พบผลลัพธ์ทั้งหมด 125 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการลงโทษตามฟ้อง: การทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ vs. บาดเจ็บสาหัส
ฟ้องว่าชิงทรัพย์ทำร้ายร่างกายเจ้าทรัพย์บาดเจ็บพิจารณาได้ความว่าเจ้าทรัพย์บาดเจ็บถึงสาหัสลงโทษจำเลยได้เพียงเท่าที่โจทก์ฟ้อง
สัญญาทางพระราชไมตรี เจ้าทรัพย์เป็นคนในบังคับฝรั่งเศส คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงได้
สัญญาทางพระราชไมตรี เจ้าทรัพย์เป็นคนในบังคับฝรั่งเศส คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 894/2478
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพกับการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ ศาลมีดุลยพินิจไม่จำต้องลงโทษตามคำรับ
คำรับ ศาลไม่จำต้องฟังคำรับสารภาพของจำเลยมาลงโทษจำเลยเสมอไป เป็นข้อดุลยพินิจของศาลที่จะวินิจฉัยเอาเองว่าควรจะลงโทษจำเลยตามคำรับหรือไม่ จำเลยต่อสู้ว่าได้ทำร้ายเขาโดยป้องกัน แต่รับสารภาพว่าได้ทำเกินสมควรแก่เหตุไป จึงถึงตายเช่นนี้เมื่อทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำโดยป้องกันพอสมควรแก่เหตุ ศาลไม่จำต้องฟังคำรับของจำเลยพิพากษาให้ยกฟ้องได้ ฎีกาอุทธรณ์ดุลยพินิจ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 362/2478
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษเจ้าสำนักพนัน: ภริยาไม่ต้องรับโทษหากไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ประมวลแพ่ง ฯ ครอบครัวในเรื่องลักเล่นการพะนันศาลลงโทษสามีฐานเป็นเจ้าสำนักแล้ว จะลงโทษภริยาฐานเป็นเจ้าสำนักด้วยไม่ได้ในเมื่อไม่ปรากฏว่าภรรยาได้เกี่ยวข้องจัดให้มีการเล่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 783/2477
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธอันตราย: การป้องกันตัวของผู้ถูกทำร้าย และการลงโทษตามบทหนัก
เงื้อขวานเข้ามาจะฟันเขาแต่เขาถลันเข้าไปป้องกันไว้ได้เป็นการกระทำที่เห็นได้ว่าถ้าถูกก็มีบาดแผล จำเลยต้องมีผิดตามมาตรา 254-60 การกระทำเป็นการเลมิดกฎหมายหลายบทศาลลงโทษตามบทหนัก พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ.2461 ม.3 แก้มาก ศาลเดิมลงโทษตาม ม.338 ให้ปรับ 40 บาทศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตามมาตรา 254 -60 ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือนเป็นแก้ไขมาก ฎีกาข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 116/2477
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำ จำเป็นต้องมีการพ้นโทษแล้วก่อน จึงจะเพิ่มโทษได้
คำว่าไม่เข็ดหลาบตามมาตรา 76 นั้นต้องแปลความตามมาตรา 72 ตอน 1 ว่า ผู้กระทำผิดได้พ้นโทษแล้วไปทำผิดอีกอย่างไรเรียกว่าพ้นโทษ จำเลยถูกศาลพิพากษาให้ปรับระวางที่จำเลยยังไม่ใช้ค่าปรับปหรือถูกจำแทนค่าปรับถือว่ายังไม่พ้นโทษทำผิดตามมาตรา 338 ข้อ 3 มาครั้ง 1 แล้วศาลตัดสินให้ปรับ จำเลยขอผัดนี้จำเลยทำผิดในฐานเดียวกันซ้ำขึ้นอีกดังนี้จะเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 76 ยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9103/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต และแปรรูปไม้หวงห้าม การลงโทษตามกฎหมายป่าไม้
โจทก์บรรยายฟ้องในข้อ 2.2 ว่า จำเลยกับพวกร่วมกันตั้งโรงงานแปรรูปไม้ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ โดยใช้เลื่อยโซ่ยนต์ตามฟ้องข้อ 2.1 ตัดทอนไม้ให้เปลี่ยนรูปไปจากเดิมและบรรยายฟ้องในข้อ 2.3 ว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันแปรรูปไม้สักและไม้ประดู่ อันเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ให้เป็นแผ่น ได้ไม้สักแปรรูป 49 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.72 ลูกบาศก์เมตร และได้ไม้ประดู่แปรรูป 19 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.16 ลูกบาศก์เมตร ตามคำฟ้องดังกล่าวมีความหมายในตัวว่า โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองในความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้สักและไม้ประดู่โดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 73 วรรคสอง (1) เมื่อจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพและไม้ที่จำเลยที่ 1 กับพวกตั้งโรงงานเป็นไม้สัก การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48 วรรคหนึ่ง ซึ่งต้องลงโทษตามมาตรา 73 วรรคสอง (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8426/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จ ฟ้องเท็จ และเบิกความเท็จต่อศาล ผลกระทบต่อการลงโทษและการลุแก่โทษ
