คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บุกรุก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 787 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานบุกรุก: เจตนาสำคัญ หากเข้าใจผิดโดยสุจริตว่าเป็นการรักษาผลประโยชน์ของราชการ ย่อมไม่มีความผิด
แม้จำเลยทั้งสามได้ร่วมกันใช้ให้ ว. นำป้ายซึ่งมีข้อความว่า"สถานที่ราชการห้ามบุกรุกโดยเด็ดขาด"เข้าไปติดไว้ที่ศาลาร้างซึ่งอยู่ในที่ดินพิพาทก็ตามแต่จำเลยทั้งสามซึ่งรับราชการในกระทรวงศึกษาธิการหลงเข้าใจโดยสุจริตคิดว่าบริเวณที่เกิดเหตุเป็นของโรงเรียนบ้าน เกาะบูโหลนในสังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดสตูลโดยจำเลยทั้งสามเชื่อว่าโจทก์ทั้งสี่ปักแนวรั้วบุกรุกที่ดินของโรงเรียนการกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นการรักษาผลประโยชน์ของทางราชการจึงขาดเจตนาที่จะถือการครอบครองหรือรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุขอันจะเป็นความผิดฐานบุกรุกจำเลยทั้งสามย่อมไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา362,365(2),83

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6119/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท ความผิดฐานบุกรุกและลักทรัพย์ การชดใช้ค่าเสียหายและการระงับข้อหาอาญา
จำเลยนำดินเข้าไปเทไว้ในที่ดินของโจทก์ทั้งสอง แล้วใช้ รถแทรกเตอร์ดันกองดินเข้าไปในที่ดินของจำเลยซึ่งอยู่ติดกัน โดยดันเอากองหินและทรายของโจทก์ทั้งสองรวมไปด้วย เป็นการ กระทำโดยมีเจตนาเดียวคือดันกองเดินเข้าไปในที่ดินของจำเลย โดยไม่ปรากฎว่ามีเจตนาลักทรัพย์เกิดขึ้นก่อนเจตนาบุกรุกหรือ เกิดขึ้นใหม่หลังเกิดเจตนาบุกรุก เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อ กฎหมายหลายบท การแยกฟ้องความผิดทั้งสองฐานเป็นสองข้อ แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็หาทำให้เป็นความผิดหลายกรรมไม่ และเมื่อได้ความจากหนังสือสัญญาประนีประนอมยอมความว่า จำเลย ได้ชดใช้ราคาค่าหินค่าทรายให้แก่โจทก์ทั้งสองแล้ว การที่ จะยังบังคับให้จำเลยชดใช้อีก ย่อมไม่ชอบและเป็นปัญหา ข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งแม้ จำเลยจะมิได้ฎีกาศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยให้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5963/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานและเอกสารทางโทรสารในคดีละเมิดและบุกรุกที่ดิน ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
การส่งเอกสารโดยวิธีโทรสารเป็นวิทยาการแบบใหม่ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่รู้กันโดยทั่วไปว่าผู้ส่งจะนำต้นฉบับของเอกสารที่จะทำการส่งไปลงในเครื่องโทรเลขแล้วจัดการส่งโดยวิธีโทรสารไปยังเครื่องโทรสารของผู้รับ ต้นฉบับผู้ส่งจะเป็นผู้เก็บไว้ โทรสารที่โจทก์ส่งศาลเป็นพยานซึ่งจำเลยยอมรับความถูกต้องแล้ว จึงรับฟังได้ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5616/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่สาธารณะ, ความผิดหลายกรรมต่างกัน, การปรับบทกฎหมาย, และการบังคับคดีค่าปรับ
ความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา362,365กฎหมายมุ่งประสงค์ลงโทษผู้บุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเท่านั้นไม่ใช่บทบัญญัติที่จะลงโทษผู้บุกรุกที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งมีบัญญัติไว้โดยเฉพาะตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา9,108ทวิวรรคสองและแม้ไม่มีฝ่ายใดฎีกาศาลฎีกาก็มีอำนาจปรับบทกฎหมายให้ถูกต้องได้ ความผิดฐานก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดต่างกรรมกับความผิดฐานบุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐเพราะต่างมีสภาพและลักษณะของการกระทำที่แตกต่างกันสามารถแยกเป็นคนละส่วนต่างหากจากกันได้ การยึดทรัพย์สินใช้ค่าปรับและการกักขังแทนค่าปรับตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา29,30เป็นวิธีที่จะกระทำเพื่อเป็นการชดใช้ค่าปรับเป็นการบังคับคดีไม่จำที่ศาลจะต้องกล่าวไว้ในคำพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5362/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินห้ามโอน: สัญญาโอนสิทธิในที่ดินช่วงห้ามโอนเป็นโมฆะ จำเลยไม่มีความผิดฐานบุกรุก
จำเลยครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินที่อยู่ในบังคับห้ามโอนจึงไม่อาจสละหรือโอนการครอบครองให้แก่ผู้อื่นได้การที่จำเลยทำสัญญาก่อตั้งสิทธิเหนือพื้นดินและทำสัญญาจะซื้อจะขายให้แก่โจทก์ร่วมมีผลเป็นการโอนการครอบครองที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ร่วมภายในกำหนดเวลาห้ามโอนจึงไม่มีผลตามกฎหมายโจทก์ร่วมไม่มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทการที่จำเลยจ้างบุคคลอื่นเข้าไปไถปรับพื้นที่และล้อมรั้วที่ดินพิพาทจึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5231/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการบุกรุก ต้องมีเจตนาถือครองหรือรบกวนการครอบครอง จึงจะมีความผิดฐานบุกรุก
จำเลยเข้าไปในสวนผักของโจทก์ร่วมโดยเจตนาที่จะสอบถามเรื่องราวที่อ. บุตรโจทก์ร่วมท้าชกแล้วจึงเกิดการวิวาทต่อสู้กันยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาเข้าไปเพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์หรือเจตนาเพื่อกระทำการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา362

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5029/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกเคหะสถาน: ขอบเขตการอนุญาตและการเข้าถึงพื้นที่ส่วนตัว
จำเลยได้รับอนุญาตให้เข้าไปร่วมดื่มสุรากับ อ.ภายในบ้านดังกล่าวก็เพียงอยู่ภายในบริเวณที่เป็นห้องโถงซึ่งมีสภาพเป็นห้องรับแขกเท่านั้นไม่มีผู้ใดอนุญาตให้จำเลยเข้าไปในห้องนอนของผู้เสียหายซึ่งมีลักษณะเป็นห้องส่วนตัวและโดยสภาพย่อมไม่ใช่สถานที่ที่บุคคลภายนอกหรือผู้เป็นแขกทั่วไปจะถือวิสาสะเข้าไปได้ เมื่อจำเลยเข้าไปในห้องนอนผู้เสียหายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เสียหายหรือผู้มีสิทธิอนุญาต และไม่มีเหตุอันสมควรที่จะเข้าไปจำเลยย่อมมีความผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5029/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการอนุญาตเข้าบ้าน: การบุกรุกห้องส่วนตัว แม้ได้รับอนุญาตเข้าพื้นที่ส่วนรวม
จำเลยได้รับอนุญาตให้เข้าไปร่วมดื่มสุรากับอ.ภายในบ้านดังกล่าวก็เพียงอยู่ภายในบริเวณที่เป็นห้องโถงซึ่งมีสภาพเป็นห้องรับแขกเท่านั้นไม่มีผู้ใดอนุญาตให้จำเลยเข้าไปในห้องนอนของผู้เสียหายซึ่งมีลักษณะเป็นห้องส่วนตัวและโดยสภาพย่อมไม่ใช่สถานที่ที่บุคคลภายนอกหรือผู้เป็นแขกทั่วไปจะถือวิสาสะเข้าไปได้เมื่อจำเลยเข้าไปในห้องนอนผู้เสียหายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เสียหายหรือผู้มีสิทธิอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควรที่จะเข้าไปจำเลยย่อมมีความผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4126/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีบุกรุกขึ้นอยู่กับสถานะการครอบครองที่ดิน หากหมดอำนาจครอบครองแล้ว จะไม่มีอำนาจฟ้อง
ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาคดีนี้ ได้ความจากเอกสารของทางราชการที่มีเจ้าหน้าที่รับรองความถูกต้องซึ่งจำเลยที่ 1 ได้ยื่นต่อศาลว่าคดีเดิมศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้โจทก์ร่วมคดีนี้ออกจากที่พิพาท เมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าโจทก์ร่วมไม่มีอำนาจครอบครองทำประโยชน์ในที่พิพาท โจทก์ร่วมจึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจร้องทุกข์ว่าจำเลยที่ 1 ทำผิดฐานบุกรุก โจทก์และโจทก์ร่วมจึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4126/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีบุกรุก: ผู้ไม่มีสิทธิครอบครอง ย่อมไม่มีอำนาจเป็นผู้เสียหาย
ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาคดีนี้ได้ความจากเอกสารของทางราชการที่มีเจ้าหน้าที่รับรองความถูกต้องซึ่งจำเลยที่1ได้ยื่นต่อศาลว่าคดีเดิมศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้โจทก์ร่วมคดีนี้ออกจากที่พิพาทเมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าโจทก์ร่วมไม่มีอำนาจครอบครองทำประโยชน์ในที่พิพาทโจทก์ร่วมจึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจร้องทุกข์ว่าจำเลยที่1ทำผิดฐานบุกรุกโจทก์และโจทก์ร่วมจึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่1เป็นคดีนี้
of 79