คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความชัดเจน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 233 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่เมื่อมีภาพถ่ายกรมธรรม์ประกอบ แม้ไม่ครบถ้วน
ฟ้องโจทก์กล่าวชัดเจนว่า โจทก์ได้เอาประกันภัยรถยนต์มาสด้าแบบบรรทุกปิคอัพหมายเลขทะเบียน ล.บ.09465 หมายเลขเครื่อง พ. 22172 ไว้กับจำเลย ทั้งได้กล่าวด้วยว่า กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 23407/ ส.1053 เอส.ซี มีภาพถ่ายกรมธรรม์ประกันภัยติดมาท้ายฟ้องด้วย แม้โจทก์จะมิได้ถ่ายภาพกรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 23407/ ส.1053 เอส.ซี มาให้ครบถ้วน จำเลยก็อาจตรวจดูต้นฉบับซึ่งที่อยู่ที่จำเลยได้ จึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1181/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งต้องชัดเจนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 หากไม่ชัดเจนศาลไม่รับพิจารณา
พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2511 ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสองบัญญัติว่า "คำฟ้องต้องแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น" มาตรา 1(3) ได้บัญญัติคำว่า "คำฟ้อง"ให้หมายถึงกระบวนพิจารณาใดๆ ที่โจทก์ได้เสนอข้อหาต่อศาลฯลฯ ไม่ว่าจะได้เสนอในขณะเริ่มคดีโดยคำฟ้องหรือคำร้องขอ ฯลฯ ดังนี้ คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งจึงต้องอยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 ด้วย
คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งกล่าวอ้างแต่ว่า คณะกรรมการตรวจคะแนนหลายหน่วยเลือกตั้งปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยไม่กล่าวให้แจ้งชัดว่าคณะกรรมการฯหน่วยใดบ้างที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อ้างว่าคณะกรรมการฯนับบัตรดีของหมายเลข 10 เป็นบัตรเสีย นับบัตรเสียของหมายเลขอื่นเป็นบัตรดี โดยไม่แสดงโดยแจ้งชัดว่าเป็นบัตรเสียเพราะเหตุใด กล่าวอ้างว่ามีบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทยและบุคคลอื่นๆ ได้กระทำการเพื่อประโยชน์แห่งการรับเลือกตั้งโดยประการที่เป็นคุณแก่ ช.ผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 2 ด้วยการช่วยเหลือในด้านการเงินและทรัพย์สินอื่นๆ โดยมิได้กล่าวให้ชัดเจนว่าบุคคลนั้นๆ คือใคร ช่วยเหลือในด้านการเงินและทรัพย์สินอื่น โดยกระทำอย่างใดอันจะถือได้ว่าเป็นการกระทำที่เป็นคุณ กล่าวอ้างว่าช.ผู้สมัครหมายเลข2และตัวแทนได้ให้เงินและทรพัย์สินและสัญญาว่าจะให้เงินแก่ผู้เลือกตั้งเพื่อจูงใจให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตน และไม่ให้ลงคะแนนแก่ล.กับผู้สมัครฯ หมายเลขอื่นโดยมิได้กล่าวให้แจ้งชัดว่าผู้เลือกตั้งที่ได้เงินและทรัพย์สินกับที่ได้รับสัญญาว่าจะรับเงินนั้นมีจำนวนเท่าใด เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งใด ซึ่งถ้ามีจำนวนน้อยก็ไม่เป็นเหตุที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่ อ้างว่า ช.จัดยานพาหนะนำผู้เลือกตั้งไปกลับจากที่เลือกตั้งโดยไม่ต้องเสียค่าพาหนะ โดยไม่กล่าวให้ชัดแจ้งว่าเป็นหน่วยเลือกตั้งใด และเป็นเหตุให้การลงคะแนนเปลี่ยนแปลงไปอย่างใด กล่าวอ้างว่าคณะกรรมการตรวจคะแนนบางหน่วยนับคะแนนโดยมิชอบ คือไม่ยอมอ่านบัตรที่มีผู้กาเครื่องหมายหมายเลข 10 และหมายเลขอื่น ทำให้คะแนนของ ล.หมายเลข 10 และหมายเลขอื่นน้อยกว่าความเป็นจริง โดยไม่ระบุให้แจ้งชัดว่าเป็นคณะกรรมการฯหน่วยใด ไม่อ่านบัตรที่กาเครื่องหมายหมายเลข10 เป็นจำนวนประมาณเท่าใด หมายเลขอื่น ๆ คือหมายเลขใดมีจำนวนประมาณเท่าใด และการไม่อ่านเช่นนี้เป็นเหตุให้คะแนนของ ล. และหมายเลขอื่นน้อยกว่าความเป็นจริงประมาณเท่าใด ซึ่งถ้าน้อยกว่าความเป็นจริงเพียงเล็กน้อยก็จะไม่ เป็นเหตุที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่ และกล่าวอ้างว่ากรรมการตรวจคะแนนบางคนมิได้ไปปฏิบัติหน้าที่ เป็นเหตุให้ต้องตั้งบุคคลอื่นแทน การตั้งแทนก็กระทำโดยมิชอบ โดยมิได้กล่าวให้แจ้งชัดว่ากรรมการที่มิได้มานั้นคือใคร หรือประจำหน่วยใด การตั้งบุคคลอื่นแทนนั้นฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรา 40 อย่างใด เหล่านี้ ย่อมถือว่าไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา จึงเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม
ผู้ร้องได้ขอแก้ไขคำร้องให้แจ้งชัดขึ้นหลังจากที่ผู้คัดค้านได้คัดค้านไว้แล้วว่าคำร้องของผู้ร้องเคลือบคลุม ยิ่งกว่านั้นผู้คัดค้านก็ได้ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อนี้ไว้ก่อนแล้ว ย่อมไม่มีเหตุที่จะอนุญาตให้ผู้ร้องแก้ไขคำร้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1180/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำร้องเลือกตั้งใหม่ต้องชัดเจนระบุรายละเอียดการกระทำผิด มิเช่นนั้นถือเป็นคำร้องเคลือบคลุม
คำร้องระบุแน่ชัดว่าคณะกรรมการตรวจนับคะแนนหน่วยเลือกตั้งท้องที่ ตำบล อำเภอใดได้นับคะแนนผิดความจริง คืออ่านบัตรดีของผู้ร้องเป็นบัตรเสีย และอ่านบัตรเสียของผู้สมัครหมายเลขใดเป็นบัตรดี แต่ไม่ได้ระบุว่าอ่านบัตรดีให้เป็นบัตรเสียชนิดไหน และอ่านบัตรเสียชนิดไหนให้เป็นบัตรดี ย่อมเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม (อ้างนัยคำสั่งศาลฎีกาที่ 1901/2512)
คำร้องอ้างว่ากรรมการตรวจนับคะแนนอ่านบัตรที่มีผู้ลงคะแนนให้ผู้ร้องหมายเลข 4 เป็นหมายเลขอื่น เพื่อช่วยเหลือคนอื่น โดยไม่ยืนยันว่าเป็นหมายเลขใดและผู้ใด ดังนี้เป็นคำร้องเคลือบคลุม
คำร้องระบุแน่ชัดว่า กรรมการตรวจนับคะแนนหน่วยเลือกตั้งท้องที่ใดบ้าง รายงานการเลือกตั้งไม่ตรงกับความจริง โดยไม่ได้บรรยายให้แจ้งชัดว่ามีการกระทำอย่างไรที่เป็นรายงานการเลือกตั้งที่ไม่ตรงกับความจริง คงอ้างแต่ผลของรายงานว่า ทำให้จำนวนบัตรคะแนนของผู้ได้รับเลือกตั้งมีมากกว่าจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งและมากกว่าจำนวนบัตรที่อยู่ในหีบบัตรเลือกตั้ง ทำให้ยากที่ผู้คัดค้านจะเข้าใจคำร้องและต่อสู้คดีได้ถูกต้อง ย่อมเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2635/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของคำฟ้องกรณีบุกรุกทำกิน ไม่จำเป็นต้องระบุรายละเอียดเนื้อที่หรือการทำกิน
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่ดินจากจำเลย 1 แปลงอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลหัวเมือง อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ต่อมาจำเลยเข้ายื้อแย่งบุกรุกทำกินโดยพลการ ทำให้โจทก์เสียหายขอให้ขับไล่ ห้ามมิให้เกี่ยวข้อง และเรียกค่าเสียหายนั้น เป็นคำฟ้องที่แสดงโดยแจ้งชัด ซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นแล้ว ไม่จำต้องบรรยายว่าบุกรุกยื้อแย่งที่ตรงไหน เป็นเนื้อที่เท่าใด และมาทำอะไรกิน ซึ่งเป็นรายละเอียดที่โจทก์อาจนำสืบภายหลังได้ ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 545/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้องหย่าฐานหมิ่นประมาท: ฟ้องไม่เคลือบคลุมเมื่อบรรยายเหตุร้ายแรงครบถ้วน
คำฟ้องซึ่งกล่าวอ้างถึงเหตุหย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1500(2) ในเหตุหมิ่นประมาทนั้น ไม่เหมือนคำฟ้องที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) วรรคสองบัญญัติไว้เป็นพิเศษให้กล่าวถึงถ้อยคำพูดอันเกี่ยวกับข้อหมิ่นประมาทโดยบริบูรณ์ ฉะนั้น เมื่อฟ้องโจทก์บรรยายเหตุหย่าไว้ชัดว่าจำเลยด่าว่าหมิ่นประมาทโจทก์และบิดามารดาโจทก์ซึ่งเป็นการร้ายแรง ครบถ้วนตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1500(2) บังคับไว้ย่อมเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 หาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1025/2493)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 543/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีอาญา: การระบุฐานความผิดที่ชัดเจน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ หรือมิฉะนั้นจำเลยกระทำผิดฐานรับของโจร เช่นนี้เป็นฟ้องที่สมบูรณ์(อ้างฎีกาที่ 467/2491 และ 212/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 992/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของฟ้อง: คำฟ้องที่บรรยายประเด็นข้อพิพาทชัดเจนเพียงพอต่อการพิจารณา
