คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความเสียหาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,842 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2566-2567/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทางสาธารณะแม้มีการรุกล้ำหรือซ่อมแซมเอง ก็ไม่สิ้นสภาพ สิทธิฟ้องของผู้ได้รับความเสียหายจากการถูกปิดกั้นทาง
ทางสาธารณะซึ่งมีผู้สร้างอาคารรุกล้ำ วางสิ่งของเกะกะ หรือผู้อยู่อาศัยซ่อมกันเอง ก็ไม่สิ้นสภาพทางสาธารณะ
ทางพิพาทและทางเดินติดต่อกับทางพิพาทมิใช่จะใช้เดินออกไปสู่ถนนเท่านั้น แต่ยังเดินไปทางอื่น ๆ ได้อีกเมื่อมีผู้สร้างกำแพงและทิ้งวัสดุต่าง ๆ บนที่ดินซึ่งเป็นทางสาธารณะปิดกั้นทางเข้าออกของผู้ใดทำให้ผู้นั้นขาดความสะดวกในการไปมาและใช้ทรัพย์ถือได้ว่าผู้นั้นได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ จึงมีสิทธิฟ้องผู้สร้างกำแพงและทิ้งวัสดุได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2502/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ้างทำของ vs. จ้างลูกจ้าง: ความรับผิดในความเสียหายจากการขับรถ
จำเลยที่ 1 รับจ้างจำเลยที่ 2 และบุคคลอื่นล้างและเฝ้ารถ ซึ่งจอดอยู่ริมถนนที่จำเลยที่ 1 ปฏิบัติงานเฝ้ายามอยู่แล้ว ไม่ปรากฏว่า จำเลยที่ 1 ต้องทำตามคำสั่งหรืออยู่ในความควบคุมของจำเลยที่ 2 การจ้างเช่นนี้เป็นการจ้างทำของเพราะผู้ว่าจ้างต้องการแต่ผลสำเร็จของ งานคือความสะอาดและความคงอยู่ของรถ ไม่ใช่จ้างแรงงาน จำเลยที่ 1 จึงไม่ใช่ลูกจ้างจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ไม่ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในการที่จำเลยที่ 1 ทำละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2454/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสั่งเลิกสหกรณ์: เมื่อสหกรณ์ดำเนินการไม่ได้ผล หรือก่อให้เกิดความเสียหาย
โจทก์จำเลยตกลงกันขอให้ศาลวินิจฉัยในประเด็นข้อเดียวว่า จำเลยมีสิทธิสั่งเลิกสหกรณ์โจทก์ตามกฎหมายหรือไม่ โดยโจทก์จำเลยขอสละข้อต่อสู้อื่นๆ และไม่ติดใจสืบพยานกันต่อไป ย่อมถือว่าโจทก์จำเลยขอปิดคดีของตนเสร็จแล้ว ไม่มีเหตุที่จะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์ต่อไปอีก
เมื่อได้ความว่าสหกรณ์จำกัดไม่อาจดำเนินการให้ได้ผลดี หรือการดำเนินการของสหกรณ์ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สหกรณ์หรือประโยชน์ส่วนรวมดังระบุไว้ในมาตรา 51 (3) แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2511 แล้ว นายทะเบียนสหกรณ์ย่อมมีอำนาจสั่งเลิกสหกรณ์ได้ทันทีโดยไม่จำต้องสั่งให้แก้ไขข้อบกพร่องตามมาตรา 47 ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2454/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสั่งเลิกสหกรณ์: เมื่อสหกรณ์ดำเนินกิจการไม่ได้ผลหรือก่อให้เกิดความเสียหาย
โจทก์จำเลยตกลงกันขอให้ศาลวินิจฉัยในประเด็นข้อเดียวว่าจำเลยมีสิทธิสั่งเลิกสหกรณ์โจทก์ตามกฎหมายหรือไม่ โดยโจทก์จำเลยขอสละข้อต่อสู้อื่น ๆ และไม่ติดใจสืบพยานกันต่อไป ย่อมถือว่าโจทก์จำเลยขอปิดคดีของตนเสร็จแล้วไม่มีเหตุที่จะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์ต่อไปอีก