แม้คดีที่พนักงานอัยการฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท จำเลยที่ 1 จะได้ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ แต่ต่อมาจำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์ต่อศาลชั้นต้น มีผลให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไป ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (2) จึงเป็นกรณีที่จำเลยที่ 1 ลุแก่โทษต่อศาลเช่นเดียวกับการถอนฟ้อง ตาม ป.อ. มาตรา 176 ย่อมได้รับประโยชน์ตามบทบัญญัติดังกล่าว ซึ่งศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ หรือจะไม่ลงโทษเลยก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6772/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับของโจร: ความรู้เจตนาในการรับทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดมีผลต่อการลงโทษตามมาตรา 357
การจะลงโทษจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ให้หนักขึ้นตามลักษณะฉกรรจ์ตาม ป.อ. มาตรา 357 วรรคสองได้ ก็ต่อเมื่อได้ความว่าขณะกระทำความผิดจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 รู้อยู่แล้วว่ารถกระบะของกลางเป็นทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำผิดฐานชิงทรัพย์ตาม ป.อ. มาตรา 62 วรรคท้าย เมื่อทางพิจารณาได้ความเพียงว่า รถกระบะของกลางเป็นทรัพย์ที่ น. ได้มาจากการกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ ไม่ปรากฏว่าขณะกระทำความผิดจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 รู้อยู่แล้วว่ารถกระบะของกลางเป็นทรัพย์อันได้มาโดยการชิงทรัพย์ จึงไม่อาจลงโทษจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ตาม ป.อ. มาตรา 357 วรรคสองได้ คงลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 357 วรรคแรก ประกอบมาตรา 83 เท่านั้น ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยที่ 1 และที่ 2 มิได้ฎีกาในปัญหานี้ ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 และเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่ 3 ที่ถอนฎีกาได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 213 ประกอบมาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14618/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาโทษจากประวัติผู้ต้องหา การนำข้อเท็จจริงนอกสำนวนมาลงโทษขัดต่อกฎหมาย
แม้จะปรากฏจากคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางถึงเหตุไม่รอการลงโทษจำคุกจำเลยว่า จำเลยเคยกระทำความผิดฐานเสนอจำหน่ายและมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักรของผู้อื่นมาแล้วหลายคดี แต่เนื่องจากข้อเท็จจริงดังกล่าวได้มาจากรายงานเจ้าหน้าที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางที่ตรวจสอบประวัติผู้กระทำผิดจากระบบงานบริหารสำนวนคดี โดยที่โจทก์มิได้บรรยายถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวไว้ในคำฟ้อง และไม่ปรากฏว่ามีการสอบข้อเท็จจริงนี้จากจำเลยด้วย รายงานของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวจึงไม่ใช่พยานหลักฐานแต่เป็นเพียงเอกสารภายในหน่วยงานเพื่อสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ศาลกับศาล การที่จำเลยให้การรับสารภาพจึงเป็นการยอมรับข้อเท็จจริงเท่าที่ปรากฏในคำฟ้อง ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางนำข้อเท็จจริงดังกล่าวมาวินิจฉัยและพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษจำคุกแก่จำเลยนั้น จึงเป็นการนำข้อเท็จจริงนอกสำนวนมาพิจารณาลงโทษจำเลย ต้องห้ามตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นควรแก้ไขโทษให้เหมาะสมกับสภาพความผิดและพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดของจำเลย