พบผลลัพธ์ทั้งหมด 156 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 935/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหย่าโดยตกลง และผลกระทบต่อทรัพย์สินหลังหย่า โดยการกลับมาคบหากันใหม่ไม่ทำให้สถานะสามีภรรยากลับคืน
เป็นสามีภรรยากันก่อนใช้ ป.พ.พ. การหย่าขาดจึงเป็นเพียงตกลงยินยอมทำหนังสือหย่ากันเองก็ใช้ได้ แม้ต่อมาภายหลังจะกลับมาได้เสียกันใหม่ก็จะถือว่ายังคงเป็นสามีภรรยากันตลอดมาหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 935/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหย่าก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การตกลงหย่าและแบ่งทรัพย์สมบัติชอบด้วยกฎหมาย แม้จะกลับมาอยู่กินฉันสามีภรรยาภายหลัง
เป็นสามีภรรยากันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การหย่าขาดจึงเป็นเพียงตกลงยินยอมทำหนังสือหย่ากันเองก็ใช้ได้ แม้ต่อมาภายหลังจะกลับมาได้เสียกันใหม่ก็จะถือว่ายังคงเป็นสามีภรรยากันตลอดมาหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ตกลงเพิ่มค่าเช่าโดยยินยอม แม้จะเกินบัญญัติ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ก็ไม่เป็นโมฆะ ผู้เช่ายินยอมถือเป็นการตกลงโดยชอบ
เดิมจำเลยเช่าห้องพิพาทไว้เดือนละ 60 บาท แต่มาห้องพิพาทโอนกรรมสิทธิไปยังบุคคลภายนอก จำเลยยินยอมเช่าจากบุคคลภายนอกเดือนละ 200 บาท ที่จำเลยยอมเสียให้ จำเลยไม่ยอมชำระให้เป็นเวลากว่าปีเศษดังนี้จำเลยได้ชื่อว่าผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าติดต่อกันเกินกว่า 2 เดือนโจทก์มีอำนาจให้จำเลยออกจากห้องพิพาทได้เพราะสัญญายอมเสียค่าเช่า 200 บาท - เดิมนั้น,เป็นสัญญาที่สมบูรณ์ไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ 2489 ม.10,11,13 และ ป.พ.พ. ม.113.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 623/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาปราณีประนอมยอมความต้องทำเป็นหนังสือ ประเด็นอำนาจฟ้อง
ผู้เช่าตึกพิพาทตาย ทายาทตกลงกันว่า ถ้าฝ่ายใดได้เช่าตึกนั้นต่อไปก็จะต้องใช้ค่าทดแทนให้อีกฝ่ายหนึ่งมิฉะนั้นจะต้องไปขอรับโอนการเช่าในนามของทายาทร่วมกัน ข้อตกลงนี้เป็นสัญญาปราณีประนอมยอมความต้องทำเป็นหนังสือ
โจทก์ฟ้องขอให้ปฏิบัติตามข้อตกลง จำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้ตกลงกับโจทก์ แม้ไม่ได้ต่อสู้ว่า ข้อตกลงนั้นต้องทำเป็นหนังสือเป็นสัญญาปราณีประนอมยอมความก็ตาม ศาลก็ยกประเด็นเรื่องไม่ได้ทำเป็นหนังสือขึ้นพิจารณาได้ เพราะเป็นเรื่องอำนาจฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ปฏิบัติตามข้อตกลง จำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้ตกลงกับโจทก์ แม้ไม่ได้ต่อสู้ว่า ข้อตกลงนั้นต้องทำเป็นหนังสือเป็นสัญญาปราณีประนอมยอมความก็ตาม ศาลก็ยกประเด็นเรื่องไม่ได้ทำเป็นหนังสือขึ้นพิจารณาได้ เพราะเป็นเรื่องอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 580/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบทำผิดอาญา: การกระทำของบุคคลอื่นย่อมไม่ถือว่าเป็นการสมคบ หากไม่มีเจตนาหรือการตกลงร่วมกันตั้งแต่แรก
มาด้วยกัน 3 คน จำเลยที่ 1 ผู้เดียวฟันผู้เสียหายแล้วคนทั้งสามก็วิ่งหนีไปด้วยกัน เป็นเรื่องเฉพาะตัวจำเลยที่ 1 คนเดียวเท่านั้น เพราะอีก 2 คน ไม่ทราบด้วยไม่ใช่เป็นเรื่องสมคบกันมากระทำความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตกลงประนีประนอมเรื่องมรดกต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือจึงจะบังคับคดีได้
ทายาทไปพูดขอส่วนแบ่งมรดกกับทายาทผู้ครอบครองมรดกอยู่ทายาทผู้ครอบครองมรดกพูดรับรองว่ารอเมื่อทำศพแล้วหรือรอสร้างพระไตรปิฎกแล้วแต่ก็มิได้ตกลงกันว่าจะได้รับเท่าใดหรือได้ส่วนอย่างไรการรับรองเช่นว่านี้ถ้าถือว่าเป็นการตกลงประนีประนอมระงับข้อพิพาททรัพย์มรดกต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือจึงจะฟ้องร้องบังคับคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งทรัพย์สินตามคำพิพากษา: ศาลมีอำนาจสั่งขายทอดตลาดหากตกลงแบ่งไม่ได้
ป.ม.แพ่ง ม.1364 ไม่ใช่บทบังคับว่าศาลจำต้องสั่งให้มีการแบ่งตัวทรัพย์ที่พิพาทกันเสมอไป
ศาลได้พิพากษาให้แบ่งที่พิพาทระหว่างโจทก์จำเลยตามส่วน ถ้าไม่สามารถแบ่งได้ ให้ประมูลราคาระหว่างโจทก์จำเลย แล้วแบ่งเงินกันหากยังไม่ตกลงกันได้อีกก็ให้ ขายทอดตลาดแบ่งเงินดังนี้ เมื่อโจทก์จำเลยไม่สามารถตกลงกันได้ทั้งในเรื่องที่ดินและประมูลราคากัน ศาลก็ต้องสั่งให้ขายทอดตลาดเอาเงินแบ่งกัน
ศาลได้พิพากษาให้แบ่งที่พิพาทระหว่างโจทก์จำเลยตามส่วน ถ้าไม่สามารถแบ่งได้ ให้ประมูลราคาระหว่างโจทก์จำเลย แล้วแบ่งเงินกันหากยังไม่ตกลงกันได้อีกก็ให้ ขายทอดตลาดแบ่งเงินดังนี้ เมื่อโจทก์จำเลยไม่สามารถตกลงกันได้ทั้งในเรื่องที่ดินและประมูลราคากัน ศาลก็ต้องสั่งให้ขายทอดตลาดเอาเงินแบ่งกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพูดคุยเรื่องแบ่งมรดกยังไม่ถือเป็นการตกลงหรือรับสภาพหนี้ ทำให้ไม่เกิดผลทางกฎหมายและอายุความไม่หยุดนิ่ง
ผูรับมรดกคนหนึ่งพูดถามผู้รับมรดกซึ่งครอบครองทรัพย์มรดกอยู่ว่า เมื่อไรจะแบ่งมรดกผู้ครอบครองทรัพย์มรดกตอบว่าเอาไว้เผาศพผู้ตายเสียก่อน ดังนี้ ย่อมไม่ใช่เป็นการตกลงแบ่งมรดกกันแล้ว คงเป็นแต่เพียงพูดกันเรื่องจะแบ่งมรดกเท่ารนั้น ใช่เป็นการรับสภาพหนี้ตามมาตรา 172 แห่ง ป.ม.แพ่งฯ อันจะทำให้อายุความสดุดหยุดลง
(อ้างฎีกาที่ 30/2481)
(อ้างฎีกาที่ 30/2481)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตกลงแบ่งมรดกยังไม่สมบูรณ์ อายุความไม่สะดุด
ผู้รับมรดกคนหนึ่งพูดถามผู้รับมรดกซึ่งครอบครองทรัพย์มรดกอยู่ว่าเมื่อไรจะแบ่งมรดกผู้ครอบครองทรัพย์มรดกตอบว่าเอาไว้เผาศพผู้ตายเสียก่อน ดังนี้ย่อมไม่ใช่เป็นการตกลงแบ่งมรดกกันแล้ว คงเป็นแต่เพียงพูดกันเรื่องจะแบ่งมรดกเท่านั้น ไม่ใช่เป็นการรับสภาพหนี้ตามมาตรา 172 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อันจะทำให้อายุความสะดุดหยุดลง(อ้างฎีกาที่ 30/2481)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานสัญญาต้องรู้เห็นการตกลง: หนังสือหย่าที่พยานไม่ทราบข้อความ หรือไม่ยืนยันลายเซ็น ถือเป็นหลักฐานฟังไม่ได้
หนังสือหย่ามีพยาน 2 คนเซ็นชื่อคนหนึ่งเซ็นเมื่อยังไม่มีลายเซ็นของใครเลย ต่อมาใครจะเซ็นชื่ออีกหรือไม่ ก็ไม่ทราบดังนี้ จะว่าพยานคนนั้นเป็นพยานรู้เห็นในการตกลงทำหนังสือหย่านั้นไม่ได้
พยานอีกคนหนึ่งเซ็นชื่อให้ในภายหลังและยืนยันไม่ได้ว่าลายเซ็นของคู่สัญญาและพยานในหนังสือนั้นจะเป็นลายเซ็นที่แท้จริงดังนี้ จะว่าพยานคนหลังนี้รู้เห็นว่าคู่สัญญาได้ตกลงกันตามหนังสือก็ไม่ได้อีก รวมความว่าหนังสือนั้นยังเรียกไม่ได้ว่าได้มีพยานรู้เห็นตามกฎหมาย
พยานอีกคนหนึ่งเซ็นชื่อให้ในภายหลังและยืนยันไม่ได้ว่าลายเซ็นของคู่สัญญาและพยานในหนังสือนั้นจะเป็นลายเซ็นที่แท้จริงดังนี้ จะว่าพยานคนหลังนี้รู้เห็นว่าคู่สัญญาได้ตกลงกันตามหนังสือก็ไม่ได้อีก รวมความว่าหนังสือนั้นยังเรียกไม่ได้ว่าได้มีพยานรู้เห็นตามกฎหมาย