เมื่อได้ความว่าสหกรณ์จำกัดไม่อาจดำเนินกิจการให้ได้ผลดี หรือการดำเนินการของสหกรณ์ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สหกรณ์หรือประโยชน์ส่วนรวมดังระบุไว้ในมาตรา 51(3) แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2511 แล้ว นายทะเบียนสหกรณ์ย่อมมีอำนาจสั่งเลิกสหกรณ์ได้ทันทีโดยไม่จำต้องสั่งให้แก้ไขข้อบกพร่องตามมาตรา 47 ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2385/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาซื้อขายและการเรียกร้องค่าปรับ เมื่อผู้ซื้อจัดหาของได้ในราคาถูกกว่า
หลังจากที่บริษัทโจทก์บอกเลิกสัญญาซื้อขายกับบริษัทจำเลยแล้ว บริษัทโจทก์ได้จัดซื้อเครื่องทำความชื้นจากผู้อื่นตามจำนวนและในราคาซึ่งถูกกว่าที่บริษัทโจทก์ตกลงซื้อจากบริษัทจำเลย จึงถือไม่ได้ว่าบริษัทโจทก์ได้รับความเสียหาย และไม่อาจจะเรียกเบี้ยปรับจากบริษัทจำเลยได้แม้ตามสัญญาจะตกลงกันไว้ว่า ถ้าบริษัทจำเลยผิดสัญญาจะยอมใช้ค่าเสียหายและยอมให้ปรับอีกด้วยก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2350/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนในการระบุความเสียหายในคำฟ้อง: ฟ้องไม่เคลือบคลุมแม้รวมยอด
โจทก์บรรยายความเสียหายที่ได้รับระบุแยกไว้เป็นแต่ละรายการโดยชัดแจ้ง แม้ในคำฟ้องโจทก์เรียกค่าเสียหายเป็นค่าทำขวัญที่โจทก์ที่ 2 ได้รับความกระทบกระเทือนทางสมองและฟันหักหลายซี่ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรักษาพยาบาลโจทก์ที่ 3 เป็นเงินรวมกันมามิได้แยกว่าโจทก์แต่ละคนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงินคนละเท่าใดแต่โจทก์ก็ได้กล่าวถึงความเสียหายที่โจทก์แต่ละคนได้รับไว้เพียงพอที่จะให้จำเลยเข้าใจและจำเลยก็สามารถให้การต่อสู้คดีในข้อนี้ได้โดยถูกต้อง ฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทซื้อขาย: เอกสารรับรองสินค้าและการรับประกันความเสียหายบ่งชี้ไม่ใช่การซื้อขายเสร็จเด็ดขาด
โจทก์ทำเอกสารให้จำเลยไว้ในฐานะเป็นตัวแทนขายสินค้าทุกชนิดรับรองว่าเฉพาะสินค้าท่อยาง หากเสียหายภายในกำหนด 3 เดือน โจทก์ยินดีรับคืน โดยตัวแทนผู้จำหน่ายไม่ต้องรับผิดชอบแต่ประการใดทั้งสิ้นทั้งโจทก์ยังต้องใช้ค่าเสียหายต่าง ๆ ให้แก่ตัวแทนและผู้ที่ซื้อไปดำเนินกิจการด้วย ดังนี้ การซื้อขายระหว่างโจทก์จำเลยมิใช่การซื้อขายเสร็จเด็ดขาด ซึ่งจำเลยอ้างว่าเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายสินค้าเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2145/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดชอบร่วมจากก่อสร้างก่อนขออนุญาต และความเสียหายจากแบบแปลนที่ไม่ตรงกัน
โจทก์จ้างจำเลยก่อสร้างอาคารโดยให้จำเลยลงมือก่อสร้างไปก่อนที่จะได้รับอนุญาตจากเทศบาล ต่อมาแบบแปลนที่เทศบาลอนุญาตนั้น มีรายการผิดไปจากที่ได้ลงมือก่อสร้างไปแล้ว โจทก์จำเลยต้องร่วมกันเฉลี่ยความเสียหายที่เกิดขึ้นอันเนื่องจากการก่อสร้างผิดแบบแปลนที่ได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1996/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดของข้าราชการ: ต้องพิสูจน์ความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างการละเว้นหน้าที่กับความเสียหาย
