พบผลลัพธ์ทั้งหมด 177 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1846/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาจากฆ่าคนตายโดยเจตนาเป็นประมาท และผลกระทบต่อการพิพากษา
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนา ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยทำให้คนตายโดยประมาทถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จ จริงที่กล่าวในฟ้องต้องพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1846/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาจากฆ่าคนตายโดยเจตนาเป็นทำให้ตายโดยประมาท ทำให้ต้องยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนา ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยทำให้คนตายโดยประมาท ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง ต้องพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1698/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยจงใจเป็นละเมิด แม้เป็นฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ฟ้องได้ภายใน 10 ปี
จำเลยใช้มีดแทงเขาโดยจงใจ และเขาตายเพราะพิษบาดแผลที่จำเลยทำร้ายดังนี้แม้เป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ก็ย่อมเป็นการละเมิดตามที่กฎหมายบัญญัติไว้
จำเลยถูกฟ้องหาว่าฆ่าคนตายจนคดีถึงที่สุด ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยดังนี้กรณีเข้าตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 168 ซึ่งให้ฟ้องได้ภายใน 10 ปี
จำเลยถูกฟ้องหาว่าฆ่าคนตายจนคดีถึงที่สุด ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยดังนี้กรณีเข้าตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 168 ซึ่งให้ฟ้องได้ภายใน 10 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1698/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการกระทำละเมิดฐานฆ่าคนตาย แม้เป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ก็ยังเป็นละเมิดตามกฎหมาย และฟ้องได้ภายใน 10 ปี
จำเลยใช้มีดแทงเขาโดยจงใจ และเขาตายเพราะพิษบาดแผลที่จำเลยทำร้าย ดังนี้แม้เป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาก็ย่อมเป็นการละเมิดตามที่กฎหมายบัญญัติไว้
จำเลยถูกฟ้องหาว่า ฆ่าคนตาย จนคดีถึงที่สุด ศาลพิพากษาลงโทษจำเลย ดังนี้ กรณีเข้าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 วรรคสาม ซึ่งบัญญัติให้ถืออายุความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา168 ซึ่งให้ฟ้องได้ภายใน 10 ปี
จำเลยถูกฟ้องหาว่า ฆ่าคนตาย จนคดีถึงที่สุด ศาลพิพากษาลงโทษจำเลย ดังนี้ กรณีเข้าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 51 วรรคสาม ซึ่งบัญญัติให้ถืออายุความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา168 ซึ่งให้ฟ้องได้ภายใน 10 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1611/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา แต่เป็นการป้องกันตัวที่สมควรแก่เหตุ
ผู้ตายใช้มีดเหน็บปลายแหลมยาวราว 1 ศอกเศษเข้าไปฟันเขาถึงในห้อง เขาหลบไปจนติดฝาห้องและร้องห้ามก็ไม่ฟังและยังเข้าไปจะฟันอีก เขาจึงคว้ามีดข้างฝาแทงเพียง1 ทีถูกผู้ตายตาย ดังนี้ รูปคดีฟังได้ว่า เป็นการกระทำโดยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1390/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดฐานฆ่าคนตายจากการถูกยั่วโทสะ ไม่เข้าข่ายป้องกันตัว
พบภรรยากำลังทำชู้กับชายอื่นในอยู่ในห้อง จึงพังประตูเข้าไปชู้วิ่งหนีลงเรือนไปได้ จำเลยใช้ปืนยิงชู้จนหมดกระสุนถึง 5 นัด แล้วยังเอามีดฟันภรรยาของตนอีกอย่างไม่ไว้ชีวิต มีบาดแผลถึง 9 แผลถึงแก่ความตายทันที ดังนี้ไม่เรียกว่าเป็นการกระทำโดยป้องกันตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 50 แต่เรียกได้ว่ากระทำโดยถูกยั่วโทษะตามมาตรา 55
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความหมายของฟ้องฆ่าคนตายโดยเจตนา: การตีความคำว่า 'เจตนา' ในฟ้องอาญา
โจทก์ฟ้องกล่าวว่าจำเลยบังอาจสมคบกับพวกใช้ไม้ด้ามเสียมเป็นศาตราวุธตีทำร้ายร่างกายผู้เสียหายตายโดยเจตนาอ้างบทกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 มาเป็นบทขอให้ลงโทษ ดังนี้ ย่อมถือได้ว่า ฟ้องโจทก์มีความหมายเพียงพอให้เข้าใจได้ว่า โจทก์หาว่าจำเลยฆ่าผู้เสียหายตายโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1316/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดในการฎีกาขอโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา หากศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นที่ยกข้อหา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 ศาลชั้นต้นลงโทษ ตามมาตรา254 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษตามมาตรา 251 ดังนี้ถือว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในข้อที่ให้ยกข้อหาของโจทก์ในฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามมาตรา 249แล้ว โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 249 ไม่ได้ เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 (อ้างฎีกา773/2491)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: ความผิดฐานสมคบกันฆ่า vs. ฆ่าคนตายโดยเจตนา
ผู้ตายเมาสุราพูดจาท้าทายใครต่อใครในงาน อันเป็นการก่อกวนโทษะแก่บุคคลที่อยู่ที่นั่นทุกคน จำเลยที่ 1-2-3 มีส่วนเป็นเจ้าของงานแต่ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตาย จำเลยที่ 1 ใช้ไม้ตีผู้ตาย 1 ที ไม่ถึงบาดเจ็บ จำเลยที่ 2 เอามีดฟันอีก 1 ทีถึงบาดเจ็บ แล้วจำเลยที่ 3 เอามีดแทงผู้ตาย 1 ที ถูกที่หน้าท้องไส้ทะลักออกมาและถึงแก่ความตาย เพราะบาดแผลที่ถูกแทงภายหลังนี้แบบเดียวดังนี้จะฟังว่าจำเลยทั้ง 3 คนสมคบกันฆ่าผู้ตายยังไม่ถนัด เพราะการที่จำเลยที่ 3 เข้ามาและใช้มีดแทงผู้ตายภายหลังนั้น จำเลยที่ 1-2 อาจไม่รู้เห็นด้วยก็ได้ จำเลยที่ 3 ควรมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาคนเดียวส่วนจำเลยที่ 1-2 ควรมีผิดแต่เพียงเท่าที่ตนกระทำแต่ละคน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายในเหตุการณ์ต่อสู้ การพิจารณาเจตนาและโทษฐานฆ่าคนตาย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานสมคบกันฆ่าคนตายโดยเจตนาแต่ทางพิจารณาได้ความว่า ผู้ตายทั้งสองคนเป็น ปรปักษ์คู่ต่อสู้กัน จำเลยเป็นพรรคพวกผู้ตายฝ่ายหนึ่ง ได้เข้าต่อสู้กับผู้ตายอีกฝ่ายหนึ่งกับพรรคพวก โดยใจสมัครเพราะมีการท้ายทายกันก่อน รูปคดีไม่แน่ว่า จำเลยมีเจตนาจะฆ่ากัน จำเลยบางคนต่างวิ่งมาช่วยในที่เกิดเหตุ จำเลยกระทำหนักมือบ้าง เบามือบ้าง ควรวางโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายไม่เจตนา
จำเลยคนหนึ่งมีไม้ตะบอง ส่วนจำเลยคนอื่นมีขวานและมีดซุย แต่บาดแผลของผู้ตายล้วนแต่บาดแผลเรียบ แพทย์ลงความเห็นว่า ถูกของแข็งมีคม ไม่มีรอยถูกแผลตี ดังนี้ฟังไม่ได้ว่าจำเลยนั้นได้ใช้ไม้ตะบองตีผู้ตายด้วย
บิดาจำเลยสมัครใจต่อสู้และทำร้ายกับผู้ตาย จำเลยเข้าช่วยบิดาทำร้ายผู้ตาย ดังนี้ จำเลยจะแก้ตัวว่าทำโดยป้องกันบิดา ไม่ได้เพราะบิดาจำเลยเป็นฝ่ายผิดเหมือนกัน./
จำเลยคนหนึ่งมีไม้ตะบอง ส่วนจำเลยคนอื่นมีขวานและมีดซุย แต่บาดแผลของผู้ตายล้วนแต่บาดแผลเรียบ แพทย์ลงความเห็นว่า ถูกของแข็งมีคม ไม่มีรอยถูกแผลตี ดังนี้ฟังไม่ได้ว่าจำเลยนั้นได้ใช้ไม้ตะบองตีผู้ตายด้วย
บิดาจำเลยสมัครใจต่อสู้และทำร้ายกับผู้ตาย จำเลยเข้าช่วยบิดาทำร้ายผู้ตาย ดังนี้ จำเลยจะแก้ตัวว่าทำโดยป้องกันบิดา ไม่ได้เพราะบิดาจำเลยเป็นฝ่ายผิดเหมือนกัน./