พบผลลัพธ์ทั้งหมด 109 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4723/2553
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนเชิดและความผูกพันตามสัญญา: โจทก์ต้องรับผิดต่อการบอกเลิกสัญญาโดยตัวแทน
ส. เป็นบุตรของ ว. และ ฉ. ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของโจทก์ โดย ส. เป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดของโจทก์อยู่ด้วย ทั้งยังมีหน้าที่ขับรถยนต์คันหนึ่งและเป็นผู้ประสานงานตามสัญญาว่าจ้างเหมารถรับส่งพนักงานระหว่างโจทก์กับจำเลยตลอดมา ส่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างโจทก์กับ ส. ว่า โจทก์เชิด ส. ออกแสดงเป็นตัวแทน โจทก์จึงต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกผู้สุจริตเสมือนว่า ส. เป็นตัวแทนของตนตาม ป.พ.พ. มาตรา 821 ประกอบมาตรา 1042 ซึ่งบัญญัติว่า ความเกี่ยวพันระหว่างหุ้นส่วนผู้จัดการกับผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายอื่นนั้น ท่านให้บังคับด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยตัวแทน ดังนั้น การที่ ส. ลงลายมือชื่อในหนังสือแจ้งเลิกสัญญากับจำเลยย่อมผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นตัวการ
แม้จำเลยจะให้การต่อสู้คดีว่า จำเลยไม่ได้ผิดสัญญาเพราะโจทก์บอกเลิกสัญญาแล้ว แต่ได้ความว่าตัวแทนเชิดของโจทก์เป็นผู้บอกเลิกสัญญา ก็ไม่ถือเป็นเรื่องนอกประเด็นหรือนอกคำให้การ
แม้จำเลยจะให้การต่อสู้คดีว่า จำเลยไม่ได้ผิดสัญญาเพราะโจทก์บอกเลิกสัญญาแล้ว แต่ได้ความว่าตัวแทนเชิดของโจทก์เป็นผู้บอกเลิกสัญญา ก็ไม่ถือเป็นเรื่องนอกประเด็นหรือนอกคำให้การ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6468/2552
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนเชิด, การรับผิดในหนี้, การโอนหนี้, การฝากเงิน, ตั๋วสัญญาใช้เงิน
แม้โจทก์จะฟ้องว่า โจทก์ทั้งสามได้นำเงินไปฝากไว้กับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งได้ร่วมกันรับฝากเงินจากโจทก์โดยได้ร่วมกันออกตั๋วสัญญาใช้เงินพิพาทให้แก่โจทก์เป็นที่เห็นได้ว่า จำเลยที่ 2 ย่อมมีส่วนร่วมเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการฝากเงินของโจทก์โดยตรงด้วย แม้ตั๋วสัญญาใช้เงินจะออกในนามของจำเลยที่ 1 ก็ตาม ทั้งตามพฤติการณ์ที่จำเลยที่ 1 ยอมให้จำเลยที่ 2 นำตั๋วสัญญาใช้เงินพิพาทของตนมาใช้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินพิพาทให้แก่โจทก์ก็เพื่อจำเลยที่ 2 จะได้มีส่วนได้รับประโยชน์จากเงินฝากของโจทก์ทั้งสาม นั่นเอง จำเลยที่ 1 จึงเป็นตัวแทนเชิดของจำเลยที่ 2 และยอมให้จำเลยที่ 2 เชิดตนออกเป็นตัวแทน แม้โจทก์จะมิได้กล่าวในฟ้องเกี่ยวกับการเป็นตัวแทน โจทก์ก็นำสืบในเรื่องนี้ได้เพราะเป็นการนำสืบข้อเท็จจริงในรายละเอียด เนื่องจากในการติดต่อฝากเงินและทำตั๋วสัญญาใช้เงินพิพาทกันซึ่งอาจทำได้โดยตนเองหรือมีตัวแทนไปติดต่อทำสัญญาแทนก็ได้ จึงไม่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6313/2552