การที่ข้าราชการละเว้นไม่ปฏิบัติราชการหรือปฏิบัติราชการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับและคำสั่งของทางราชการนั้น อาจทำให้ข้าราชการต้องรับผิดในทางวินัยก็จริงแต่จะถือเป็นหลักแน่นอนตายตัวว่า เมื่อข้าราชการผู้ใดกระทำผิดวินัยแล้วต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในทางละเมิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 เสมอไปหาได้ไม่ การที่จะให้จำเลยซึ่งเป็นข้าราชการรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในทางละเมิดต่อโจทก์นั้น โจทก์จะต้องนำสืบให้เห็นว่าการที่จำเลยกระทำผิดวินัยนั้นเป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้โจทก์เสียหาย
จำเลยรับราชการเป็นครู อาจารย์ใหญ่ได้ออกคำสั่งแต่ตั้งจำเลยเป็นครูเวรรักษาการณ์ตามมติคณะรัฐมนตรี มีหน้าที่ควบคุมคนยามมิให้ละทิ้งหน้าที่แต่ต้องมาอยู่เวร ที่โรงเรียน และนอนในห้องที่โรงเรียนจัดไว้ คืนเกิดเหตุจำเลยไม่ได้มาอยู่เวร คงมีแต่ภารโรงทำหน้าที่เป็นคนยาม ระหว่างอยู่ยามรักษาการณ์คนยามได้หลับยาม คนร้ายจึงได้งัดเข้าไปลักทรัพย์ในโรงงานที่ 4 และ ที่ 6 ของโรงเรียนที่อยู่ห่างที่ครูเวรนอนออกไปถึง 50 เมตร และ 250 เมตร ตามลำดับ ซึ่งไม่อยู่ในวิสัยที่ผู้อยู่เวรจะล่วงรู้ได้ ถึงหากจำเลยจะมาอยู่เวรก็ไม่อาจป้องกันไม่ให้เกิดการลักทรัพย์ดังกล่าวขึ้นได้ เพราะไม่มีหน้าที่เป็นคนยามตรวจตราเฝ้าขโมย การที่โรงเรียนถูกลักทรัพย์ จึงไม่ใช่ผลโดยตรงจากการที่จำเลยไม่มาอยู่เวร จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายฐานละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1996/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดของข้าราชการ: การพิสูจน์ความสัมพันธ์เชิงเหตุผลระหว่างการละเว้นหน้าที่กับความเสียหาย
การที่ข้าราชการละเว้นไม่ปฏิบัติราชการหรือปฏิบัติราชการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับและคำสั่งของทางราชการนั้น อาจทำให้ข้าราชการต้องรับผิดในทางวินัยก็จริง แต่จะถือเป็นหลักแน่นอนตายตัว ว่า เมื่อข้าราชการผู้ใดกระทำผิดวินัยแล้วต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในทางละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 เสมอไป หาได้ไม่การที่จะให้จำเลยซึ่งเป็นข้าราชการรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในทางละเมิดต่อโจทก์นั้น โจทก์จะต้องนำสืบให้เห็นว่าการที่จำเลยกระทำผิดวินัยนั้นเป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้โจทก์เสียหาย
จำเลยรับราชการเป็นครู อาจารย์ใหญ่ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งจำเลยเป็นครูเวรรักษาการณ์ตามมติคณะรัฐมนตรี มีหน้าที่ควบคุมคนยามมิให้ละทิ้งหน้าที่แต่ต้องมาอยู่เวรที่โรงเรียนและนอนในห้องที่โรงเรียนจัดไว้ คืนเกิดเหตุจำเลยไม่ได้มาอยู่เวร คงมีแต่ภารโรงทำหน้าที่เป็นคนยาม ระหว่างอยู่ยามรักษาการณ์คนยามได้หลับยาม คนร้ายจึงได้งัดเข้าไปลักทรัพย์ในโรงงานที่ 4 และที่ 6 ของโรงเรียนที่อยู่ห่างจากห้องที่ครูเวรนอนออกไปถึง 50 เมตร และ 250เมตร ตามลำดับ ซึ่งไม่อยู่ในวิสัยที่ผู้อยู่เวรจะล่วงรู้ได้ ถึงหากจำเลยจะมาอยู่เวรก็ไม่อาจป้องกันไม่ให้เกิดการลักทรัพย์ดังกล่าวขึ้นได้ เพราะไม่มีหน้าที่เป็นคนยามคอยตรวจตราเฝ้าขโมย การที่โรงเรียนถูกลักทรัพย์ จึงไม่ใช่ผลโดยตรง จากการที่จำเลยไม่มาอยู่เวร จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายฐานละเมิด
of 185