พบผลลัพธ์ทั้งหมด 191 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2848/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสัมพันธ์แบ่งรายได้ระหว่างคนขับแท็กซี่กับเจ้าของกิจการ ไม่เป็นนายจ้าง-ลูกจ้าง คดีไม่อยู่ในอำนาจศาลแรงงาน
จำเลยเป็นผู้ผูกขาดกิจการรถแท็กซี่ประจำโรงแรมมีบุคคลนำรถเข้ามาร่วมพร้อมทั้งพนักงานขับรถ ถ้าไม่มีพนักงานขับรถจำเลยจะจัดหาให้ พนักงานขับรถจะต้องจ่ายค่าจอดรถให้จำเลย และต้องจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงค่าน้ำมันหล่อลื่น ค่าซ่อมและค่าบำรุงรักษารถคนละครึ่งกับจำเลยพนักงานขับรถมีรายได้จากผู้ใช้บริการรถที่ตนขับซึ่งจำเลยจะเป็นผู้เก็บรวบรวมไว้เมื่อหักค่าใช้จ่ายตามที่ตกลงกันแล้วจำเลยจึงจัดแบ่งให้ทุกต้นเดือนโดยจำเลยมีสิทธิได้รับ 70 เปอร์เซ็นต์ พนักงานขับรถมีสิทธิได้รับ30 เปอร์เซ็นต์ ดังนี้ เงินที่พนักงานขับรถมีสิทธิจะได้รับมิใช่เงินของจำเลยมีลักษณะต่างไปจากค่าจ้างซึ่งเป็นเงินของนายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้าง และความสัมพันธ์ระหว่างจำเลยกับพนักงานขับรถก็มิใช่ความสัมพันธ์ในฐานะนายจ้างกับลูกจ้าง คดีจึงไม่อยู่ในอำนาจของศาลแรงงาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3682/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง กรณีความสัมพันธ์ฉันสามีภริยาและไม่ได้ซ่อนเร้น
กรณีจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 64 จะต้องได้ความว่า ผู้ที่จำเลยให้ที่พักอาศัย ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่รับอนุญาต และจำเลยก็ทราบแล้ว ทั้งต้องเป็นการให้เข้าพักอาศัยซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม
เมื่อปรากฏว่าจำเลยกับ ท. ซึ่งโจทก์ว่าเป็นคนต่างด้าวได้แต่งงานกันตามประเพณี และได้อยู่กินด้วยกันโดยเปิดเผยประกอบอาชีพทำสวนทำไร่และค้าขายจนมีบุตรด้วยกัน 3 คนจำเลยนำชื่อบุตรไปลงไว้ในทะเบียนบ้านว่าเป็นบุตรที่เกิดจาก ท. และให้ใช้นามสกุลของ ท. บ้านที่ ท.ถูกจับก็เป็นบ้านที่จำเลยกับ ท. ร่วมกันสร้างระหว่างอยู่กินเป็นสามีภริยากัน ในวันที่ตำรวจไปค้นบ้านจำเลยก็พบ ท. นอนเล่นอยู่หลังบ้านมิได้ซ่อนเร้นแต่อย่างใดจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยให้ ท. เข้าพักอาศัยหรือซ่อนเร้นเพื่อให้ ท. พ้นจากการจับกุม การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิด
เมื่อปรากฏว่าจำเลยกับ ท. ซึ่งโจทก์ว่าเป็นคนต่างด้าวได้แต่งงานกันตามประเพณี และได้อยู่กินด้วยกันโดยเปิดเผยประกอบอาชีพทำสวนทำไร่และค้าขายจนมีบุตรด้วยกัน 3 คนจำเลยนำชื่อบุตรไปลงไว้ในทะเบียนบ้านว่าเป็นบุตรที่เกิดจาก ท. และให้ใช้นามสกุลของ ท. บ้านที่ ท.ถูกจับก็เป็นบ้านที่จำเลยกับ ท. ร่วมกันสร้างระหว่างอยู่กินเป็นสามีภริยากัน ในวันที่ตำรวจไปค้นบ้านจำเลยก็พบ ท. นอนเล่นอยู่หลังบ้านมิได้ซ่อนเร้นแต่อย่างใดจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยให้ ท. เข้าพักอาศัยหรือซ่อนเร้นเพื่อให้ ท. พ้นจากการจับกุม การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3548/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างที่แท้จริง: ค่าจ้างจากงานเหมา ไม่ใช่ของจำเลยที่ 1
'นายจ้าง' ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงานลงวันที่ 16 เมษายน 2515 หมายถึงผู้ซึ่งตกลงรับลูกจ้างเข้าทำงานโดยจ่ายค่าจ้างให้ ซึ่งมีความหมายว่า งานที่ลูกจ้างทำนั้นจะต้องเป็นงานของนายจ้างเองและค่าจ้างก็ต้องหมายความถึงเงิน หรือเงินและสิ่งของของนายจ้างด้วย เมื่อปรากฏว่างานที่โจทก์รับจ้างทำเป็นงานที่จำเลยที่ 2 รับจ้างเหมามาทำและค่าจ้างก็เป็นเงินส่วนที่จำเลยที่ 1 จะต้องจ่ายให้จำเลยที่ 2 มิใช่งานและเงินของจำเลยที่ 1 ดังนี้ นายจ้างที่แท้จริงของโจทก์คือจำเลยที่ 2 หาใช่จำเลยที่ 1 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3548/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างที่แท้จริง: การจ่ายค่าจ้างจากเงินส่วนหนึ่งของค่าเหมาต่อ เป็นการจ้างงานโดยนายจ้างผู้รับเหมา
'นายจ้าง' ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 หมายถึงผู้ซึ่งตกลงรับลูกจ้างเข้าทำงานโดยจ่ายค่าจ้างให้ ซึ่งมีความหมายว่า งานที่ลูกจ้างทำนั้นจะต้องเป็นงานของนายจ้างเองและค่าจ้างก็ต้องหมายความถึงเงิน หรือเงินและสิ่งของของนายจ้างด้วย เมื่อปรากฏว่างานที่โจทก์รับจ้างทำเป็นงานที่จำเลยที่ 2 รับจ้างเหมามาทำและค่าจ้างก็เป็นเงินส่วนที่จำเลยที่ 1 จะต้องจ่ายให้จำเลยที่ 2 มิใช่งานและเงินของจำเลยที่ 1 ดังนี้ นายจ้างที่แท้จริงของโจทก์คือจำเลยที่ 2 หาใช่จำเลยที่ 1 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2940/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องหย่าเนื่องจากสามีอุปการะเลี้ยงดูผู้หญิงอื่น แม้ความสัมพันธ์จะเริ่มก่อนทราบเรื่อง การฟ้องหย่าทำได้
สามีอุปการะเลี้ยงดูหญิงอื่นโดยเปิดเผยฉันภริยา ภริยาฟ้องหย่าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2910/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสัมพันธ์นายจ้าง-ลูกจ้าง: การจ้างงานผ่านหัวหน้างาน ไม่ถือเป็นลูกจ้างโดยตรง
บริษัทจำเลยประกอบกิจการขนถ่ายสินค้าบนเรือเดินทะเล การตกลงให้มีการขนถ่ายสินค้าเป็นการตกลงระหว่างจำเลยกับหัวหน้าใหญ่ ซึ่งจะไปบอกหัวหน้าสายซึ่งมีกรรมกรอยู่ในสายของตนมาทำงาน การควบคุมการทำงานหรือสั่งการใดๆ ย่อมอยู่ที่หัวหน้าใหญ่และหัวหน้าสาย จำเลยกับกรรมกรไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ ต่อกัน ตั้งแต่การจ้าง การจ่ายค่าจ้าง และการควบคุมการทำงาน โจทก์ซึ่งเป็นกรรมกรขนถ่ายสินค้าจึงมิใช่ลูกจ้างของจำเลยไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชยจากจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2980/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกล่าววาจาหยาบคายระหว่างพี่น้อง ไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาทหรือเนรคุณ
จำเลยเป็นพี่โจทก์ โจทก์จำเลยโต้เถียงกันเนื่องจากโจทก์เรียกให้จำเลยโอนที่ดินที่โอนให้จำเลยแล้วคืน จำเลยจึงกล่าวว่า มึงยกให้กูแล้วมึงยังมีหน้ามาบอกให้กูแบ่งให้คนอื่นหรือ อ้ายสัตว์อ้ายขี้โกง โคตรพ่อโคตรแม่มึงเป็นเช่นนี้หรือ อ้ายคอมมิวนิสต์ใหญ่ มึงอยากได้ให้มึงไปฟ้องเอา ดังนี้ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวเป็นแต่เพียงการกล่าววาจาหยาบคายเท่านั้นเอง ความหมายและน้ำหนักของถ้อยคำดังกล่าวหาเป็นการทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงหรือเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531(2) ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2922/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างแรงงาน: นายจ้างที่แท้จริง แม้มีการจ่ายค่าจ้าง
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 575 เห็นได้ว่าสัญญาจ้างแรงงานจะเกิดขึ้นต่อเมื่อคู่กรณีได้ตกลงกัน การที่จำเลยเป็นผู้จ่ายค่าจ้างให้แก่โจทก์และโจทก์ทำงานให้จำเลย จะนับว่าจำเลยเป็นนายจ้างของโจทก์ยังไม่ได้ บริษัท ฟ. เป็นผู้ตกลงรับโจทก์เข้าทำงาน สัญญาจ้างแรงงานจึงเกิดขึ้นระหว่างบริษัทฟ.กับโจทก์ แม้บริษัท ฟ. มอบหมายให้โจทก์ไปทำงานในต่างประเทศรวมทั้งประเทศไทยกับจำเลยซึ่งเป็นสาขาประเทศไทยสัญญาจ้างแรงงานระหว่างโจทก์กับบริษัท ฟ. ก็ยังคงมีอยู่ตลอดมา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2862/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเป็นบิดามารดาและการรับบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย: บทบัญญัติใหม่ใช้ไม่ได้กับความสัมพันธ์เดิม
การเป็นบิดากับบุตรระหว่างนาย บ. กับผู้ร้องมีอยู่แล้วในวันที่ 16 ตุลาคม 2519 ซึ่งเป็นวันที่บทบัญญัติ บรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ได้ตรวจชำระใหม่ใช้บังคับ จึงนำบทบัญญัติบรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ตรวจชำระใหม่มาใช้บังคับ หาได้ ไม่
ปัญหาว่าการฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรจะต้องฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันที่บุตรบรรลุนิติภาวะนั้นศาลจะหยิบยกขึ้นพิจารณาได้ก็ต่อเมื่อผู้คัดค้านได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้มิฉะนั้นคดีไม่มีประเด็นข้อนี้
ปัญหาว่าการฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรจะต้องฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันที่บุตรบรรลุนิติภาวะนั้นศาลจะหยิบยกขึ้นพิจารณาได้ก็ต่อเมื่อผู้คัดค้านได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้มิฉะนั้นคดีไม่มีประเด็นข้อนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2399/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของเจ้าของรถเมื่อผู้อื่นขับรถชนบุคคลอื่น จำเป็นต้องแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ขับกับเจ้าของรถ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า หญิงไม่ทราบชื่อขับรถยนต์ของจำเลยชนโจทก์โดยประมาทเลินเล่อ ทำให้โจทก์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขอให้จำเลยร่วมรับผิดกับหญิงไม่ทราบชื่อใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าหญิงไม่ทราบชื่อนั้นมีฐานะความสัมพันธ์กับจำเลยอย่างไร เช่นมีฐานะเป็นลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลยและกระทำไปในทางการที่จ้างหรือในกิจการแทนจำเลย ดังนี้ เป็นฟ้องที่ไม่แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น ต้องยกฟ้อง