คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องซ้ำ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,459 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1196/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกกระบือคืนหรือค่าเสียหายหลังสัญญาซื้อขายเป็นโมฆะ ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ หากฟ้องในมูลกรณีลาภมิควรได้
โจทก์ฟ้องเรียกกระบือคืน ถ้าคืนให้ไม่ได้ก็ให้ชำระราคากระบือ 800 บาท ตามสัญญาซื้อขาย ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยยังมิได้ชำระราคา แต่การซื้อขายเป็นโมฆะเพราะมิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ตามกฎหมาย จึงพิพากษายกฟ้องแต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องใหม่ในมูลกรณีอื่นโจทก์จึงฟ้องเรียกกระบือคืน ถ้าคืนไม่ได้ก็ให้ชำระราคาในมูลลาภมิควรได้ ดังนี้ ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 925/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในคดีอาญา: ศาลยกฟ้องเนื่องจากคดีเคยถูกตัดสินยกฟ้องเด็ดขาดแล้ว
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.201 ที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2499 นำมาใช้ในกรณีที่มีการฎีกาด้วย
คดีก่อน มารดาผู้ตายฟ้องจำเลยหาว่าฆ่าผู้ตายโดยเจตนาศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้องเพราะคดีไม่มีมูล คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว อัยการจะมาฟ้องจำเลยในเรื่องเดียวกันนั้นอีกไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.39(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 670/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำในคดีอาญา: การกระทำต่างกรรมต่างวาระไม่ถือเป็นการฟ้องซ้ำ
พฤติการณ์ที่ไม่ถือว่าเป็นการฟ้องซ้ำในคดีอาญา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 670/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำในคดีอาญา: การกระทำต่างกรรมต่างวาระและบทบาทของจำเลย
พฤติการณ์ที่ไม่ถือว่าเป็นการฟ้องซ้ำในคดีอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1864-1865/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องหมิ่นประมาทต้องระบุพฤติการณ์ประกอบ หากฟ้องไม่ชัดเจน ศาลมีอำนาจยกฟ้อง และห้ามฟ้องซ้ำ
การฟ้องว่าจำเลยหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ โดยโจทก์บรรยายฟ้องกล่าวถ้อยคำที่ไม่เป็นคำใส่ความอยู่ในตัว โจทก์จะต้องบรรยายถึงพฤติการณ์ประกอบมาเพื่อให้เห็นว่าเป็นคำใส่ความอย่างไร และความจริงเป็นอย่างใด เมื่อฟ้องไม่บรรยายเช่นนี้ศาลมีอำนาจยกฟ้องโดยถือว่าฟ้องขาดองค์สำคัญแห่งความผิด
เมื่อศาลสั่งยกฟ้องโดยเหตุผลว่าฟ้องของโจทก์ไม่มีมูลความผิด โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาไป จะมาฟ้องใหม่ไม่ได้เพราะไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้ฟ้องคดีกรรมเดียวได้หลายครั้ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1840/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำในคดีอาญา: การยักยอกเงินต่างกรรมต่างวาระไม่ถือเป็นการฟ้องซ้ำ
แม้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 610/2495 ซึ่งโจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำการยักยอกเงินอยู่ในระหว่างระยะเวลาที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดในคดีนี้ด้วยก็ดี แต่เมื่อปรากฏว่าเงินที่จำเลยได้รับไว้ในคดีนี้จากบุคคลคนละคน คนละคราวต่างกรรมต่างวาระกัน ดังนี้ฟ้องของโจทก์ในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
(ฎีกาที่ 1086/2496)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1840/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำในคดีอาญา: การยักยอกเงินต่างกรรมต่างวาระ ไม่ถือเป็นการฟ้องซ้ำ
แม้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 610/2495 ซึ่งโจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำการยักยอกเงินอยู่ในระหว่างระยะเวลาที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดในคดีนี้ด้วยก็ดี แต่เมื่อปรากฏว่าเงินที่จำเลยได้รับไว้ในคดีนี้จากบุคคลคนละคน คนละคราวต่างกรรมต่างวาระกัน ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ (ฎีกาที่ 1086/2496)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1812/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำและฟ้องเคลือบคลุม: สัญญาทางทนายและอำนาจจำหน่ายสิทธิ
คดีก่อนโจทก์ฟ้องว่าจำเลยรบกวนสิทธิ ละเมิดสิทธิ ขอให้ห้ามมิให้จำเลยและบริวารเกี่ยวข้องหรือขัดขวางในการที่โจทก์จะครอบครองทรัพย์ แต่คดีหลังโจทก์ฟ้องเรื่องผิดสัญญาและเรียกค่าเสียหายตามสัญญาที่ทำกันไว้ เกี่ยวกับทรัพย์รายเดียวกันนั้น ไม่เกี่ยวกับคดีหรือประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยชี้ขาดไว้ในคดีก่อน กรณีไม่ต้องด้วย ม.144 ป.วิ.แพ่ง ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ในคดีหลังโจทก์กล่าวฟ้องว่านางอ่าง(ซึ่งเป็นตัวความในคดีก่อน)เป็นผู้ทำสัญญากับโจทก์ โดยโจทก์ไม่บรรยายฟ้องว่า ในคดีก่อนนายสว่างเป็นทนายแก้ต่างนางอ่างและได้ทำสัญญาแทนนางอ่าง แต่ปรากฏตามใบแต่งทนายที่นางอ่างได้แต่งให้นายสว่างเป็นทนายว่าความแทนในคดีก่อน ให้อำนาจแก่นายสว่างทนายที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาแทนในทางจำหน่ายสิทธิได้ด้วยตาม ป.วิ.แพ่ง ม. 62 เมื่อเป็นเช่นนี้นายสว่างจึงมีอำนาจทำความตกลงยอมใช้ค่าเสียหายแทนนางอ่างได้เสมือนว่า นางอ่างเป็นผู้ตกลงเอง โจทก์ไม่จำเป็นที่จะต้องบรรยายความข้อนี้ลงในฟ้องให้ยืดยาว ฟ้องเช่นนี้ไม่เคลือบคลุม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1812/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำและการบรรยายฟ้อง: อำนาจทนายทำสัญญาแทน, สัญญาที่แตกต่างจากละเมิด
คดีก่อนโจทก์ฟ้องว่า จำเลยรบกวนสิทธิ ละเมิดสิทธิ ขอให้ห้ามมิให้จำเลยและบริวารเกี่ยวข้องหรือขัดขวางในการที่โจทก์จะครอบครองทรัพย์ แต่คดีหลังโจทก์ฟ้องเรื่องผิดสัญญาและเรียกค่าเสียหายตามสัญญาที่ทำกันไว้เกี่ยวกับทรัพย์รายเดียวกันนั้น ไม่เกี่ยวกับคดีหรือประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยชี้ขาดไว้ในคดีก่อน กรณีไม่ต้องด้วย มาตรา 144 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ในคดีหลังโจทก์กล่าวฟ้องว่านางอ่าง (ซึ่งเป็นตัวความในคดีก่อน) เป็นผู้ทำสัญญากับโจทก์ โดยโจทก์ไม่บรรยายฟ้องว่า ในคดีก่อนนายสว่างเป็นทนายแก้ต่างนางอ่างและได้ทำสัญญาแทนนางอ่าง แต่ปรากฏตามใบแต่งทนายที่นางอ่างได้แต่งให้นายสว่างเป็นทนายว่าความแทนในคดีก่อน ให้อำนาจแก่นายสว่างทนายที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาแทนในทางจำหน่ายสิทธิได้ด้วยตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 62 เมื่อเป็นเช่นนี้นายสว่างจึงมีอำนาจทำความตกลงยอมใช้ค่าเสียหายแทนนางอ่างได้เสมือนว่านางอ่างเป็นผู้ตกลงเอง โจทก์ไม่จำเป็นที่จะต้องบรรยายความข้อนี้ลงในฟ้องให้ยืดยาว ฟ้องเช่นนี้ไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1687/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าหมดอายุ, การฟ้องซ้ำ, และผลของการไม่จดทะเบียนสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์
คดีแรกโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยอาศัยเหตุที่คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าลงมติให้โจทก์เข้าอยู่ในห้องพิพาทได้ ศาลพิพากษาให้ยกฟ้องไปแล้ว คดีหลังโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยอีก แต่อาศัยเหตุที่สัญญาเช่าหมดอายุแล้ว เช่นนี้ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ เพราะอาศัยเหตุที่ฟ้องต่างกัน
เมื่อฟังว่าจำเลยเช่าเพื่อประกอบการค้าโดยตรง ก็ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
ทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์กันไว้ 5 ปี แต่ไม่มีการจดทะเบียนการเช่า ย่อมมีผลบังคับได้เพียง 3 ปีเท่านั้น เมื่อครบ 3 ปีแล้วผู้ให้เช่าก็มีสิทธิที่จะบอกเลิกสัญญาเช่าได้
ทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์กันไว้ 5 ปี แต่เมื่อไม่ปรากฏในหนังสือสัญญาเช่าว่าจะไปจดทะเบียนการเช่าในภายหลังย่อมไม่ผูกพันผู้รับโอนทรัพย์ที่ให้เช่า ให้จำต้องไปจดทะเบียนการเช่าให้แก่ผู้เช่า
of 146