คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ขัดขวาง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 161 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 392/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดขวางพิธีกรรมทางศาสนา หมิ่นประมาท และทำลายทรัพย์สินในวัด
ชาวบ้านประชุมกันนมัสการถวายต้นดอกไม้และปราสาทผึ้งต่อพระภิกษุเจ้าอาวาส จำเลยเข้าไปด่าพระภิกษุ และเอาปราสาทผึ้งไปเตะเล่น เป็นความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา173 แต่ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 207 ซึ่งมีอัตราโทษเบากว่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2134/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดขวางทางสาธารณะและการนับระยะเวลาตามคำสั่งเจ้าพนักงาน
ปลัดอำเภอมีคำสั่งให้จำเลยเปิดทางที่จำเลยปิด โดยเจ้าพนักงานเห็นว่าเป็นทางสาธารณะใน 3 วัน การนับเวลา3 วันนี้ ต้องนับตามประมวลแพ่งฯ มาตรา 158 คือไม่นับวันที่ออกคำสั่งเข้าไปด้วย ต้องนับวันรุ่งขึ้นจากวันออกคำสั่ง การที่เจ้าพนักงานไปจับจำเลยมาหาว่าขัดคำสั่งก่อนครบกำหนดจำเลยจึงยังไม่ผิดฐานขัดคำสั่งด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1914-1915/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมคบกันลักทรัพย์และต่อสู้ขัดขวางการจับกุม ถือเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโคและกระบือของผู้เสียหายถูกลักไปในคืนเกิดเหตุทั้งสองแห่ง เมื่อผู้เลี้ยงต่างเห็นผู้ร้ายพาโคกระบือไปห่างบ้านตนคนละประมาณ 3 เส้น และ 2 เส้นเศษต่างก็ไปแจ้งผู้เสียหายทันที และผู้เสียหายก็ไปแจ้งตำรวจทันที ตำรวจแยกเป็น 2 ทางตามรอยโคกระบือไปเป็นเวลาประมาณ 7 ชั่วโมงจนไปพบปะผู้ร้ายและโคกระบือคนละตำบลกับที่เกิดเหตุก็ดี และแม้ผู้ร้ายจะกระจัดกระจายจนโคกระบือข้ามแม่น้ำไปบ้างแล้วก็ดี การลักทรัพย์รายนี้ก็หายังได้ขาดตอนจากกันไม่
เมื่อผู้ร้ายมี5 คน 3 คนแรกวิ่งไปทางกลางเกาะอีก 2 คนวิ่งตามไปติด ๆ กัน แล้วอีก 2 คนลงไปที่เรือชล่าที่จอดอยู่ ตอนเจ้าพนักงานบอกให้วางอาวุธเพราะได้ล้อมไว้แล้ว พวกผู้ร้ายกลับยิงปืนมาเป็นทำนองต่อสู้ขัดขวางเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา ดังนี้การกระทำของจำเลยต้องด้วยลักษณะสมคบกันปล้นทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยขัดขวางการแบ่งขายที่ดิน ทำให้โจทก์ถูกริบมัดจำ ศาลพิจารณาค่าเสียหายจากการละเมิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยคัดค้านการแบ่งแยกที่ดินทำให้โจทก์แบ่งขายที่ดินไม่ได้ โจทก์จึงไม่ได้เงินไปชำระราคาที่ดินซึ่งโจทก์วางมัดจำซื้อไว้เป็นเหตุให้โจทก์ถูกริบเงินมัดจำ แม้จะปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดต่อโจทก์ก็ตาม แต่จะถือว่าเงินมัดจำที่โจทก์ถูกริบเป็นค่าเสียหายที่จำเลยต้องรับผิดไม่ได้
เมื่อมีการละเมิดขึ้นแล้ว ศาลย่อมวินิจฉัยให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนได้ตามควรแก่พฤติการณ์
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยละเมิดขอค่าเสียหายที่ถูกริบมัดจำหนึ่งหมื่นบาท เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดในเงินมัดจำที่โจทก์ถูกริบศาลจะพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายในการละเมิดแก่โจทก์หนึ่งพันบาทก็ได้ไม่เกินคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 138/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินเมื่อเจ้าของเดิมคืนที่: แม้เช่าก็ไม่มีสิทธิขัดขวาง
เมื่อปรากฏว่าที่นาพิพาทที่จำเลยเช่าทำนั้นอยู่ในเขตโฉนดของโจทก์และเจ้าของนาได้ยินยอมคืนให้โจทก์แล้วจำเลยผู้เช่าเป้นแต่เพียงผู้ครอบครองแทนเจ้าของ เมื่อเจ้าของยอมคืนไปแล้วจำเลยก็ไม่มีสิทธิหรือหน้าที่อย่างใดที่จะมาขัดขวาง
