พบผลลัพธ์ทั้งหมด 300 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฐานการริบของกลางในคดีอาญา จากมาตรา 32 เป็นมาตรา 33 เนื่องจากของกลางใช้ในการกระทำผิด
ของกลางเป็นทรัพย์สินที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดการที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ริบของกลางตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 จึงไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาแก้ไขให้ถูกต้องโดยปรับบทริบตามมาตรา 33.(ที่มา-เนติ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3015/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของพนักงานสอบสวนและนิติบุคคลจากการละเมิดต่อของกลางที่สูญหาย
จำเลยที่ 2 เป็นพนักงานสอบสวนยึดรถยนต์ของโจทก์มาเก็บรักษาไว้เป็นของกลาง ย่อมมีหน้าที่เก็บรักษารถยนต์ดังกล่าวพร้อมอุปกรณ์ไว้ในที่ปลอดภัย ทั้งต้องใช้ความระมัดระวังตามสมควรมิให้รถยนต์ดังกล่าวและอุปกรณ์ต้องสูญหายหรือเสียหายการที่จำเลยที่ 2 นำรถยนต์ดังกล่าวไปจอดไว้ริมถนนนอกเขตสถานีตำรวจและไม่จัดให้มีผู้ดูแลรักษา แม้จะมีระเบียบกรมตำรวจระบุให้ผู้บังคับกองหรือหัวหน้าสถานีตำรวจเป็นผู้เก็บรักษาของกลาง ก็เป็นระเบียบภายในกรมตำรวจทั้งไม่มีข้อความระบุให้บุคคลดังกล่าวรับผิดชอบในเรื่องนี้แต่เพียงผู้เดียว ดังนั้น เมื่ออุปกรณ์รถยนต์ดังกล่าวหายไปจึงเป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดต่อโจทก์
จำเลยที่ 2 เป็นข้าราชการในสังกัดกรมตำรวจ จำเลยที่ 1 ย่อมมีฐานะเป็นผู้แทนของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 76 เมื่อจำเลยที่ 2 กระทำตามหน้าที่และทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์จำเลยที่ 1 จึงต้องร่วมกับจำเลยที่ 2 รับผิดต่อโจทก์.
จำเลยที่ 2 เป็นข้าราชการในสังกัดกรมตำรวจ จำเลยที่ 1 ย่อมมีฐานะเป็นผู้แทนของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 76 เมื่อจำเลยที่ 2 กระทำตามหน้าที่และทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์จำเลยที่ 1 จึงต้องร่วมกับจำเลยที่ 2 รับผิดต่อโจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3015/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของข้าราชการและหน่วยงานต่อความเสียหายจากละเมิด กรณียึดของกลางแล้วดูแลไม่ดีทำให้สูญหาย
จำเลยที่ 2 เป็นพนักงานสอบสวนยึดรถยนต์ของโจทก์เป็นของกลางในคดี จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องเก็บรักษารถยนต์พร้อมอุปกรณ์ในที่ปลอดภัย และต้องใช้ความระมัดระวังตามสมควรมิให้สูญหายหรือเสียหายการที่จำเลยนำรถยนต์ของกลางจอดไว้ริมถนนนอกเขตสถานีตำรวจและไม่จัดให้มีผู้ดูแลรักษา เมื่ออุปกรณ์ของรถยนต์หายไป จึงเป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ จำเลยที่ 2 เป็นข้าราชการในสังกัดกรมตำรวจจำเลยที่ 1 จึงมีฐานะเป็นผู้แทนของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคล เมื่อจำเลยที่ 2กระทำการตามหน้าที่และก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ จำเลยที่ 1จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 ต่อโจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1785/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมโดยปริยายและการรู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิด ผู้เช่าซื้อรถยนต์ไม่มีสิทธิขอคืนของกลาง
รถยนต์ของกลางเป็นรถยนต์ที่สามีจำเลยเช่าซื้อจากผู้ร้องเมื่อจำเลยนำไปใช้ในการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ครั้งแรกผู้ร้องได้ร้องขอคืนรถยนต์มาแล้วก็นำมาให้จำเลยและสามีจำเลยครอบครองต่อไปแทนที่จะเลิกสัญญาพฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าผู้ร้องประสงค์เพียงค่าเช่าซื้อเท่านั้น จำเลยและสามีจำเลยจะนำรถยนต์ไปใช้อย่างไรก็ได้จำเลยนำรถยนต์ของกลางไปใช้งานในการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้อีก จึงเข้าลักษณะผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิดของจำเลย ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขอคืนรถยนต์ของกลาง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาขอริบของกลางที่ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจไม่ริบ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้าม