โจทก์ฟ้องว่า อ. ซึ่งเป็นลูกจ้างที่โจทก์ไล่ออกจากงานได้ยื่นคำร้อง ต่อกรมแรงงานกระทรวงมหาดไทย จำเลยทั้งสามจึงมีคำสั่งให้โจทก์จ่ายเงินค่าจ้างทำงานล่วงเวลาจำนวนหนึ่งแก่ อ. โจทก์เห็นว่าคำสั่งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นไปตามตัวบทกฎหมายที่ให้อำนาจไว้ทั้งจำเลยฟังข้อเท็จจริงผิดจากที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งของจำเลยคำฟ้องเช่นนี้เป็นคำฟ้องที่ชัดแจ้งพอ ทั้งจำเลยให้การต่อสู้ไว้โดยละเอียดเกี่ยวกับสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ย่อมแสดงว่าจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 835/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องละเมิดต้องชัดเจนถึงการกระทำผิดของจำเลย การใช้ให้ผู้อื่นกระทำละเมิดต้องแสดงเจตนา
ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ผู้เป็นนายอำเภอกับจำเลยอีก 4 คนซึ่งเป็นปลัดอำเภอและตำรวจได้บังอาจกระทำผิดกฎหมายหลายบทหลายกระทงโดยจำเลยที่ 1 ได้ใช้ให้จำเลยอีก 4 คนนั้นกระทำละเมิดต่อโจทก์กล่าวคือใช้ให้จำเลยที่ 2 ไปเอาเรือนาคของกรมชลประทานซึ่งอยู่ในความครอบครองของโจทก์ โดยจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ได้ขู่จะยิงโจทก์ ปลุกปล้ำจับโจทก์ ใช้ปืนตีจนบาดเจ็บ และใส่กุญแจมือคุมตัวฝ่าฝูงชนให้อับอาย ขอให้จำเลยทั้งห้าร่วมกันใช้ค่าสินไหมทดแทน ดังนี้ เป็นคำฟ้องที่ไม่ชัดแจ้งว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีอำนาจใช้ให้จำเลยอื่นไปเอาเรือนาคและใช้ให้กระทำละเมิดดังกล่าวต่อโจทก์ จึงไม่มีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นซึ่งโจทก์จะฟ้องจำเลยฐานละเมิดได้ศาลย่อมไม่รับฟ้องสำหรับจำเลยที่ 1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 662/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การระบุช่วงเวลากระทำผิดที่ชัดเจนเพียงพอต่อการเข้าใจข้อหา
โจทก์บรรยายฟ้องในตอนแรกว่า เมื่อระหว่างวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2510 ถึงวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2511 เวลากลางวัน และกลางคืน จำเลยได้กระทำผิดต่อกฎหมายแล้วต่อมาบรรยายรายละเอียดว่าจำเลยคนไหนมีหน้าที่อย่างไร แล้วบรรยายว่าจำเลยได้รับมอบหมายจากสมาคมพุทธศาสนิกชนวัดไผ่ตันให้เป็นผู้ดำเนินการรับสมัครสมาชิกประเภทสามัญโดยรับเงินจากผู้สมัครส่งเป็นผลประโยชน์รายได้ของสมาคม แล้วบรรยายต่อไปว่า ตามวันเวลาดังกล่าวนี้ จำเลยทั้งสองได้รับเงินของสมาคมพุทธศาสนิกชนวัดไผ่ตันไว้จากประชาชนที่สมัครเป็นสมาชิกดังกล่าวแล้ว และเงินซึ่งสมาคมพุทธศาสนิกชนวัดไผ่ตันยืมจากบริษัทนฤมิตรธนาคมจำกัด แล้วจำเลยทั้งสองโดยเจตนาทุจริตได้บังอาจร่วมกันเบียดบังเงินค่าสมัคร... กับเงินยืมอันเป็นทรัพย์สินของสมาคมพุทธศาสนิกชนวัดไผ่ตัน.... ดังนี้ คำฟ้องโจทก์ได้บรรยายถึงวันเวลาที่บ่งว่าจำเลยกระทำผิดพอสมควรที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว เป็นคำฟ้องสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนในการระบุสถานที่กระทำผิดในคดีอาญา และการโต้แย้งข้อเท็จจริงที่ต้องห้ามตามกฎหมาย
คำบรรยายฟ้องที่ไม่ถือว่าเคลือบคลุม
กฎหมายห้ามมิให้โจทก์อ้างตัวจำเลยเป็นพยานโจทก์เท่านั้น มิได้ห้ามโจทก์อ้างผู้ที่กระทำผิดเช่นเดียวกับจำเลยมาเป็นพยาน
ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยแผ้วถางที่ดินที่ยังมีสภาพเป็นป่าอยู่โดยรอบ จำเลยฎีกาว่าจำเลยไม่ได้ถางที่ดินที่ยังมีสภาพเป็นป่า เป็นการถางที่มีประโยชน์ที่ไม่มีสภาพเป็นป่า ข้อเถียงดังนี้เป็นการเถียงข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
of 24