การครอบครองที่ดินในโฉนดของผู้อื่นเช่นในกรณีนี้ เมื่อผู้ครอบครองคืนที่ให้เจ้าของโฉนด(โจทก์)หรือสละทิ้งที่นั้นแล้วเจ้าของโฉนดในที่ตรงนั้น(โจทก์) ย่อมเข้าครอบครองถืออำนาจเป็นเจ้าของได้ต่อไปโดยไม่ต้องเปลี่ยนแก้ทางทะเบียนประการใด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดขวางการจับกุม: การกระทำของบุคคลอื่นย่อมไม่ผูกพันจำเลย หากไม่มีเจตนาสมคบหรือรู้เห็นร่วมกัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่าเจ้าพนักงานไปค้นสุราผิด ก.ม.และจับนายปิ่นไว้ ทันใดนั้นจำเลยนี้มีหลาวไม้รวกและหอกประมาณ 10 คนมีอาวุธ ครบมือขัดขวางไม่ยอมให้เจ้าพนักงานจับนายปิ่น โดยพวกจำเลยคนหนึ่งร้องกล่าวว่า "พวกผู้ชายมารวมที่นี่ให้หมด วันนี้เป็นวันตายของเรา ไม่ยอมให้ตำรวจจับเหล้า" ขณะนั้นนายปิ่นได้ถือโอกาสหนีเข้าไปในหมู่พวกจำเลย
ดังนี้ตามฟ้องโจทก์เห็นได้ประจักษ์ว่าเป็นการกระทำของผู้ที่ร้องขึ้นแต่ผู้เดียว ไม่เกี่ยวแก่จำเลยสมคบหรือสมรู้กับผู้ที่ร้องขึ้น แม้ว่าการกระทำของผู้ที่ร้องขึ้นจะเป็นการผิดตาม ก.ม.และจำเลยรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดขวางเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่: การกระทำของบุคคลอื่นย่อมไม่ถือว่าจำเลยมีความผิดไปด้วย
โจทก์บรรยายฟ้องว่าเจ้าพนักงานไปค้นสุราผิดกฎหมาย และจับนายปิ่นไว้ ทันใดนั้นจำเลยนี้มีหลาวไม้รวกและหอกประมาณ 10 คนมีอาวุธครบมือขัดขวางไม่ยอมให้เจ้าพนักงานจับนายปิ่น โดยพวกจำเลยคนหนึ่งร้องกล่าวว่า "พวกผู้ชายมารวมที่นี่ให้หมด วันนี้เป็นวันตายของเราไม่ยอมให้ตำรวจจับเหล้า" ขณะนั้นนายปิ่นได้ถือโอกาสหนีเข้าไปในหมู่พวกจำเลย
ดังนี้ตามฟ้องโจทก์เห็นได้ประจักษ์ว่าเป็นการกระทำของผู้ที่ร้องขึ้นแต่ผู้เดียว ไม่เกี่ยวแก่จำเลยสมคบหรือสมรู้กับผู้ที่ร้องขึ้น แม้ว่าการกระทำของผู้ที่ร้องขึ้นจะเป็นการผิดตามกฎหมายและจำเลยรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1166/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเงื้อมีดข่มขู่เจ้าพนักงาน ถือเป็นการขู่เข็ญต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ แม้ไม่ได้ลงมือทำร้าย
แม้จำเลยไม่ได้ใช้วาจาขู่เข็ญ แต่ได้ใช้มีดเงื้อจะทำร้ายเจ้าพนักงานก็ย่อมถือได้แล้วว่าเป็นการขู่เข็ญจะทำร้ายโดยประสงค์จะต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1428/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานที่ดินต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่สามารถอ้างระเบียบที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายมาขัดขวางการจดทะเบียนสิทธิในที่ดินได้
กฎกระทรวงต้องไม่ขัดต่อ ก.ม. จึงจะมีผลบังคับได้
เจ้าพนักงานที่ดินมีหน้าที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินตาม พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน ร.ศ. 127 ม.41 ฉนั้น อ้างระเบียบกระทรวงมหาดไทยซึ่งวางระเบียบไว้ว่าถ้าผู้ซื้อที่ดินเป็นบุตรของคนต่างด้าว แม้จะมีสัญชาติเป็นไทยก็ให้มีการสอบสวนเพื่อควบคุมให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ที่ดินเกี่ยวกับคนต่างด้าว พ.ศ. 2486 อันไม่ปรากฎว่าได้ออกมาโดยอาศัยอำนาจตาม ก.ม.มาหน่วงเหนี่ยวขัดขวางผู้ร้องขอที่มีสัญชาติไทยบิดาเป็นคนต่างด้าวมิให้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิในที่ดิน ตาม ก.ม. ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัยขัดขวางการคัดเลือกทหาร: การถูกจับกุมทางการและการไม่สามารถเข้ารับราชการได้
จำเลยไม่มาให้คัดเลือกเข้ารับราชการทหาร เพราะในวันคัดเลือกนั้นระหว่างทางจำเลยถูกเจ้าพนักงานจับน้ำตาลเมาเพียงเล็กน้อยและต้องถูกควบคุมไว้ และไม่ยอมให้จำเลยมีประกันตัวจนเป็นเหตุให้จำเลยมาให้กรรมการตรวจคัดเลือกไม่ทันตามกำหนดเวลา ดังนี้ย่อมเป็นเหตุสุดวิสัยของจำเลยตามมาตรา 23(3) แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2479
of 17