พบผลลัพธ์ทั้งหมด 160 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1574/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดไต่สวนมูลฟ้องในคดีอาญา ศาลต้องยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 166 ไม่ใช่ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ในกรณีที่โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง นั้นประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคแรกได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะแล้วว่าให้ศาลยกฟ้องเสียจึงจะนำบทบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการทิ้งฟ้องมาใช้บังคับในกรณีนี้หาได้ไม่ฉะนั้นที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ไม่มาศาลโดยไม่มีเหตุถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องให้จำหน่ายคดีจึงไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา
ในวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้องให้จำหน่ายคดี ศาลอุทธรณ์เห็นว่าศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้เลื่อนวันนัดไต่สวนมูลฟ้องไปแล้วโจทก์จึงไม่ขาดนัด แต่เห็นว่าผลของคำสั่งนั้นถูกต้องแล้วเพราะศาลชั้นต้นให้เวลาโจทก์สืบหาที่อยู่ของจำเลยตามที่ขอจนครบกำหนดแล้วโจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนดจึงต้องถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง ดังนี้ การที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคำสั่งศาลชั้นต้นไม่ชอบเฉพาะแต่เหตุที่อ้างส่วนผลของคำสั่งถูกต้องแล้ว จึงเป็นการยกเหตุอื่นขึ้นมาอ้างแล้วพิพากษายืน ไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาเพราะเหตุที่ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นอ้างดังกล่าวหาได้เป็นประเด็นขึ้นมาสู่ศาลอุทธรณ์ไม่ศาลอุทธรณ์จึงไม่มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัย
ในวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์ไม่มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้องให้จำหน่ายคดี ศาลอุทธรณ์เห็นว่าศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้เลื่อนวันนัดไต่สวนมูลฟ้องไปแล้วโจทก์จึงไม่ขาดนัด แต่เห็นว่าผลของคำสั่งนั้นถูกต้องแล้วเพราะศาลชั้นต้นให้เวลาโจทก์สืบหาที่อยู่ของจำเลยตามที่ขอจนครบกำหนดแล้วโจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนดจึงต้องถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง ดังนี้ การที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคำสั่งศาลชั้นต้นไม่ชอบเฉพาะแต่เหตุที่อ้างส่วนผลของคำสั่งถูกต้องแล้ว จึงเป็นการยกเหตุอื่นขึ้นมาอ้างแล้วพิพากษายืน ไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาเพราะเหตุที่ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นอ้างดังกล่าวหาได้เป็นประเด็นขึ้นมาสู่ศาลอุทธรณ์ไม่ศาลอุทธรณ์จึงไม่มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 72/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมขัดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 193 ทวิ และข้อเท็จจริงในชั้นศาลชั้นต้นเป็นยุติ
โจทก์ฟ้องจำเลยข้อหาหมิ่นประมาท ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา326 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ววินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า ข้อความที่จำเลยกล่าวไม่เป็นหมิ่นประมาท คดีของโจทก์ไม่มีมูลพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์โดยกล่าวอ้างข้อความที่เป็นหมิ่นประมาทเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ศาลชั้นต้นฟังมา ดังนี้ เป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงเพิ่มเติม จึงเป็นอุทธรณ์คัดค้านในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 193 ทวิ ถึงแม้ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยให้โจทก์ก็จะยกข้อเท็จจริงดังกล่าวขึ้นว่ากล่าวในชั้นฎีกาไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นฟังมานั้นเป็นยุติแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2870/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้องต้องมีเหตุผลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 186 ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
คำสั่งศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องต้องอยู่ภายใต้บังคับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 186 โดยต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความและเหตุผลในการตัดสินทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายจึงจะเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2826/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 กรณีศาลอุทธรณ์แก้โทษจำคุก
