คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจ้าหนี้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,539 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1460/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายความในการดำเนินคดีล้มละลายแทนเจ้าหนี้: ขอบเขตและระยะเวลา
คดีล้มละลาย การที่เจ้าหนี้มอบอำาจให้ทนายความเป็นผู้ยื่นคำขอรับชำระหนี้แทน และให้มีสิทธิออกเสียงในที่ประชุมเจ้าหนี้ ประนีประนอมยอมความ รับเงิน ตลอดจนทำการอื่นใดที่เกี่ยวกับคดีล้มละลายเรื่องใดเรื่องหนึ่งนั้น ทนายผู้รับมอบอำนาจย่อมมีสิทธิที่จะดำเนินคดีแทนเจ้าหนี้คนนั้นได้ตลอดไปจนถึงชั้นอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งศาลด้วย เพราะเป็นเรื่องของกระบวนพิจารณาที่สืบต่อจากการยื่นคำขอรับชำระหนี้นั้นเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีทรัพย์สินร่วม: เจ้าหนี้มีสิทธิยึดขายทอดตลาดทั้งหมดได้ แม้มีเจ้าของร่วม
เมื่อจำเลยกับผู้ร้องเป็นเจ้าของที่งอกร่วมกันโดยยังมิได้แบ่งส่วนเช่นนี้ โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาย่อมมีสิทธินำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดและขายทอดตลาดที่งอกได้ทั้งแปลง เรื่องเช่นนี้ แม้แต่ในกรณีระหว่างจำเลยกับผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของร่วมกันอยู่ ถ้าไม่ตกลงกันว่าจะแบ่งทรัพย์กันอย่างไรแล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364 ก็ต้องขายไปทั้งแปลงเช่นเดียวกัน
เจ้าของรวมย่อมมีทางที่จะเรียกขอให้แบ่งส่วนของตนตามสิทธิของเจ้าของรวมในทางการบังคับคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการขายทอดตลาดที่ดินงอกร่วมกัน เจ้าหนี้มีสิทธิยึดขายได้ทั้งแปลง
เมื่อจำเลยกับผู้ร้องเป็นเจ้าของที่งอกร่วมกันโดยยังมิได้แบ่งส่วนเช่นนี้ โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาย่อมมีสิทธินำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดและขายทอดตลาดที่งอกได้ทั้งแปลง เรื่องเช่นนี้ แม้แต่ในกรณีระหว่างจำเลยกับผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของร่วมกันอยู่ถ้าไม่ตกลงกันว่าจะแบ่งทรัพย์กันอย่างไรแล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1364 ก็ต้องขายไปทั้งแปลงเช่นเดียวกัน
เจ้าของรวมย่อมมีทางที่จะเรียกขอให้แบ่งส่วนของตนตามสิทธิของเจ้าของรวมในทางการบังคับคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1190/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิออกเสียงเจ้าหนี้ในที่ประชุม & ผลของมติที่ประชุมเจ้าหนี้ตามกฎหมายล้มละลาย
คดีล้มละลาย หนี้จำพวกที่อาจขอรับชำระหนี้ได้ และได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้แล้วก่อนวันประชุมเจ้าหนี้นั้น เจ้าหนี้ย่อมมสิทธิออกเสียงในที่ประชุมได้ และเมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าหนี้ที่มาประชุมคัดค้านการออกเสียงของเจ้าหนี้รายนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่ต้องสั่งบั่นทอนในการออกเสียงของเจ้าหนี้นั้น และถือว่าเป็นการออกเสียงที่มีผลตามกฎหมาย เมื่อจำนวนหนี้ของเจ้าหนี้ฝ่ายที่ลงมติฝ่ายนี้มีมากกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ต้องถือว่ามติของเจ้าหนี้ฝ่ายที่มีจำนวนหนี้ข้างมากนี้เป็นมติของที่ประชุมด้วย
คดีที่ศาลฎีกาพิพากษาย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปในฐานะที่โจทก์มีสทิธิดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปได้นั้น ไม่ใช่เป็นคำพิพากษาบังคับให้โจทก์จำต้องดำเนินคดีอย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1190/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิออกเสียงเจ้าหนี้ในที่ประชุม, มติที่ประชุมเจ้าหนี้มีผลผูกพัน, การถอนฟ้องคดีไม่ขัดต่อคำพิพากษา
คดีล้มละลาย หนี้จำพวกที่อาจขอรับชำระหนี้ได้ และได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้แล้วก่อนวันประชุมเจ้าหนี้นั้น เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิออกเสียงในที่ประชุมได้ และเมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าหนี้ที่มาประชุมคัดค้านการออกเสียงของเจ้าหนี้รายนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่ต้องสั่งบั่นทอนในการออกเสียงของเจ้าหนี้นั้น และถือว่าเป็นการออกเสียงที่มีผลตามกฎหมายเมื่อจำนวนหนี้ของเจ้าหนี้ฝ่ายที่ลงมติฝ่ายนี้มีมากกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ต้องถือว่ามติของเจ้าหนี้ฝ่ายที่มีจำนวนหนี้ข้างมากนี้เป็นมติของที่ประชุมด้วย
คดีที่ศาลฎีกาพิพากษาย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปในฐานะที่โจทก์มีสิทธิดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปได้นั้น ไม่ใช่เป็นคำพิพากษาบังคับให้โจทก์จำต้องดำเนินคดีอย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1075/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินลูกหนี้ล้มละลาย: สิทธิเจ้าหนี้ผู้ฟ้องคดี
การที่เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ยื่นคำขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ผู้ล้มละลายในหนี้อันเดียวกับที่ตนเป็นโจทก์ฟ้องคดีนั้น เมื่อศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด และพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย คดีถึงที่สุดโดยไม่ปรากฏพฤติการณ์อื่นหักล้างคำสั่งและคำพิพากษาดังกล่าว ย่อมถือได้ว่าลูกหนี้ต้องมีหน้าที่รับผิดในหนี้ตามที่เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ฟ้องแล้ว
เมื่อเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ดังกล่าวโดยอ้างเช็คอันเป็นหลักฐานตามฟ้อง พร้อมกับอ้างตนเองเป็นพยาน และนำบุคคลอื่นมาสืบประกอบทั้งในชั้นที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนคำขอรับชำระหนี้ก็ไม่มีผู้ใดคัดค้าน เช่นนี้ คำขอรับชำระหนี้นั้นจึงมีหลักฐานรับฟังได้ว่าเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์มีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ผู้ล้มละลายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 985/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ร่วมสินสมรส: เจ้าหนี้มีสิทธิยึดทรัพย์สินเดิมที่นำมาใช้หนี้ แม้ผู้ร้องไม่ได้ยินยอม
กรณีร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ถูกยึดนั้น เมื่อฟังว่าหนี้ตามคำพิพากษาที่ภรรยาก่อขึ้นเป็นหนี้ร่วมแล้ว ผู้ร้องซึ่งเป็นสามีจะอ้างว่าทรัพย์ที่ยึดนั้นเป็นสินเดิมและขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดนั้น ย่อมไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ต้องมีฐานะเจ้าหนี้-ลูกหนี้ต่อกัน
ความผิดฐานโกงเจ้าหนี้นั้น เมื่อมีคำพิพากษาว่าโจทก์และจำเลยมิได้เป็นเจ้าหนี้และลูกหนี้ต่อกันแล้วย่อมไม่อาจมีการกระทำความผิดฐานนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 742/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผ่อนเวลาชำระหนี้: ผู้ค้ำประกันไม่หลุดพ้นความรับผิดหากเจ้าหนี้ไม่ได้ตกลงผ่อนเวลา
การที่เจ้าหนี้ไม่ฟ้องลูกหนี้ให้ชำระหนี้เมื่อหนี้ถึงกำหนดชำระ ไม่ใช่เป็นการผ่อนเวลาให้แก่ลูกหนี้ และการที่ผู้ค้ำประกันเตือนเจ้าหนี้ให้ฟ้องลูกหนี้และเจ้าหนี้ไม่ฟ้อง ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องผ่อนเวลาอันจะทำให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 738-740/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้เกิดหลังศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์/เช็คไม่ใช่หลักฐานกู้ยืม: เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ไม่ได้
การพิจารณาของศาลตามมาตรา 107 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายนั้น อาจพิจารณาได้จากสำนวนการสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นั่นเอง ไม่จำเป็นที่ศาลจะต้องออกนั่งพิจารณาฟังพยานหลักฐานอะไรอีกก็ได้
เจ้าหนี้ให้เงินตามจำนวนในเช็คแก่ลูกหนี้ไปแลกกับเช็คที่ลูกหนี้ออกให้ลงวันออกล่วงหน้าไว้ แต่วันที่ลงในเช็คเป็นวันภายหลังวันศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาด เช็คนี้จึงเพิ่งเกิดมูลหนี้ขึ้นภายหลังวันศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาด ต้องด้วยข้อจำกัดมิให้เจ้าหนี้ขอรับชำระตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 94 เจ้าหนี้จะขอรับชำระหนี้ในฐานเป็นผู้ทรงเช็คหาได้ไม่และจะขอรับชำระหนี้จำนวนนี้ในฐานเป็นหนี้กู้ยืมในเมื่อไม่ได้ทำสัญญากู้ยืมต่อกัน เพียงแต่ลูกหนี้ออกเช็คให้เจ้าหนี้ไว้เป็นหลักฐานเช่นนี้ก็ไม่ได้ เพราะเช็คไม่ใช่หลักฐานแห่งการกู้ยืม (อ้างฎีกาที่ 1595/2503) จึงเป็นหนี้ที่จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 ต้องด้วยข้อจำกัดมิให้เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา94 อีก
of 154