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนเชิดสัญญาเช่า: จำเลยผูกพันแม้ไม่ใช่เจ้าของห้อง, ศาลพิพากษายืนตามสัญญา
แม้จำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยมิได้เป็นผู้ให้เช่าห้องพิพาท มิได้รับเงินจากโจทก์การกระทำของ ม. เป็นการเรียกร้องแทนเจ้าของห้องในฐานะนายหน้า จำเลยมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย โดยคำให้การของจำเลยมิได้ตั้งประเด็นเรื่องค่าเช่าว่า โจทก์จะต้องชำระค่าเช่าห้องให้แก่จำเลยในฐานะคู่สัญญาฝ่ายผู้ให้เช่าแทนเจ้าของห้องก็ตาม แต่ก็เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นคำให้การที่ปฏิเสธความรับผิดตามคำฟ้องของโจทก์อย่างสิ้นเชิง การที่ศาลชั้นต้นตั้งประเด็นข้อพิพาทวินิจฉัยไว้ในคำพิพากษาว่า ม. เป็นตัวแทนของจำเลยหรือเป็นนายหน้าของเจ้าของห้องในการนำห้องดังกล่าวออกให้โจทก์เช่าโดยมีประเด็นข้อพิพาทที่ต่อเนื่องว่าจำเลยจะต้องคืนเงินจำนวนตามที่ฟ้องให้แก่โจทก์หรือไม่เพียงใด และการที่ศาลทั้งสองวินิจฉัยว่า ม. เป็นตัวแทนเชิดของจำเลยในการนำห้องออกให้โจทก์เช่า ถือได้ว่าโจทก์ได้เช่าห้องดังกล่าวจากจำเลยเพราะผู้ให้เช่าไม่จำต้องเป็นเจ้าของห้องที่ให้เช่า ประกอบกับจำเลยมีวัตถุประสงค์ให้เจ้าของร่วมนำห้องที่จะให้เช่ามามอบให้จำเลยเป็นผู้บริหารจัดการเองเพื่อประโยชน์ต่อเจ้าของรวมทุกคน จำเลยจึงต้องผูกพันกับการเช่าห้องดังกล่าวด้วย เมื่อโจทก์ขอคืนเงินในการเช่าห้องโดยไม่ปรากฏว่าฝ่ายใดมีการผิดสัญญาและขอให้สิทธิเลิกสัญญาแก่กัน จึงถือได้ว่า ม. ในฐานะตัวแทนของจำเลยยอมให้โจทก์ส่งมอบห้องคืนเช่นนี้แล้ว ย่อมมีผลให้การเช่าห้องเป็นอันเลิกกันและคู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งกลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิมซึ่งโจทก์ต้องรับผิดชำระค่าเช่าในระยะเวลาที่โจทก์อยู่ในห้องเช่าดังกล่าวให้แก่จำเลย จึงเป็นคำวินิจฉัยที่อยู่ในประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีโดยตรงชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 142 (2) มิใช่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นหรือขัดกับข้อเท็จจริงในสำนวน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5683/2552
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนเชิด-ตัวการ: ความรับผิดในสัญญาซื้อขายเมื่อปรากฏพฤติการณ์บ่งชี้การยินยอมให้แสดงเจตนา