จำเลยถูกฟ้องว่ากระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ฯศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 1 ปี ปรับ5,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปีแม้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำคุกจำเลยไปทันทีโดยไม่รอการลงโทษ แต่ศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินหนึ่งปีและปรับไม่เกินหมื่นบาท จำเลยต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2745/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจตรวจค้นจับกุมของตำรวจชั้นสารวัตรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หมายความถึงเจ้าพนักงานในตำแหน่งต่างๆ ซึ่งมีตำแหน่งสารวัตรตำรวจรวมอยู่ด้วยร้อยตำรวจเอก ม. ซึ่งเป็นสารวัตรสืบสวนสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นตำรวจชั้นสารวัตรย่อมเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และมีอำนาจตรวจค้นจับกุมได้ โดยไม่ต้องมีหมายจับหมายค้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 78 วรรคท้าย และมาตรา 92 วรรคท้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2183/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องโจทก์โดยฟังว่าจำเลยไม่มีเจตนากระทำผิด การที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตควรมีความผิดตามฟ้อง จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2657/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องอาญาฐานยักยอก การบรรยายฟ้องที่ครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2521 เวลาประมาณ 16 นาฬิกา ผู้เสียหายได้นำผ้า 4 กล่อง ไปฝากไว้กับจำเลย จำเลยได้รับมอบผ้าทั้ง 4 กล่องจากผู้เสียหายไว้ในความครอบครองของจำเลย แล้วในวันนั้นเองระหว่างเวลาประมาณ 16-20 นาฬิกา เวลาใดไม่ปรากฏชัดจำเลยโดยเจตนาทุจริตได้เบียดบังยักยอกผ้าทั้ง 4 กล่องดังกล่าวไปเป็นประโยชน์ของตน ดังนี้ ฟ้องโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลและสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี และครบองค์ประกอบความผิดฐานยักยอกแล้ว ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 225/2523)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2360/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานที่จำหน่ายหนังสือพิมพ์เป็นที่เกิดเหตุหมิ่นประมาทได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
หนังสือพิมพ์ของโจทก์พิมพ์ที่กรุงเทพมหานครและออกจำหน่ายทั่วราชอาณาจักรรวมทั้งที่จังหวัดราชบุรีด้วย ถ้าหนังสือพิมพ์โจทก์พิมพ์ข้อความที่เป็นหมิ่นประมาทจำเลย ก็ต้องถือว่าสถานที่ที่หนังสือพิมพ์ ของโจทก์ออกจำหน่ายทุกแห่งเป็นที่เกิดเหตุซึ่งความผิดเกิดขึ้นตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อุทธรณ์ข้อเท็จจริงในศาลแขวงและข้อจำกัดการฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
คดียักยอกทรัพย์ที่ฟ้องต่อศาลแขวงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352,353 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ร่วมอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง โจทก์ร่วมอุทธรณ์คำสั่งศาลอุทธรณ์ไม่รับอุทธรณ์ตามศาลชั้นต้น คำสั่งนี้เป็นที่สุดโจทก์ร่วมฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3221/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานกรรโชก แม้ฟ้องฐานปล้นทรัพย์ ศาลต้องยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
จำเลยที่ 2 ร่วมกับพวกขู่เข็ญผู้เสียหายเรียกเอาเงิน 6,000 บาท โดยอ้างว่ามีผู้ร้องเรียนไปทางกรมตำรวจว่าผู้เสียหายเป็นพระจรจัด จะเอาเงินไปปิดปากผู้ร้องเรียน ผู้เสียหายบอกว่าไม่มีเงิน จำเลยที่ 2 ว่ามีเท่าใดให้เอามาก่อน พร้อมกับทำมือแสดงอาการฮึดฮึดไม่พอใจลักษณะจะทำร้าย ผู้เสียหายกลัว จึงชี้บอกเงิน 2,000 บาท ใส่ซองวางไว้บนโต๊ะให้เอาไปก่อน เช่นนี้ กรณีเป็นความผิดฐานกรรโชกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340,340 ตรี แต่ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำผิดฐานกรรโชกซึ่งแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังกล่าวในฟ้อง จึงลงโทษจำเลยไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง และวรรคสามซึ่งแก้ไขใหม่ก็ไม่ได้ เพราะเป็นการนำเอากฎหมายที่อกใช้ภายหลังมาลงโทษจำเลยซึ่งฟ้องไว้ก่อนแล้ว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340,340 ตรี แต่ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำผิดฐานกรรโชกซึ่งแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังกล่าวในฟ้อง จึงลงโทษจำเลยไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง และวรรคสามซึ่งแก้ไขใหม่ก็ไม่ได้ เพราะเป็นการนำเอากฎหมายที่อกใช้ภายหลังมาลงโทษจำเลยซึ่งฟ้องไว้ก่อนแล้ว