พบผลลัพธ์ทั้งหมด 137 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 153/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงประนีประนอมและการฟ้องขับไล่: จำเลยโต้แย้งสิทธิในที่ดินภายหลังยอมรับข้อตกลงไม่ได้
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมกันที่อำเภอว่าจำเลยยอมออกจากที่พิพาท เมื่อจำเลยไม่ยอมออก โจทก์จึงฟ้องขับไล่
จำเลยจะเถียงว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณะ โจทก์มีกรรมสิทธิ์ไม่ได้ไม่มีอำนาจฟ้องนั้น หาได้ไม่
จำเลยจะเถียงว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณะ โจทก์มีกรรมสิทธิ์ไม่ได้ไม่มีอำนาจฟ้องนั้น หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 91/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีหลังประนีประนอมนอกศาล: สัญญาข่มขู่และผลกระทบต่อการบังคับคดี
เมื่อจำเลยแพ้คดีโจทก์ แล้วยังมิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษา โจทก์จึงขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีตามคำบังคับที่ศาลมีไว้ต่อจำเลยในกำหนด ต่อมาจำเลยจะมายื่นคำร้องว่าโจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมกันนอกศาลแล้ว ขอมิให้มีการบังคับคดีไม่ได้ ในเมื่อการประนีประนอมยอมความนั้นโจทก์อ้างว่าเกิดขึ้นโดยถูกข่มขู่ เพราะคู่ความชอบที่จะมาทำประนีประนอมกันในศาลๆ จะได้รู้เห็น และได้พิจารณาว่าการประนีประนอมนั้นถูกต้องหรือไม่ ถ้าถูกจะได้พิพากษาให้เป็นไปตามที่ตกลง และถือว่าเป็นการที่ให้ศาลได้รับรู้เกี่ยวกับการบังคับคดี เมื่อทำกันนอกศาลๆ ก็ไม่รู้ และถ้ายอมรับฟัง การบังคับคดีก็จะไม่อาจเป็นไปได้โดยราบรื่น เพราะฝ่ายที่ถูกบังคับย่อมจะมีข้ออ้างมาร้องต่าง ๆ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 91/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมนอกศาลหลังคำพิพากษาถึงที่สุด ไม่อาจใช้เป็นเหตุยกเว้นการบังคับคดีได้ หากมีข้อโต้แย้งเรื่องความถูกต้อง
เมื่อจำเลยแพ้คดีโจทก์ แล้วยังมิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษา
โจทก์จึงขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีตามคำบังคับที่ศาลมีไว้ต่อจำเลยในกำหนด ต่อมาจำเลยจะมายื่นคำร้องว่าโจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมกันนอกศาลแล้วขอมิให้มีการบังคับคดีไม่ได้ในเมื่อการประนีประนอมยอมความนั้นโจทก์อ้างว่าเกิดขึ้นโดยถูกข่มขู่เพราะคู่ความชอบที่จะมาทำประนีประนอมกันในศาล ศาลจะได้รู้เห็นและได้พิจารณาว่าการประนีประนอมนั้นถูกต้องหรือไม่ถ้าถูกจะได้พิพากษาให้เป็นไปตามที่ตกลง และถือว่าเป็นการที่ให้ศาลได้รับรู้เกี่ยวกับการบังคับคดีเมื่อทำกันนอกศาลศาลก็ไม่รู้ และถ้ายอมรับฟัง การบังคับคดีก็จะไม่อาจเป็นไปได้โดยราบรื่นเพราะฝ่ายที่ถูกบังคับย่อมจะมีข้ออ้างมาร้องต่างๆ
โจทก์จึงขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีตามคำบังคับที่ศาลมีไว้ต่อจำเลยในกำหนด ต่อมาจำเลยจะมายื่นคำร้องว่าโจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมกันนอกศาลแล้วขอมิให้มีการบังคับคดีไม่ได้ในเมื่อการประนีประนอมยอมความนั้นโจทก์อ้างว่าเกิดขึ้นโดยถูกข่มขู่เพราะคู่ความชอบที่จะมาทำประนีประนอมกันในศาล ศาลจะได้รู้เห็นและได้พิจารณาว่าการประนีประนอมนั้นถูกต้องหรือไม่ถ้าถูกจะได้พิพากษาให้เป็นไปตามที่ตกลง และถือว่าเป็นการที่ให้ศาลได้รับรู้เกี่ยวกับการบังคับคดีเมื่อทำกันนอกศาลศาลก็ไม่รู้ และถ้ายอมรับฟัง การบังคับคดีก็จะไม่อาจเป็นไปได้โดยราบรื่นเพราะฝ่ายที่ถูกบังคับย่อมจะมีข้ออ้างมาร้องต่างๆ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 606/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร: สัญญาประนีประนอมจำกัดสิทธิหน้าที่บิดา
โจทก์จำเลยเป็นสามีภรรยากันแต่มิได้จดทะเบียนเกิดบุตรคนหนึ่งโจทก์จึงฟ้องจำเลยให้รับรองเด็กเป็นบุตรและให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูแล้วโจทก์จำเลยตกลงประนีประนอมยอมความกันโดยจำเลยยอมรับรองเด็กเป็นบุตรและจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูให้โจทก์เป็นเดือนมีกำหนดเวลาโดยมิได้มีเงื่อนไขสงวนสิทธิใด ๆ ของโจทก์ไว้พ้นกำหนดแล้ว โจทก์จะมาฟ้องให้จำเลยจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรอีกไม่ได้ เป็นการฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2097/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำวิจารณ์การประนีประนอมของตำรวจไม่เป็นหมิ่นประมาท
นายตำรวจประนีประนอมให้จำเลยเป็นฝ่ายเสียค่าซ่อมแซมรถยนต์ที่ชนกัน จำเลยกล่าวว่า "ผู้กองพูดอย่างนี้ เอากฎหมายมาพูดไม่มีศีลธรรม" ดังนี้ ยังไม่ผิดฐานหมิ่นประมาทตามมาตรา 116 หรือมาตรา 282
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงประนีประนอมในชั้นศาล: การคืนกระบือและเงินกู้ ไม่เป็นการพนันขันต่อ
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้กับดอกเบี้ย 2,037 บาท จำเลยต่อสู้ว่าความจริงจำเลยตกลงซื้อกระบือ 2 ตัวราคา 2,000 บาท โดยโจทก์ผ่อนชำระภายในเดือน 3 ทุก ๆ ปี โจทก์จำเลยทำเป็นสัญญากู้ให้ไว้เมื่อจำเลยชำระราคากระบือแล้วจะคืนอสัญญาให้
วันชี้ คู่ความท้ากันว่าขอให้สืบนายเลี่ยม ถ้าให้การว่ากระบือรายนี้ตกอยู่แก่จำเลยก่อนเดือน 11 พ.ศ.2497 แล้ว จำเลยยอมคืนกระบือ 2 ตัวกับเงิน 2,000 บาท ถ้าให้การว่าเพิ่งตกอยู่กับจำเลยเมื่อเดือน 11 พ.ศ.2498 นี้เอง จำเลยยอมคืนกระบือให้โจทก์ 2 ตัวอย่างเดียว
ดังนี้เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยคืนกระบือ 2 ตัว กับเงิน 2,000 บาทให้โจทก์ตามที่คู่ความแถลงตกลงกันให้ชั้นชี้สองสถาน จึงไม่ใช่การพนันขันต่อเป็นเรื่องทำความประนีประนอมกันให้ศาลพิพากษาเช่นนี้ตาม ป.พ.พ. ม.850 และป.วิ.แพ่ง ม.138 ไม่เป็นการพิพากษานอกคำฟ้อง.
วันชี้ คู่ความท้ากันว่าขอให้สืบนายเลี่ยม ถ้าให้การว่ากระบือรายนี้ตกอยู่แก่จำเลยก่อนเดือน 11 พ.ศ.2497 แล้ว จำเลยยอมคืนกระบือ 2 ตัวกับเงิน 2,000 บาท ถ้าให้การว่าเพิ่งตกอยู่กับจำเลยเมื่อเดือน 11 พ.ศ.2498 นี้เอง จำเลยยอมคืนกระบือให้โจทก์ 2 ตัวอย่างเดียว
ดังนี้เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยคืนกระบือ 2 ตัว กับเงิน 2,000 บาทให้โจทก์ตามที่คู่ความแถลงตกลงกันให้ชั้นชี้สองสถาน จึงไม่ใช่การพนันขันต่อเป็นเรื่องทำความประนีประนอมกันให้ศาลพิพากษาเช่นนี้ตาม ป.พ.พ. ม.850 และป.วิ.แพ่ง ม.138 ไม่เป็นการพิพากษานอกคำฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงประนีประนอมทางการแพ่ง: การคืนกระบือและเงินกู้ ไม่ใช่การพนัน
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้กับดอกเบี้ย 2,037 บาท จำเลยต่อสู้ว่าความจริงจำเลยตกลงซื้อกระบือ 2 ตัวราคา 2,000บาท โดยโจทก์ผ่อนชำระภายในเดือน 3 ทุกๆ ปี โจทก์ให้จำเลยทำเป็นสัญญากู้ให้ไว้ เมื่อจำเลยชำระราคากระบือแล้วจะคืนสัญญาให้
วันชี้ คู่ความท้ากันว่าขอให้สืบนายเลี่ยม ถ้าให้การว่ากระบือรายนี้ตกอยู่แก่จำเลยก่อนเดือน 11 พ.ศ.2497 แล้ว จำเลยยอมคืนกระบือ 2 ตัวกับเงิน 2,000 บาทถ้าให้การว่าเพิ่งตกอยู่กับจำเลยเมื่อเดือน 11 พ.ศ.2498นี้เอง จำเลยยอมคืนกระบือให้โจทก์ 2 ตัวอย่างเดียว