แม้จำเลยไม่ได้มอบหมายหรือแต่งตั้งจำเลยร่วมเป็นตัวแทนซื้อปุ๋ยรายพิพาทกับโจทก์ และการซื้อปุ๋ยของจำเลยร่วมไม่ได้ปฏิบัติตามข้อบังคับของจำเลยข้อ 56 แต่พฤติการณ์ที่จำเลยปล่อยให้จำเลยร่วมแสดงออกเป็นตัวแทนของจำเลยในการซื้อขายปุ๋ยกับโจทก์ในระหว่างปี 2537 ถึงปี 2538 ก่อนการซื้อขายรายพิพาทถึง 5 ครั้ง มีการออกใบกำกับสินค้าและใบเสร็จรับเงินรับเงินให้กันในนามของโจทก์และจำเลยโดยจำเลยไม่ได้ทักท้วง ประกอบกับ ส. ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกก็เคยซื้อปุ๋ยจากจำเลยมาก่อน 7 ถึง 8 ครั้ง โดยติดต่อกับจำเลยร่วม ได้ชำระราคาครบถ้วนและยืนยันว่าซื้อปุ๋ยรายพิพาทจำนวน 1,000 กระสอบ จากจำเลยโดยติดต่อผ่านจำเลยร่วม เมื่อครบกำหนดชำระเงินงวดแรกก็ได้ชำระค่าสินค้าให้แก่พนักงานเก็บเงินของจำเลย ทั้งจำเลยออกหลักฐานการชำระเงินค่าสินค้าลงชื่อพนักงานของจำเลยพร้อมประทับตราของจำเลยตามใบเสร็จรับเงิน ซึ่ง ว. พนักงานของจำเลยมาเบิกความเป็นพยานโจทก์ยอมรับในข้อนี้และยังเบิกความด้วยว่า จำเลยร่วมมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการของจำเลยมีอำนาจสูงสุดในการจัดการแทนจำเลย แสดงว่าจำเลยร่วมเป็นพนักงานที่มีตำแหน่งสูงสุดของจำเลย ตามพฤติการณ์ฟังได้ว่าจำเลยรู้แล้วยอมให้จำเลยร่วมเชิดตัวเองออกแสดงเป็นตัวแทนของจำเลยว่ามีอำนาจสั่งซื้อขายสินค้ากับบุคคลภายนอกแทนจำเลยได้ จำเลยซึ่งเป็นตัวการจึงต้องรับผิดชำระค่าปุ๋ยที่ค้างชำระให้แก่โจทก์ที่เป็นบุคคลภายนอกผู้สุจริตเสมือนว่าจำเลยร่วมเป็นตัวแทนของจำเลยตาม ป.พ.พ. มาตรา 821 ส่วนจำเลยร่วมเป็นเพียงตัวแทนเชิดของจำเลยและได้กระทำไปภายในขอบอำนาจไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเป็นส่วนตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5587/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนเชิด/ตัวการ: ความรับผิดในสัญญาซื้อขายปลา การฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายภายในอายุความ
การผลิตปลากระป๋อง การสั่งปลาและการรับมอบปลาจากโจทก์ จำเลยรับว่าเกิดในที่ทำการของจำเลย แต่อ้างว่าเป็นการกระทำโดยส่วนตัวของ พ. และ ร. การที่จำเลยยินยอมให้ พ. และ ร. ใช้สถานที่ของจำเลยประกอบการผลิตปลากระป๋อง โดยเครื่องมือการผลิตเครื่องมือสื่อสารติดต่อกับโจทก์ทั้งเครื่องโทรศัพท์และเครื่องโทรสาร รวมทั้งแบบฟอร์มใบสำคัญจ่ายซึ่งเป็นหลักฐานแสดงการยอมรับว่าเป็นหนี้ของจำเลย ประกอบกับวัตถุประสงค์ของจำเลยตามที่จดทะเบียนระบุว่า จำเลยประกอบกิจการค้าอาหารทะเลบรรจุกระป๋อง ย่อมทำให้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเข้าใจโดยสุจริตว่า พ. และ ร. กระทำการในนามของจำเลยหรืออีกนัยหนึ่งจำเลยเป็นผู้ประกอบกิจการดังกล่าวเอง เป็นการที่จำเลยเชิด พ. และ ร. ออกเป็นตัวแทนหรือยินยอมให้ พ. และ ร. เชิดตัวเองเป็นตัวแทน จำเลยจึงต้องรับผิดในผลแห่งการกระทำของ พ. และ ร. ในฐานะตัวการ ต้องชำระค่าปลาให้แก่โจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 821
แม้ฟ้องจะมิได้กล่าวเกี่ยวกับการเป็นตัวการตัวแทน โจทก์ก็นำสืบเรื่องนี้ได้เพราะเป็นการนำสืบข้อเท็จจริงในรายละเอียด เนื่องจากในการติดต่อทำสัญญาซื้อขายกันอาจทำได้โดยตนเองหรือมีตัวแทนไปติดต่อทำสัญญาซื้อขายแทนกันก็ได้ และศาลวินิจฉัยปัญหาข้อนี้ได้ ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น
