พบผลลัพธ์ทั้งหมด 134 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 117/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา แม้ผู้กู้ยินยอม ก็ยังถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
ถ้าผู้ให้กู้ฝ่าฝืน พ.ร.บ. ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา แล้วก็ย่อมมีความผิด ความยินยอมของผู้กู้หาเป็นเหตุสำคัญที่จะทำให้ผู้ให้กู้พ้นความผิดตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 117/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยเกินอัตรา: ความยินยอมของผู้กู้ไม่เป็นเหตุให้ผู้ให้กู้พ้นความผิด
ถ้าผู้ให้กู้ฝ่าฝืน พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราแล้วก็ย่อมมีความผิดความยินยอมของผู้กู้หาเป็นเหตุสำคัญที่จะทำให้ผู้ให้กู้พ้นความผิดตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบข้อพิพาทเรื่องดอกเบี้ยเกินอัตราในสัญญากู้ ไม่เป็นการแก้ไขสัญญา แต่เป็นการแสดงว่าหนี้ไม่สมบูรณ์
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ไป 15,000 บาทและว่าจะใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยตามวันกำหนดบัดนี้ถึงวันกำหนดจำเลยไม่ชำระ ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การรับว่าได้กู้เงินโจทก์จริงแต่กู้และรับเพียง 10,000 บาทที่เขียนในสัญญาเป็น 15,000 บาทก็โดยโจทก์เจตนาคิดเอาดอกเบี้ยเกินอัตราในกฎหมายบวกไว้อีก 5,000 บาท สัญญากู้จึงเป็นโมฆะฟ้องร้องบังคับจำเลยไม่ได้
ตามฟ้องและคำให้การของจำเลยดังกล่าวฝ่ายจำเลยมีสิทธินำพยานเข้าสืบได้ว่าโจทก์ได้คิดดอกเบี้ยเกินอัตราในกฎหมายบวกไว้ในต้นเงินกู้ด้วยเพราะมิใช่เป็นการสืบแก้สัญญาแต่เป็นการสืบเพื่อให้เห็นว่าหนี้ส่วนนั้นไม่สมบูรณ์บังคับกันไม่ได้ ศาลจึงไม่ควรด่วนงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายแล้วพิพากษาแต่จะต้องให้สืบพยานกันต่อไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคสอง
จำเลยให้การรับว่าได้กู้เงินโจทก์จริงแต่กู้และรับเพียง 10,000 บาทที่เขียนในสัญญาเป็น 15,000 บาทก็โดยโจทก์เจตนาคิดเอาดอกเบี้ยเกินอัตราในกฎหมายบวกไว้อีก 5,000 บาท สัญญากู้จึงเป็นโมฆะฟ้องร้องบังคับจำเลยไม่ได้
ตามฟ้องและคำให้การของจำเลยดังกล่าวฝ่ายจำเลยมีสิทธินำพยานเข้าสืบได้ว่าโจทก์ได้คิดดอกเบี้ยเกินอัตราในกฎหมายบวกไว้ในต้นเงินกู้ด้วยเพราะมิใช่เป็นการสืบแก้สัญญาแต่เป็นการสืบเพื่อให้เห็นว่าหนี้ส่วนนั้นไม่สมบูรณ์บังคับกันไม่ได้ ศาลจึงไม่ควรด่วนงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายแล้วพิพากษาแต่จะต้องให้สืบพยานกันต่อไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 708/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคิดดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมาย แม้ในสัญญาจะระบุหรือไม่ก็ตาม ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา
ความผิดตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2475 มาตรา 3 นั้น ความสำคัญอยู่ที่การให้กู้ดดยเรียก หรือคิดเอาดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ เช่นทำหนังสือสัญญาในการกู้ยืมเงินว่าให้ดอกเบี้ยตาม กฎหมาย,หรือในเอกสารกู้ยืมเงินจะมิได้กล่าวถึงเรื่องดอกเบี้ยเลย แต่ในทางปฏิบัติผู้ให้กู้ได้คิดหรือเรียกเอาดอก เบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายได้กำหนดไว้ก็เป็นความผิดตามกฎหมายแล้ว./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 708/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคิดดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมาย แม้ในสัญญาจะระบุหรือไม่ก็ตาม ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา
ความผิดตาม พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2475มาตรา 3 นั้น ความสำคัญอยู่ที่การให้กู้โดยเรียกหรือคิดเอาดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ เช่นทำหนังสือสัญญาในการกู้ยืมเงินว่าให้ดอกเบี้ยตามกฎหมายหรือในเอกสารกู้ยืมเงินจะมิได้กล่าวถึงเรื่องดอกเบี้ยเลยแต่ในทางปฏิบัติผู้ให้กู้ได้คิดหรือเรียกเอาดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายได้กำหนดไว้ก็เป็นความผิดตามกฎหมายแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 607/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยเกินอัตราในสัญญากู้ยืม: แยกพิจารณาต้นเงินและดอกเบี้ยได้, การใช้เงินกู้ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
ตกลงกู้เงิน 40000 บาทคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 บาทต่อเดือนเป็นเวลา 10 เดือนเป็นเงิน 2000 บาท เอารวมไว้เป็นเงินกู้ด้วย เมื่อกรณีเป็นที่พึงสันนิษฐานได้ว่า คู่สัญญามีเจตนาที่จะแยกการกู้เงินและเรียกดอกเบี้ยออกต่างหากจากกันแล้ว ส่วนดอกเบี้ยที่เรียกเกินอัตราก็ตกเป็นโมฆะ แต่ต้นเงินกู้หาเป็นโมฆะด้วยไม่
การใช้เงินกู้ยืมที่มีหลักฐานเป็นหนังสือนั้น จะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ให้ยืมมา แสดงหรือได้เวนคืนเอกสาร หรือได้แทงเพิกถอนลงไว้แล้วเท่านั้น ทั้งนี้จะเป็นตัวผู้กู้ชำระเองหรือบุคคลที่ 3 เป็นผู้ชำระก็เช่นเดียวกัน เพราะมาตรา 653 มิได้บัญญัติยกเว้นถึงตัวบุคคลผู้ชำระหนี้ไว้เลย
การใช้เงินกู้ยืมที่มีหลักฐานเป็นหนังสือนั้น จะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ให้ยืมมา แสดงหรือได้เวนคืนเอกสาร หรือได้แทงเพิกถอนลงไว้แล้วเท่านั้น ทั้งนี้จะเป็นตัวผู้กู้ชำระเองหรือบุคคลที่ 3 เป็นผู้ชำระก็เช่นเดียวกัน เพราะมาตรา 653 มิได้บัญญัติยกเว้นถึงตัวบุคคลผู้ชำระหนี้ไว้เลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยเกินอัตรา: โมฆะเฉพาะดอกเบี้ย แต่ต้นเงินไม่เป็นโมฆะ
การกู้เงินเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรานั้น ในส่วนดอกเบี้ยตกเป็นโมฆะทั้งหมด แต่ต้นเงินไม่เป็นโมฆะ ผู้ให้กู้ฟ้องเรียกต้นเงินได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 643/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้เงินดอกเบี้ยเกินอัตรา: ผู้กู้ไม่เป็นผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
ในเรื่องกู้เงินเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรานั้น ไม่นับว่าผู้กู้เป็นผู้เสียหายจึงไม่มีอำนาจฟ้อง (อ้างฎีกาที่ 1015/2479)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเงินกู้สมบูรณ์ แม้เรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ผู้กู้ไม่ยินยอม ไม่ถือว่าเสียหายฟ้องร้องได้
สัญญากู้เดิมสมบูรณ์ ต่อมาผู้ให้กู้เรียกเอาดอกเบี้ยเกินอัตรา แต่ผู้กู้ไม่ยอมให้ดังนี้ไม่ถือว่าผู้ให้กู้มีความผิด ไม่ถือว่าผู้กู้เป็นผู้เสียหายอันจะฟ้องร้องได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยเกินอัตราไม่ถือเป็นความผิด-ผู้เสียหาย: ผู้กู้ไม่เสียหายหากไม่ยินยอม
สัญญากู้เดิมสมบูรณ์ ต่อมาผู้ให้กู้เรียกเอาดอกเบี้ยเกินอัตรา แต่ผู้กู้ไม่ยอมให้ ดังนี้ไม่ถือว่าผู้ให้กู้มีความผิด ไม่ถือว่าผู้กู้เป็นผู้เสียหายอันจะฟ้องร้องได้