับไล่ผู้อาศัยออกจากที่ดินนั้น ไม่จำเป็นต้องระบุถึงวันเริ่มการอาศัยวันแรก เพราะการอาศัยหรือไม่นั้นเป็นลักษณะของอาการที่ประพฤติต่อกันสืบเนื่องเรื่อยๆ ไป เมื่อโจทก์กล่าวถึงสภาพแห่งคดีพอที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้วก็ใช้ได้
ผู้ครอบครองที่ดินด้วยอำนาจปรปักษ์เกินกว่า 10 ปีแต่มิได้จดทะเบียนสิทธิไว้จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ผู้ได้สิทธิในที่ดินนี้มาโดยการเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนสิทธิ โดยสุจริตไม่ได้ดังบทบัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสอง
ผู้ครอบครองที่ดินด้วยอำนาจปรปักษ์เกินกว่า 10 ปีแต่มิได้จดทะเบียนสิทธิไว้จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ผู้ได้สิทธิในที่ดินนี้มาโดยการเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนสิทธิ โดยสุจริตไม่ได้ดังบทบัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 727/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์จากการครอบครองปรปักษ์หลังแจ้งเจตนาซื้อขายและการครอบครองนานกว่า 10 ปี
การที่จำเลยซึ่งเป็นบุตรของเจ้าหนี้ซึ่งยึดถือนาพิพาทมีโฉนดไว้ทำต่างดอกเบี้ย ได้แจ้งแก่โจทก์ซึ่งเป็นลูกหนี้ว่า มารดาได้ยกนาพิพาทนั้นให้แล้ว จำเลยจะเอาเป็นกรรมสิทธิ์และยอมเพิ่มเงินให้โจทก์ ซึ่งฝ่ายโจทก์ก็ตกลง แต่การโอนทะเบียนขัดข้องจำเลยไม่ได้ให้เงินที่เพิ่มนั้นแก่โจทก์ จำเลยคงครอบครองนาพิพาทตลอดมากว่า 10 ปีแล้ว ดังนี้ถือว่า จำเลยได้เปลี่ยนลักษณะแห่งการครอบครองแทนเป็นครอบครองในฐานะเป็นเจ้าของตั้งแต่แจ้งแก่โจทก์ดังกล่าว จำเลยย่อมได้กรรมสิทธิ์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 726/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์จากการครอบครองปรปักษ์: ภาระการพิสูจน์ระยะเวลาครอบครองเมื่อถูกโต้แย้ง
โจทก์ฟ้องว่าได้ซื้อที่ดินมีโฉนดจากจำเลยไม่ได้โอนทะเบียนครอบครองมากว่า 10 ปี จำเลยได้เถียงว่า โจทก์ครอบครองไม่ถึง 10 ปี ดังนี้ตกหน้าที่โจทก์นำสืบ หากโจทก์สืบไม่ได้ว่าได้ครอบครองที่พิพาทมาถึง 10 ปี โจทก์ก็ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครอง และศาลพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696-700/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการเปลี่ยนแปลงลักษณะการครอบครอง ทำให้เจ้าของเดิมหมดสิทธิฟ้องร้อง
คำให้การของจำเลยที่ถือได้ว่าเป็นการแสดงข้อต่อสู้ถึงสิทธิครอบครองและสิทธิฟ้องร้องแล้ว
จำเลยครอบครองที่ดินอยู่และได้คัดค้านการที่โจทก์นำรังวัดที่พิพาทเพื่อออกโฉนดถือว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ หากโจทก์มิได้ฟ้องร้องเอาคืนการครอบครองใน 1 ปี ย่อมหมดสิทธิฟ้องร้องตาม มาตรา 1375
แม้จำเลยจะได้เคยเช่าที่พิพาทต่อโจทก์ แต่การที่จำเลยร้องคัดค้านดังกล่าวถือว่าจำเลยได้แสดงเจตนาเปลี่ยนแปลงลักษณะการครอบครองตามมาตรา 1381
จำเลยครอบครองที่ดินอยู่และได้คัดค้านการที่โจทก์นำรังวัดที่พิพาทเพื่อออกโฉนดถือว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ หากโจทก์มิได้ฟ้องร้องเอาคืนการครอบครองใน 1 ปี ย่อมหมดสิทธิฟ้องร้องตาม มาตรา 1375
แม้จำเลยจะได้เคยเช่าที่พิพาทต่อโจทก์ แต่การที่จำเลยร้องคัดค้านดังกล่าวถือว่าจำเลยได้แสดงเจตนาเปลี่ยนแปลงลักษณะการครอบครองตามมาตรา 1381
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 600/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดิน: การครอบครองปรปักษ์และการใช้สิทธิครอบครองที่ดินว่างเปล่า ย่อมมีสิทธิเหนือผู้ที่ไม่ได้ใช้สิทธิ
คำพิพากษาของศาลที่วินิจฉัยคดีที่โจทก์เป็นความกับคนอื่นว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์นั้น แม้จะใช้ยันจำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้ก็ดี จำเลยก็ยังอาจพิสูจนได้ว่า ตนมีสิทธิดีกว่า
ที่ดินมือเปล่าที่อยู่ติดต่อกับที่นาของโจทก์ และโจกท์ไม่ได้ใช้สิทธิครอบครองปล่อยให้เป็นป่ารกร้างจนจำเลยได้ขออนุญาตจับจองก่อสร้างเป็นนาขึ้น ดังนี้ จำเลยย่อมมีสิทธิดีกว่าโจทก์
ที่ดินมือเปล่าที่อยู่ติดต่อกับที่นาของโจทก์ และโจกท์ไม่ได้ใช้สิทธิครอบครองปล่อยให้เป็นป่ารกร้างจนจำเลยได้ขออนุญาตจับจองก่อสร้างเป็นนาขึ้น ดังนี้ จำเลยย่อมมีสิทธิดีกว่าโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินโดยไม่สุจริตและการครอบครองปรปักษ์ ศาลต้องฟังพยานทั้งสองฝ่าย
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่ดินและเรือนจาก ป.กับได้โอนโฉนดต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยเข้าครอบครองโดยไม่มีสิทธิ ขอให้ขับไล่จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ซื้อไปโดยไม่สุจริตโดยโจกท์รู้อยู่แล้วว่าจำเลยเป็นเจ้าของครอบครองขณะโจทก์รับโอนดังนี้ ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโดยเห็นว่า โฉนดมีชื่อ ป.เป็นเจ้าของโจทก์ไม่มีหน้าที่จะต้องไปรู้ถึงการครอบครองของจำลเย แล้วพิพากษาขับไล่จำเลย หาชอบไม่ ศาลต้องดำเนินการ การพิจารณาต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องร้องบังคับตามสัญญาซื้อขาย และภาระการพิสูจน์การครอบครองปรปักษ์ที่ดินที่มีโฉนด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขายที่ดินมีโฉนดให้ และโจทก์ได้ครอบครองมา 10 ปีกว่าแล้ว ขอให้จำเลยโอนแก้ทะเบียนให้โจทก์ตามสัญญาซื้อขายหรือให้ถอนชื่อจำเลยออกใส่ชื่อโจทก์ในโฉนดแทน จำเลยต่อสู้ว่าได้มอบที่ดินให้โจทก์ทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้ดังนี้ ประเด็นตกเป็นหน้าที่โจทก์นำสืบก่อน เพราะภาระการพิสูจน์ว่า การครอบครองของโจทก์ได้เป็นไปโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของยังคงตกอยู่แก่โจทก์ทั้งนี้เพราะการอ้างถึงการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ที่ดินตามมาตรา 1382 สำหรับที่ดินที่มีหนังสือสำคัญ แสดงกรรมสิทธิ์ว่าเป็นของผู้อื่นอยู่แล้วนั้น ผู้อ้างจะต้องแสดงหลักฐานให้เป็นที่พอใจต่อศาล ศาลจึงจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งแสดงการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์เพื่อการจดทะเบียนตามบทบัญญัติแห่งพ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 7)2486มาตรา 14 และกฎกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 1 มกราคม 2486ข้อ 1
ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ซึ่งเป็นการไม่ชอบ การที่จำเลยต้องขาดนัดพิจารณาเพราะหน้าที่นำสืบก่อนต้องตกแก่จำเลยโดยไม่ชอบเช่นนี้ เป็นการสมควรให้ได้มีการพิจารณาคดีใหม่ โดยดำเนินกระบวนพิจารณาให้ชอบ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ
ฟ้องขอให้ศาลบังคับลูกหนี้กระทำการชำระหนี้ตามสัญญาที่ได้ทำกันไว้อันเป็นการขอให้บังคับตามสิทธิเรียกร้องนั้น จะต้องฟ้องเสียภายในระยะเวลา10 ปี มิฉะนั้นขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ซึ่งเป็นการไม่ชอบ การที่จำเลยต้องขาดนัดพิจารณาเพราะหน้าที่นำสืบก่อนต้องตกแก่จำเลยโดยไม่ชอบเช่นนี้ เป็นการสมควรให้ได้มีการพิจารณาคดีใหม่ โดยดำเนินกระบวนพิจารณาให้ชอบ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ
ฟ้องขอให้ศาลบังคับลูกหนี้กระทำการชำระหนี้ตามสัญญาที่ได้ทำกันไว้อันเป็นการขอให้บังคับตามสิทธิเรียกร้องนั้น จะต้องฟ้องเสียภายในระยะเวลา10 ปี มิฉะนั้นขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 484/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยครอบครองปรปักษ์ และการโต้แย้งปีที่หย่าขาดจากกัน
ผู้ที่ได้รับยกให้ที่ดินและครอบครองมา ย่อมแสดงว่าได้ครอบครองที่ดินในฐานะเป็นเจ้าของโดยสงบและเปิดเผย เมื่อเกิน 10 ปี ก็ได้กรรมสิทธิ์
เมื่อวินิจฉัยว่า ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยครอบคอรงก็ไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัยว่า การยกให้แต่แรกนั้นจะมีหนังสือหรือไม่
เอกสารบันทึกของเจ้าพนักงาน ซึ่งไม่มีกฎหมายบังคับให้ศาลต้องรับฟังเด็ดขาดนั้น เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งได้โต้เถียงอยู่ว่าเจ้าพนักงานเทียบปีและบันทึกปีผิดไป ดังนี้ ฝ่ายนั้นย่อมมีสิทธินำพยานบุคคลมาสืบได้ว่าความจริงเป็นปีใดแน่
เมื่อวินิจฉัยว่า ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยครอบคอรงก็ไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัยว่า การยกให้แต่แรกนั้นจะมีหนังสือหรือไม่
เอกสารบันทึกของเจ้าพนักงาน ซึ่งไม่มีกฎหมายบังคับให้ศาลต้องรับฟังเด็ดขาดนั้น เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งได้โต้เถียงอยู่ว่าเจ้าพนักงานเทียบปีและบันทึกปีผิดไป ดังนี้ ฝ่ายนั้นย่อมมีสิทธินำพยานบุคคลมาสืบได้ว่าความจริงเป็นปีใดแน่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 484/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์ที่ดินจากการครอบครองปรปักษ์และการพิสูจน์ปีที่หย่าขาดจากกัน
ผู้ที่ได้รับยกให้ที่ดินและครอบครองมา ย่อมแสดงว่าได้ครอบครองที่ดินในฐานะเป็นเจ้าของโดยสงบและเปิดเผยเมื่อเกิน 10 ปี ก็ได้กรรมสิทธิ์
เมื่อวินิจฉัยว่า ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองก็ไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัยว่า การยกให้แต่แรกนั้นจะมีหนังสือหรือไม่
เอกสารบันทึกของเจ้าพนักงาน ซึ่งไม่มีกฎหมายบังคับให้ศาลต้องรับฟังเด็ดขาดนั้น เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งได้โต้เถียงอยู่ว่าเจ้าพนักงานเทียบปีและบันทึกปีผิดไป ดังนี้ ฝ่ายนั้นย่อมมีสิทธินำพยานบุคคลมาสืบได้ว่าความจริงเป็นปีใดแน่
เมื่อวินิจฉัยว่า ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองก็ไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัยว่า การยกให้แต่แรกนั้นจะมีหนังสือหรือไม่
เอกสารบันทึกของเจ้าพนักงาน ซึ่งไม่มีกฎหมายบังคับให้ศาลต้องรับฟังเด็ดขาดนั้น เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งได้โต้เถียงอยู่ว่าเจ้าพนักงานเทียบปีและบันทึกปีผิดไป ดังนี้ ฝ่ายนั้นย่อมมีสิทธินำพยานบุคคลมาสืบได้ว่าความจริงเป็นปีใดแน่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 340/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ไม่ได้ทำตามแบบและการครอบครองปรปักษ์ ทำให้โจทก์ฟ้องเรียกคืนที่ดินไม่ได้
ในเอกสารที่ระบุว่าฝ่ายโจทก์ได้กู้เงินเอานาไม่มีโฉนดหนึ่งแปลงยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ต่อไป ซึ่งจำเลยได้ครอบคอรงที่นามานั้นมากกว่า 20 ปีแล้ว ดังนี้ เป็นการซื้อขายที่ทำไม่ถูกแบบ โจทก์จะฟ้องเรียกที่นาคืนมิได้