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลย1ปี6เดือนจึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา218เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจไม่ริบรถจักรยานสองล้อของกลางที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิดแล้วโจทก์ยังฎีกาขอให้ริบอีกจึงเป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาลเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 548/2529 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของทรัพย์สินของกลางที่ไม่รู้เห็นการกระทำผิด: ศาลไม่อำนาจสั่งริบและต้องคืนให้
ในคดีอาญาที่โจทก์มีคำขอให้ริบของกลาง เจ้าของทรัพย์สินของกลางมีสิทธิร้องขอคืนของกลางในระหว่างพิจารณาได้ หากปรากฏว่าเจ้าของทรัพย์สินของกลางมิได้รู้เห็นเป็นใจในการที่จำเลยนำเอาทรัพย์ของกลางไปใช้ในการกระทำความผิด ศาลไม่มีอำนาจสั่งริบของกลางนั้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 วรรคท้าย และต้องคืนแก่เจ้าของ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4647/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ร้องขอคืนของกลางที่ถูกริบจากความผิดของผู้อื่น
การร้องขอคืนของกลางที่ศาลสั่งริบตามพระราชบัญญัติแร่พ.ศ.2510มาตรา154และประมวลกฎหมายอาญามาตรา36นั้นผู้ร้องขอคืนของกลางมีหน้าที่พิสูจน์ว่าตนมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3743/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจับกุมโดยไม่มีหมายค้น/หมายจับ: การพบของกลางที่บ้านจำเลยไม่ใช่เหตุให้จับกุมได้ทันที
การที่เจ้าพนักงานค้นพบของกลางที่บริเวณบ้านจำเลยและจำเลยรับว่าเป็นของตนไม่ใช่ความผิดซึ่งเจ้าพนักงานเห็นจำเลยกำลังกระทำหรือพบในอาการซึ่งแทบจะไม่มีความสงสัยเลยว่าจำเลยกระทำผิดมาแล้วสดๆจึงไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้าที่เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจจะจับจำเลยได้โดยไม่มีหมายจับเมื่อเป็นการจับกุมโดยไม่มีอำนาจแม้จำเลยจะต่อสู้ขัดขวางการจับกุมก็ไม่มีความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1050/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจของผู้รับมอบอำนาจในการร้องขอรับของกลางคืน การมอบอำนาจต้องชัดเจนและครอบคลุม
หนังสือมอบอำนาจของผู้ร้องไม่ปรากฏว่าผู้ร้องมอบอำนาจให้ผู้รับมอบอำนาจร้องขอรับรถยนต์คืนจากศาลแต่อย่างใดการที่ผู้ร้องยื่นหนังสือมอบอำนาจใหม่ต่อศาลฎีกาโดยมอบอำนาจให้ผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจในเรื่องดังกล่าวก็ไม่อาจทำให้ผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจร้องขอรับรถยนต์คืนจากศาลชั้นต้นขึ้นมาได้ทั้งปัญหาเรื่องนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยศาลมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4225/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ของกลางที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ไม่สามารถริบได้ แม้จะเกี่ยวข้องกับการหลบหนี
เสื้อของกลางคนร้ายมิได้ใช้ในการกระทำความผิด ส่วนการถอดเสื้อของกลางทิ้งโจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าเป็นการพรางตาให้พ้นจากการจับกุมหรือเพื่อสะดวกแก่การเอาทรัพย์ไปรับฟังไม่ได้ว่าเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดดังที่โจทก์ฎีกาอีกเช่นกัน ศาลจึงสั่งริบไม่ได้