โจทก์ประกอบธุรกิจขายปลา ทำสัญญาขายปลาให้จำเลยนำไปใช้ผลิตปลากระป๋องออกจำหน่ายอันเป็นการประกอบธุรกิจของจำเลย จึงเข้าข้อยกเว้นตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/34 (1) การฟ้องเรียกค่าปลาจากจำเลยจึงต้องใช้อายุความห้าปีตามมาตรา 193/33 (5)
แม้ฟ้องจะมิได้กล่าวเกี่ยวกับการเป็นตัวการตัวแทน โจทก์ก็นำสืบเรื่องนี้ได้เพราะเป็นการนำสืบข้อเท็จจริงในรายละเอียด เนื่องจากในการติดต่อทำสัญญาซื้อขายกันอาจทำได้โดยตนเองหรือมีตัวแทนไปติดต่อทำสัญญาซื้อขายแทนกันก็ได้ และศาลวินิจฉัยปัญหาข้อนี้ได้ ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น
โจทก์ประกอบธุรกิจขายปลา ทำสัญญาขายปลาให้จำเลยนำไปใช้ผลิตปลากระป๋องออกจำหน่ายอันเป็นการประกอบธุรกิจของจำเลย จึงเข้าข้อยกเว้นตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/34 (1) การฟ้องเรียกค่าปลาจากจำเลยจึงต้องใช้อายุความห้าปีตามมาตรา 193/33 (5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5336/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตอำนาจตัวแทนเชิดและการผูกพันตามสัญญา: ข้อตกลงเกินอำนาจตัวแทน
ส. เดินทางไปกับ ก. ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจช่วงของโจทก์และร่วมกันเจรจาขอรับรถยนต์คืนตลอดจนทำบันทึกการตรวจสภาพรถมอบให้แก่ตัวแทนของจำเลยที่ 1 เป็นพฤติการณ์ที่ ส. แสดงออกเป็นตัวแทนของโจทก์ และโจทก์ก็รับเอารถยนต์คันที่เช่าซื้อคืนไปจากการยึด เห็นได้ว่าโจทก์เชิด ส. ออกแสดงเป็นตัวแทนของตนตาม ป.พ.พ. มาตรา 821 แต่อำนาจหน้าที่ของ ส. ซึ่งเป็นตัวแทนเชิดมีเพียงเท่าที่ผู้รับมอบอำนาจช่วงของโจทก์มีอยู่ คือ ติดตามเอาคืน ยึดเข้าครอบครองเคลื่อนย้ายรถ แจ้งความร้องทุกข์ และกระทำการตามความจำเป็นตามกฎหมายเพื่อนำรถยนต์คันที่เช่าซื้อกลับคืนโจทก์ ส. ไม่มีอำนาจที่จะไปตกลงไม่เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ กับจำเลยที่ 1 นอกเหนือไปจากความจำเป็นเพื่อยึดรถยนต์คันที่เช่าซื้อคืนได้ การที่ ส. ไปทำข้อตกลงในหนังสือรับรองว่าไม่เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งนอกเหนืออำนาจในการเป็นตัวแทน โดยโจทก์ไม่ได้ให้สัตยาบันแก่การนั้น ข้อตกลงดังกล่าวไม่ผูกพันโจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 823 วรรคแรก โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลยที่ 1 ได้อีก
จำเลยที่ 2 ให้การว่าโจทก์ผ่อนเวลาให้จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันไม่ยินยอม จำเลยที่ 2 จึงพ้นจากความรับผิด ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าข้อต่อสู้ของจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น จำเลยที่ 1 ฎีกาปัญหาดังกล่าวโดยไม่ได้ให้การตั้งประเด็นไว้จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลล่างทั้งสอง ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัย
จำเลยที่ 2 ให้การว่าโจทก์ผ่อนเวลาให้จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันไม่ยินยอม จำเลยที่ 2 จึงพ้นจากความรับผิด ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าข้อต่อสู้ของจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น จำเลยที่ 1 ฎีกาปัญหาดังกล่าวโดยไม่ได้ให้การตั้งประเด็นไว้จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลล่างทั้งสอง ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5140/2550 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้โดยตัวแทนเชิดทำให้อายุความสะดุดหยุดลง แม้ไม่มีตราบริษัท
ส. เป็นกรรมการมีอำนาจลงลายมือชื่อและประทับตราของจำเลยกระทำการแทนจำเลยได้ แม้ ส. ไม่ได้ประทับตราของจำเลย แต่หนังสือรับสภาพหนี้มีชื่อของจำเลยที่ด้านบนของกระดาษประกอบพฤติการณ์ของ ส. จึงถือว่า ส. เป็นตัวแทนเชิดของจำเลย การที่ ส. ทำหนังสือรับสภาพหนี้ถึงโจทก์ ถือเป็นการกระทำของจำเลย หนังสือรับสภาพหนี้มีข้อความตอนหนึ่งว่า "...ขอความกรุณาจากท่านช่วยลดราคาลงให้อีกบ้างตามควร พร้อมทั้งขอผ่อนผันชำระค่าอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นรายเดือนต่อไป" จึงเป็นการกระทำการใด ๆ อันปราศจากข้อสงสัยแสดงให้เห็นเป็นปริยายว่า ยอมรับตามสิทธิเรียกร้อง จึงเป็นการยอมรับสภาพหนี้ซึ่งทำให้อายุความสะดุดหยุดลง เริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันที่ระบุในหนังสือรับสภาพหนี้ถึงวันฟ้องไม่เกิน 2 ปี สิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5140/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือรับสภาพหนี้โดยตัวแทนเชิดทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
ส. เป็นกรรมการซึ่งลงลายมือชื่อและประทับตราของบริษัทจำเลยแล้วมีอำนาจกระทำการแทนจำเลยได้ แม้ ส. ไม่ได้ประทับตราของจำเลยในหนังสือที่ ส. มีไปถึงโจทก์ แต่หนังสือดังกล่าวมีชื่อจำเลยที่ด้านบนของกระดาษ ถือว่า ส. เป็นตัวแทนเชิดของจำเลยจึงเป็นการกระทำของจำเลย ข้อความในหนังสือที่ว่าขอความกรุณาจากท่านช่วยลดราคาลงให้อีกบ้างตามควร พร้อมทั้งขอผ่อนผันการชำระค่าอุปกรณ์เป็นรายเดือนต่อไป จึงเป็นการกระทำการใดๆ ของจำเลยอันปราศจากข้อสงสัยแสดงให้เห็นเป็นปริยายว่ายอมรับตามสิทธิเรียกร้อง จึงเป็นการรับสภาพหนี้ซึ่งทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5042/2561
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนเชิดไม่ต้องทำสัญญาเป็นหนังสือ ฟ้องคืนทรัพย์ได้แม้ไม่มีหลักฐาน
การตั้งตัวแทนเชิดเพื่อทำกิจการอันใด ไม่อยู่ในบังคับที่ต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือตัวการฟ้องเรียกทรัพย์คืนจากตัวแทน แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือก็ฟ้องร้องให้บังคับคดีกันได้