พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,595 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 766/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบร่วมคิดลักทรัพย์: ตัวการร่วมกระทำผิดจากการแบ่งของที่ได้จากการลักทรัพย์
จำเลยได้ไปที่ร้านเจ้าทรัพย์ในวันเกิดเหตุหลายครั้งโดยมีพวกไปด้วยและต่อมาในคืนเกิดเหตุพวกของจำเลยเข้าทำการลักทรัพย์ในร้าน จำเลยคอยข้างนอกเพราะเกรงว่าเจ้าทรัพย์ซึ่งรู้จักคุ้นเคยกันมาก่อนจะจำหน้าได้เมื่อได้ทรัพย์มาแล้วแบ่งกันจำเลยได้รับส่วนแบ่ง พฤติการณ์ดังกล่าวถือว่าจำเลยได้สมคบร่วมคิดและร่วมมือกระทำความผิดกับพรรคพวกต้องเป็นตัวการลักทรัพย์รายนี้ด้วยกัน
ศาลชั้นต้นลงโทษฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 295,59, จำคุก 1 ปี 4 เดือนศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตามมาตรา 321,59จำคุก 6 เดือน โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลชั้นต้นลงโทษฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 295,59, จำคุก 1 ปี 4 เดือนศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตามมาตรา 321,59จำคุก 6 เดือน โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 663/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบร่วมกันลักทรัพย์: พฤติการณ์ส่งมอบของกลางแสดงเจตนา
พฤตติการณ์ที่ถือ+เป็นตัวการลักทรัพย์โดยมีพรรคพวก ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 293
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 663/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบร่วมกันลักทรัพย์: พฤติการณ์ใกล้ชิดและการส่งของกลางเป็นหลักฐานบ่งชี้การสมคบ
แม้จะไม่มีพยานโดยตรงว่า จำเลยที่ 2 สมคบกับจำเลยที่ 1 มาแต่แรก แต่พฤติการณ์ที่จำเลยที่ 1 เดินอยู่ใกล้ชิดจำเลยที่ 2 พอจำเลยที่ 2ล้วงกระเป๋าลักแว่นตามาได้ก็ส่งให้จำเลยที่ 1 ในเวลากระชั้นชิดนั้นเอง และจำเลยที่ 1 รับแล้วใส่ไว้ในอกเสื้อแสดงให้เห็นอยู่ในตัวว่าจำเลยทั้งสองได้สมคบแบ่งปันหน้าที่กันแต่แรกแล้ว ถือว่าเป็นตัวการลักทรัพย์โดยมีพรรคพวก ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 293
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 467/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การบรรยายความผิดฐานลักทรัพย์-รับของโจร-ยักยอกทรัพย์
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าคนร้ายลักไป จับเรือได้จากจำเลยเป็นคนร้ายลักหรือรับเรือไว้โดยรู้ว่าเป็นของได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย หรือร้ายลักเรือแล้วทำหลุดออกมา จำเลยเก็บได้ แล้วนำไปซุกซ่อนไว้โดยมีเจตนาทุจริต ยักยอกไว้ไม่ทำตามกฎหมาย
พนักงานสอบสวนจำเลย จำเลยรับว่า เก็บเรือลอยน้ำได้ จึงขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์รับของโจร ยักยอก เก็บของตกดังนี้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ อาญา มาตรา 158 แล้ว.
พนักงานสอบสวนจำเลย จำเลยรับว่า เก็บเรือลอยน้ำได้ จึงขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์รับของโจร ยักยอก เก็บของตกดังนี้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ อาญา มาตรา 158 แล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 467/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานลักทรัพย์ รับของโจร ยักยอกทรัพย์ และการฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าคนร้ายลักเรือไป จับเรือได้จากจำเลยทั้งนี้โดยจำเลยเป็นคนร้ายลักหรือรับเรือไว้โดยรู้ว่าเป็นของได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย หรือคนร้ายลักเรือแล้วทำหลุดลอยมา จำเลยเก็บได้ แล้วนำไปซุกซ่อนไว้โดยมีเจตนาทุจริต ยักยอกไว้ไม่ทำตามกฎหมายสำหรับการนั้นพนักงานสอบสวนจำเลย จำเลยรับว่า เก็บเรือลอยน้ำได้จึงขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์รับของโจร ยักยอก เก็บของตก ดังนี้เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158 แล้วประชุมใหญ่ครั้งที่ 11/2491
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเก็บของหายโดยไม่ทราบเจ้าของ ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์
เจ้าทรัพย์นั่งรถ 3 ล้อของจำเลย แล้วลืมผ้าขาวม้าไว้บนรถ 3 ล้อนั้น จำเลยเก็บผ้าของกลางนั้นไว้ โดยไม่ทราบว่าเป็นของผู้ใด และไม่ทราบว่าเจ้าของทำหลงลืมไว้แต่เมื่อใด ดังนี้ เป็นเรื่องเก็บของตกของหายตามมาตรา 318 หาใช่เรื่องลักทรัพย์ไม่ เมื่อโจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยลักทรัพย์ ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเก็บของหายได้โดยไม่ทราบเจ้าของ ไม่ถือเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
เจ้าทรัพย์นั่งรถ 3 ล้อของจำเลยแล้วลืมผ้าขาวม้าไว้ในรถ 3 ล้อนั้นจำเลยเก็บผ้าของกลางนั้นไว้ โดยไม่ทราบว่าเป็นของผู้ใด และไม่ทราบว่าเจ้าของทำหลงลืมไว้แต่เมื่อใดดังนี้ เป็นเรื่องเก็บของตกของหายตามมาตรา 318 หาใช่เรื่องลักทรัพย์ไม่ เมื่อโจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยลักทรัพย์ ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ท่อน้ำประปา: ทรัพย์ส่วนบุคคลไม่ใช่สิ่งของเพื่อสาธารณะประโยชน์
โจทก์ฟ้องบรรยายว่า จำเลยลักท่อน้ำประปาสำหรับจ่ายน้ำเข้าบ้านผู้มีชื่อของผู้มีชื่อนั้นไปดังนี้ จะลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสิ่งที่ใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์ในภาวะคับขัน พ.ศ. 2486 มาตรา 3 ด้วยไม่ได้ เพราะฟ้องไม่ปรากฏว่าทรัพย์ที่ลักเป็นสิ่งที่ใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ท่อน้ำประปา: ทรัพย์ต้องใช้เพื่อสาธารณะจึงจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. คุ้มครองสิ่งของในภาวะคับขัน
โจทก์ฟ้องบรรยายว่าจำเลยลักท่อน้ำประปาสำหรับจ่ายน้ำเข้าบ้านผู้มีชื่อของผู้มีชื่อนั้นไปดังนี้ จะลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสิ่งที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ในภาวะคับขัน 2486 มาตรา 3 ด้วยไม่ได้เพราะฟ้องไม่ปรากฏว่าทรัพย์ที่ลักเป็นสิ่งที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 305/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของสถานที่เกิดเหตุในการลักทรัพย์ – ท่าเรือ
โจทก์ฟ้องบรรยายว่า จำเลยเข้าไปในบริเวณท่าเรือ แล้วงัดโกดังและลักสังกะสีไปดังนี้ จะให้เข้าใจว่าจำเลยลักทรัพย์ที่ท่าเรือตามความในมาตรา 298(3) ยังไม่ถนัด เพราะไม่ได้ความชัดว่าโกดังและสังกะสีนั้นอยู่ที่ไหนแน่ คือที่ท่าเรือหรือไม่