ดังนี้เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยคืนกระบือ 2 ตัว กับเงิน 2,000 บาทให้โจทก์ตามที่คู่ความแถลงตกลงกันในชั้นชี้สองสถาน จึงไม่ใช่การพนันขันต่อเป็นเรื่องทำความประนีประนอมกันให้ศาลพิพากษา เช่นนี้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 และ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา138 ไม่เป็นการพิพากษานอกคำฟ้อง
วันชี้ คู่ความท้ากันว่าขอให้สืบนายเลี่ยม ถ้าให้การว่ากระบือรายนี้ตกอยู่แก่จำเลยก่อนเดือน 11 พ.ศ.2497 แล้ว จำเลยยอมคืนกระบือ 2 ตัวกับเงิน 2,000 บาทถ้าให้การว่าเพิ่งตกอยู่กับจำเลยเมื่อเดือน 11 พ.ศ.2498นี้เอง จำเลยยอมคืนกระบือให้โจทก์ 2 ตัวอย่างเดียว
ดังนี้เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยคืนกระบือ 2 ตัว กับเงิน 2,000 บาทให้โจทก์ตามที่คู่ความแถลงตกลงกันในชั้นชี้สองสถาน จึงไม่ใช่การพนันขันต่อเป็นเรื่องทำความประนีประนอมกันให้ศาลพิพากษา เช่นนี้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 และ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา138 ไม่เป็นการพิพากษานอกคำฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาใหม่ย่อมสละสิทธิในสัญญาเดิม: การทำสัญญาเช่าใหม่หลังประนีประนอมย่อมเป็นการสละสิทธิบังคับตามสัญญาเดิม
การที่โจทก์ทำสัญญาให้จำเลยเช่าที่พิพาทขึ้นใหม่หลังจากทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเช่นนี้ ย่อมถือได้ว่าโจทก์ยอมสละสิทธิที่จะบังคับจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความอยู่ในตัวแล้ว จึงต้องว่ากล่าวกันตามสัญญาที่ทำขึ้นใหม่นี้
เมื่อโจทก์หมดสิทธิที่จะบังคับจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วก็หาบังคับบริวารจำเลยได้ไม่ ตลอดจนถึงเงินที่โจทก์ได้รับไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นก็ต้องคืนจำเลยเช่นกัน
เมื่อโจทก์หมดสิทธิที่จะบังคับจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วก็หาบังคับบริวารจำเลยได้ไม่ ตลอดจนถึงเงินที่โจทก์ได้รับไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นก็ต้องคืนจำเลยเช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 699/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องซ้ำ: สามีฟ้องแย่งทรัพย์มรดกซ้ำ หลังภรรยาประนีประนอมแล้ว ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
อนุญาตให้ภรรยาฟ้องขอให้แสดงว่าที่พิพาทเป็นที่ที่ภรรยาได้รับมรดกมาตามพินัยกรรมครั้นภรรยาไปทำยอมยกที่พิพาทให้จำเลยจนศาลพิพากษาตามยอมนั้นแล้ว สามีจะกลับเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยอีกโดยอ้างว่าที่พิพาทเป็นของตนได้มาโดยการครอบครองไม่ใช่ทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1571/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำหลังมีคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอม การบังคับคดีต้องเป็นไปตามคำพิพากษาเดิม
คดีมีคำพิพากษาถึงที่สุดตามสัญญาประนีประนอมให้แบ่งที่ดินกันระหว่างคู่ความเป็นส่วนๆ แต่ชั้นบังคับคดีเกิดมีปัญหาในเรื่องเนื้อที่ของที่ดินที่จะแบ่ง และศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งชี้ขาดไปแล้ว หากคู่ความเห็นว่าศาลชั้นต้นสั่งไม่ถูกต้องประการใด ก็ชอบที่จะอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อไป จะฟ้องเป็นคดีใหม่ไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำ