คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ปลอมเอกสาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 284 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2684/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท ปลอมเอกสารเพื่อฉ้อโกง โทษหนักสุดใช้กฎหมายมาตรา 90
จำเลยทั้งสองร่วมกันปลอมหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก.) ซึ่งเป็นเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ โดยการเติมแก้ไขจำนวนเนื้อที่ 1 ไร่ 74 ตารางวา เป็น 50 ไร่ 74 ตารางวาแล้วร่วมกันหลอกลวงโจทก์ร่วมว่าจำเลยทั้งสองมีที่ดิน 50 ไร่74 ตารางวา จะนำมาเป็นหลักประกันขอกู้เงินจากโจทก์ร่วม แล้วนำเอาหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่จำเลยทั้งสองทำปลอมขึ้นมาแสดงต่อโจทก์ร่วม เป็นเหตุให้โจทก์ร่วมหลงเชื่อจึงให้จำเลยทั้งสองกู้เงินจำนวน 40,000 บาท และจำเลยทั้งสองได้รับเงินไปในวันเวลาดังกล่าวนั่นเอง เห็นได้ว่าจำเลยทั้งสองทำการปลอมเอกสาร ใช้เอกสารปลอม และฉ้อโกงในวันเดียวกัน จำเลยทั้งสองทำการปลอมเอกสารก็ด้วยเจตนาที่จะนำเอกสารไปหลอกลวงเพื่อกู้เงินจากโจทก์ร่วมนั่นเองการกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้ใช้กฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลยทั้งสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2684/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ปลอมเอกสารสิทธิหลอกกู้เงิน: กรรมเดียวผิดหลายบท ใช้กฎหมายโทษหนักสุด
จำเลยทั้งสองร่วมกันปลอมหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก.)ซึ่งเป็นเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการโดยการเติมแก้ไขจำนวนเนื้อที่ 1 ไร่ 74 ตารางวา เป็น 50 ไร่ 74 ตารางวา แล้วร่วมกันหลอกลวงโจทก์ร่วมว่าจำเลยทั้งสองมีที่ดิน 50 ไร่ 74ตารางวา จะนำมาเป็นหลักประกันขอกู้เงินจากโจทก์ร่วม แล้วนำเอาหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่จำเลยทั้งสองทำปลอมขึ้นมาแสดงต่อโจทก์ร่วม เป็นเหตุให้โจทก์ร่วมหลงเชื่อจึงให้จำเลยทั้งสองกู้เงินจำนวน 40,000 บาท และจำเลยทั้งสองได้รับเงินไปในวันเวลาดังกล่าวนั่นเอง เห็นได้ว่าจำเลยทั้งสองทำการปลอมเอกสาร ใช้เอกสารปลอม และฉ้อโกงในวันเดียวกัน จำเลยทั้งสองทำการปลอมเอกสาร ก็ด้วยเจตนาที่จะนำเอกสารไปหลอกลวงเพื่อกู้เงินจากโจทก์ร่วมนั่นเอง การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้ใช้กฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลยทั้งสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2132/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเอกสารเพื่อเบิกจ่ายค่าจ้างกระทบสิทธินายจ้าง ศาลยืนยันเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
โจทก์เป็นหัวหน้าคนงานมีหน้าที่รับผิดชอบในการลาของลูกจ้างและทำบันทึกรายงานสถิติการมาทำงานของลูกจ้าง โจทก์ต้องปฏิบัติงานให้ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับของจำเลยและรายงานการมาทำงานของลูกจ้างต่อจำเลยตามความเป็นจริง โจทก์ปลอมใบลาอันเป็นหลักฐานอย่างหนึ่งสำหรับใช้คำนวณค่าจ้างจำเลยได้จ่ายค่าจ้างและเบี้ยขยันให้แก่ว. โดยเชื่อตามพยานหลักฐานปลอมที่โจทก์ทำขึ้น โจทก์มีความผิดฐานปลอมเอกสาร ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของนายจ้างอันเป็นกรณีที่ร้ายแรงตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 47(1)(3) ดังนี้จำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย และสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่โจทก์.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2022/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงลายมือชื่อในเช็คโดยไม่ได้รับมอบอำนาจ ถือเป็นการปลอมเอกสารสิทธิ
จำเลยเป็นลูกจ้างของห้างโจทก์เมื่อรับเช็คที่บุคคลภายนอกจ่ายให้โจทก์ จำเลยต้องนำไปมอบให้หุ้นส่วนผู้จัดการห้างโจทก์ แต่จำเลยกลับนำเช็คนั้นไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารโดยจำเลยลงลายมือชื่อของจำเลยและประทับตราสำคัญของห้างโจทก์ ดังนี้แม้จะเป็นการลงลายมือชื่อของจำเลยเอง แต่ก็เป็นการกระทำเพื่อลวงให้ธนาคารหลงเชื่อว่าเป็นการลงลายมือชื่อโดยผู้มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1811/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกรอกเงื่อนไขในใบสมัครหลังอนุมัติ ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร หากเป็นการตกลงกันและเป็นไปตามระเบียบบริษัท
โจทก์ยื่นใบสมัครเข้าทำงานโดยกรอกข้อความในใบสมัครเว้นว่างไว้แต่ในช่องเฉพาะเจ้าหน้าที่ด้านหลังใบสมัคร จำเลยซึ่งเป็นผู้อำนวยการบริษัทได้กรอกข้อความลงในช่องเฉพาะเจ้าหน้าที่ดังกล่าว ภายหลังจากที่บริษัทได้มีคำสั่งอนุมัติให้โจทก์เข้าทำงานแล้ว แต่จำเลยกระทำไปตรงตามเงื่อนไขและข้อตกลงที่ทำไว้กับโจทก์ก่อนยื่นใบสมัครทั้งเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการและระเบียบข้อบังคับของบริษัท เช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยกระทำไปโดยได้รับความยินยอมจากโจทก์และเมื่อข้อความที่จำเลยกรอกนั้นตรงตามที่ได้ตกลงกับโจทก์ไว้ จำเลยก็มิได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1811/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกรอกเงื่อนไขทดลองงานและซื้อหุ้นในใบสมัครงานโดยความยินยอม ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร
โจทก์ยื่นใบสมัครเข้าทำงานโดยกรอกข้อความในใบสมัครเว้นว่าง ไว้แต่ในช่องเฉพาะเจ้าหน้าที่ด้านหลังใบสมัคร จำเลยซึ่งเป็น ผู้อำนวยการบริษัทได้กรอกข้อความลงในช่องเฉพาะเจ้าหน้าที่ดังกล่าว ภายหลังจากที่บริษัทได้มีคำสั่งอนุมัติให้โจทก์เข้า ทำงานแล้ว แต่จำเลยกระทำไปตรงตามเงื่อนไขและข้อตกลงที่ทำไว้กับโจทก์ก่อนยื่นใบสมัครทั้งเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการและระเบียบข้อบังคับของบริษัท เช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยกระทำไปโดยได้รับความยินยอมจากโจทก์และเมื่อข้อความที่จำเลยกรอกนั้นตรงตามที่ได้ตกลงกับโจทก์ไว้ จำเลยก็มิได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1811/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกรอกเงื่อนไขในใบสมัครหลังอนุมัติเข้าทำงาน ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร หากเป็นการตกลงและปฏิบัติตามระเบียบ
โจทก์ยื่นใบสมัครเข้าทำงานโดยกรอกข้อความในใบสมัครเว้นว่างไว้แต่ในช่องเฉพาะเจ้าหน้าที่ด้านหลังใบสมัคร จำเลยซึ่งเป็นผู้อำนวยการบริษัทได้กรอกข้อความลงในช่องเฉพาะเจ้าหน้าที่ดังกล่าว ภายหลังจากที่บริษัทได้มีคำสั่งอนุมัติให้โจทก์เข้าทำงานแล้ว แต่จำเลยกระทำไปตรงตามเงื่อนไขและข้อตกลงที่ทำไว้กับโจทก์ก่อนยื่นใบสมัครทั้งเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการและระเบียบข้อบังคับของบริษัท เช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยกระทำไปโดยได้รับความยินยอมจากโจทก์และเมื่อข้อความที่จำเลยกรอกนั้นตรงตามที่ได้ตกลงกับโจทก์ไว้ จำเลยก็มิได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1495/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเอกสารสั่งซื้อยาและการเป็นผู้เสียหายของบริษัทจากความเสียหายทางการเงิน
จำเลยเป็นลูกจ้างของบริษัทโจทก์ร่วมตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาลแผนกห้องแพทย์ได้ทำปลอมใบสั่งซื้อยา สั่งยาบางรายการเป็นจำนวนมากเกินความจำเป็นของโจทก์ร่วม การสั่งซื้อยาดังกล่าวเป็นการกระทำในการดำเนินกิจการของโจทก์ร่วมและโจทก์ร่วมต้องเสียเงินค่ายาไปโดยมิใช่เป็นความประสงค์ของโจทก์ร่วม โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1495/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมเอกสารสั่งซื้อยาและการเป็นผู้เสียหายของบริษัทที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายโดยมิชอบ
จำเลยเป็นลูกจ้างของบริษัทโจทก์ร่วมตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาลแผนกห้องแพทย์ได้ทำปลอมใบสั่งซื้อยา สั่งยาบางรายการเป็นจำนวนมากเกินความจำเป็นของโจทก์ร่วม การสั่งซื้อยาดังกล่าวเป็นการกระทำในการดำเนินกิจการของโจทก์ร่วมและโจทก์ร่วมต้องเสียเงินค่ายาไปโดยมิใช่เป็นความประสงค์ของโจทก์ร่วม โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 734/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเวลาลงเวลาทำงาน ไม่ถึงขั้นทำให้เกิดความเสียหายทางวินัย จึงไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร
โจทก์จำเลยต่างรับราชการครูโรงเรียนเดียวกัน วันเกิดเหตุโจทก์ไปถึงโรงเรียนก่อนจำเลยและลงเวลามาทำงานว่า 8.00 นาฬิกา จำเลยลบเวลาที่โจทก์เขียนไว้ออกแล้วเขียนทับลงไปว่า 7.46 นาฬิกาเป็นการแก้ว่าโจทก์มาทำงานเร็วกว่าเดิม และเวลาที่โจทก์เขียนไว้เดิมกับเวลาที่จำเลยเขียนแก้ต่างยังไม่ถึงเวลาปฏิบัติราชการ การเขียนแก้จึงไม่อาจเป็นการโกงเวลาราชการไม่น่าจะเกิดความเสียหายแก่โจทก์ และการแก้ไขเวลาดังกล่าวก็มิใช่การกระทำของโจทก์ โจทก์ไม่อาจถูกลงโทษทางวินัยได้โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264,265
of 29