พบผลลัพธ์ทั้งหมด 112 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 512/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งบรรจุยาเสพติดเพื่อจำหน่ายเข้าข่ายความผิดฐานผลิตยาเสพติด แม้จะเป็นการกระทำกรรมเดียวแต่ผิดหลายบท
การที่จำเลยแบ่งบรรจุฝิ่นเป็นห่อเพื่อความสะดวกแก่การจำหน่าย ทำให้ยาเสพติดให้โทษนั้นแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นการกระทำที่จะเกิดอันตรายแก่สังคมอย่างร้ายแรง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานผลิตฝิ่นตามความหมายของ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4 แต่เมื่อฝิ่นที่จำเลยผลิตเป็นจำนวนเดียวกับฝิ่นที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และการที่จำเลยแบ่งบรรจุฝิ่นเป็นห่อก็เพื่อสะดวกในการจำหน่ายเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4214/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรมต่างกัน พ.ร.บ.ปุ๋ย: การผลิตและจำหน่ายปุ๋ยเคมีปลอม
โจทก์บรรยายฟ้องแยกเป็นข้อ ๆ ว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันผลิตปุ๋ยเคมีปลอมเพื่อการค้า ร่วมกันผลิตปุ๋ยเคมีซึ่งแสดงชื่อการค้าไม่ถูกต้อง ร่วมกันผลิตปุ๋ยเคมีที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่มิได้ขึ้นทะเบียน และร่วมกันจำหน่ายโดยการขายปุ๋ยเคมีดังกล่าวให้แก่ร้าน จ. แสดงว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยทั้งสองแยกเป็นรายกระทงความผิดตามที่โจทก์บรรยายฟ้อง ทั้งความผิดฐานร่วมกันผลิตปุ๋ยเคมีปลอมเพื่อการค้า ฐานร่วมกันผลิตปุ๋ยเคมีซึ่งแสดงชื่อการค้าไม่ถูกต้อง และฐานร่วมกันผลิตปุ๋ยเคมีที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่มิได้ขึ้นทะเบียน กับความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายปุ๋ยเคมีดังกล่าวเป็นความผิดที่ต้องอาศัยเจตนาในการกระทำความผิดแยกต่างหากจากกันได้ แม้ปุ๋ยเคมีปลอม ปุ๋ยเคมีซึ่งแสดงชื่อการค้าไม่ถูกต้อง ปุ๋ยเคมีที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่มิได้ขึ้นทะเบียน และปุ๋ยเคมีที่จำเลยทั้งสองร่วมกันจำหน่ายเป็นจำนวนเดียวกัน และจำเลยทั้งสองร่วมกันขายปุ๋ยเคมีดังกล่าวในช่วงเวลาเดียวกันก็ตาม แต่การกระทำของจำเลยทั้งสองดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าจำเลยทั้งสองมีเจตนาแยกการร่วมกันผลิตปุ๋ยเคมีปลอมเพื่อการค้า ร่วมกันผลิตปุ๋ยเคมีซึ่งแสดงชื่อการค้าไม่ถูกต้อง และร่วมกันผลิตปุ๋ยเคมีที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่มิได้ขึ้นทะเบียนต่างหากจากการร่วมกันขายปุ๋ยเคมีดังกล่าวตั้งแต่จำเลยทั้งสองร่วมกันขายปุ๋ยเคมีให้แก่ร้าน จ. แล้ว การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันตาม ป.อ. มาตรา 91
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12268/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานผลิตและขายปุ๋ยโดยไม่ได้รับอนุญาต และโฆษณาเกินจริง: ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด
ความผิดฐานร่วมกันผลิตปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ฐานร่วมกันผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพื่อการค้าแต่ไม่นำมาขึ้นทะเบียน ฐานร่วมกันขายปุ๋ยเคมีที่ผลิตขึ้นเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ฐานร่วมกันขายปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตขึ้นเพื่อการค้าแต่ไม่นำมาขึ้นทะเบียน กับฐานร่วมกันโฆษณาขายปุ๋ยเคมีที่ทำให้เข้าใจว่าเป็นปุ๋ยที่ได้มาตรฐานเหล่านี้ ลักษณะของความผิดและการกระทำความผิดในแต่ละข้อหาที่โจทก์บรรยายฟ้องมาอาศัยเจตนาในการกระทำความผิดแตกต่างแยกจากกันได้ และบางข้อหาเป็นความผิดสำเร็จในตัวเอง และถึงแม้ปุ๋ยอินทรีย์ตามคำฟ้องข้อ 2 และ 3 บางส่วน จะเป็นปุ๋ยอินทรีย์จำนวนเดียวกัน แต่คำฟ้องข้อ 3 โจทก์ก็ได้บรรยายฟ้องว่ามีปุ๋ยอินทรีย์จำนวนหนึ่งจำนวนเท่าใดไม่ปรากฏแน่ชัดซึ่งเป็นปุ๋ยคนละจำนวนกับคำฟ้องข้อ 2 ทั้งจำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้ให้การรับสารภาพ การกระทำของจำเลยที่ 1 และที่ 2 จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตาม ป.อ. มาตรา 91 ส่วนเจตนาและความมุ่งหมายเดียวกันเพื่อนำออกจำหน่ายของจำเลยที่ 1 และที่ 2 นั้น เป็นเจตนาที่จะใช้ประโยชน์จากปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยอินทรีย์ของกลางที่ได้มาจากการกระทำความผิด มิใช่เจตนาในการกระทำความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2967/2556
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งบรรจุยาเสพติดเพื่อจำหน่ายเข้าข่ายความผิดฐาน 'ผลิต' ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด
ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4 บัญญัติว่า "ผลิต" หมายความว่า เพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป สังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์และให้หมายความรวมถึง การแบ่งบรรจุ หรือรวมบรรจุด้วย ดังนั้น การที่จำเลยแบ่งบรรจุเมทแอมเฟตามีนใส่หลอดกาแฟ 6 หลอด หลอดละ 10 เม็ด และยังเตรียมบรรจุอีก 2,600 เม็ด ซึ่งเป็นการกระทำเพื่อความสะดวกแก่การจำหน่าย ทำให้ยาเสพติดให้โทษแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น อันเป็นอันตรายแก่สังคมอย่างร้ายแรง จึงเป็นความผิดฐานผลิตเมทแอมเฟตามีนตามบทกฎหมายดังกล่าวแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11236/2556
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลิขสิทธิ์ - เครื่องหมายการค้า: โจทก์ต้องพิสูจน์การผลิต/จำหน่ายสินค้าของตนเอง หากไม่มีหลักฐาน ศาลต้องยกฟ้อง
ตามคำยืนยันรับรองข้อมูลเกี่ยวกับลิขสิทธิ์เกมเป็นคำรับรองยืนยันของกรรมการบริษัท ก. ว่า โจทก์ร่วมเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานเกมฟุตบอลเมเนเจอร์ 2009 ซึ่งได้โฆษณางานนั้นเป็นครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น มิใช่คำรับรองยืนยันของบริษัทโจทก์ร่วมในความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ส่วนในสำเนาหนังสือมอบอำนาจก็ปรากฏว่า ประธานบริษัทโจทก์ร่วมยืนยันเพียงว่าบริษัทโจทก์ร่วมเป็นเจ้าของและหรือผู้อนุญาตซึ่งเกมวิดีโอเครื่องเล่นอาร์เคดและซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์อาร์เคดภายใต้เครื่องหมายการค้าคำว่า "SEGA" เท่านั้น โจทก์ร่วมมิได้ยืนยันความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานโปรแกรมคอมพิวเตอร์เกมในฐานะเป็นผู้สร้างสรรค์งานดังกล่าวที่โจทก์อ้างในคำฟ้อง ในข้อนี้กลับปรากฏจากพยานหลักฐานของจำเลยตามสำเนาหนังสือของบริษัท ซ. ว่า บริษัท ซ. เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานแผ่นซีดีเกมฟุตบอลเมเนเจอร์ 2009 ซึ่งได้โฆษณางานครั้งแรกที่ประเทศสหราชอาณาจักร พยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมจึงรับฟังไม่ได้ว่า บริษัทโจทก์ร่วมประเทศญี่ปุ่นเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตามฟ้อง โจทก์ร่วมจึงไม่อาจมอบอำนาจให้บริษัท ก. ร้องทุกข์ดำเนินคดีแก่จำเลยในความผิดอันยอมความได้ฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ร่วมเพื่อการค้าตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 70 วรรคสอง ประกอบมาตรา 31 (1) พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสวนจำเลยในความผิดฐานนี้ และโจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดฐานดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7344/2555
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผลิตยาเสพติด (เมทแอมเฟตามีน) แม้ไม่มีพยานเห็นโดยตรง แต่มีหลักฐานเชื่อมโยงถึงการผสมและอัดเม็ดเพื่อจำหน่าย
จำเลยนำผงยาพาราเซตามอลปรุงแต่งสีและกลิ่นผสมกับผงเมทแอมเฟตามีนและใช้อุปกรณ์คล้ายจุกเติมลมยางรถยนต์ที่มีตัวอักษร wy พร้อมด้วยตะเกียบบดอัดเป็นเม็ด การกระทำของจำเลยต้องด้วย พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4 ที่นิยามคำว่า "ผลิต" ไว้หมายความว่า ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ การกระทำของจำเลยเป็นการผสม ปรุง แปรสภาพ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการผลิตเมทแอมเฟตามีนตามบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวแล้ว และมีลักษณะเป็นการเพิ่มจำนวนในการแพร่กระจายเมทแอมเฟตามีน เมื่อจำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนที่ผลิตขึ้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นการผลิตเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10599/2555
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานผลิตและจำหน่ายปุ๋ยเคมีปลอม ศาลแก้เป็นกรรมเดียวลงโทษฐานผลิตปุ๋ยเคมีปลอม
ข้อเท็จจริงตามคำฟ้องและตามทางพิจารณาฟังได้ว่า ปุ๋ยเคมีปลอมที่จำเลยผลิตโดยมิได้นำขึ้นทะเบียนและมีไว้เพื่อขายซึ่งปุ๋ยดังกล่าวนั้น เป็นปุ๋ยจำนวนเดียวกัน การกระทำของจำเลยที่ผลิตปุ๋ยเคมีเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ผลิตปุ๋ยเคมีปลอมเพื่อการค้า ผลิตปุ๋ยเคมีที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่มิได้ขึ้นทะเบียนการค้า กับมีไว้เพื่อขายซึ่งปุ๋ยเคมีปลอมและปุ๋ยที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่มิได้ขึ้นทะเบียนจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ที่ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยมาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันจึงไม่ชอบ ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยมิได้ฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 และเห็นสมควรมีคำสั่งให้ริบปุ๋ยปลอม 898 กระสอบ และกระสอบเปล่า 2,132 ใบ ของกลาง ให้แก่กรมวิชาการเกษตรเพื่อทำลายหรือจัดการตามที่เห็นสมควรตาม พ.ร.บ.ปุ๋ย พ.ศ.2518 มาตรา 72/6 เสียด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8961/2554
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลิตเมทแอมเฟตามีน - การใช้กฎหมายใหม่ (65 วรรคสาม) - การเพิ่มโทษ - ล้างมลทิน
โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่า จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันผลิตเมทแอมเฟตามีนจำนวน 50 เม็ด น้ำหนักไม่ปรากฏชัด โดยมิได้บรรยายว่าจำนวนเม็ดของเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวเป็นหน่วยการใช้ด้วย จึงไม่อาจรับฟังได้ว่า เมทแอมเฟตามีนจำนวน 50 เม็ด ดังกล่าวที่จำเลยที่ 1 ผลิต และจำเลยที่ 2 เป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่ 1 ในการกระทำความผิดฐานผลิตมีปริมาณ 50 หน่วยการใช้หรือมีปริมาณสิบห้าหน่วยการใช้ขึ้นไป กรณีจึงต้องรับฟังข้อเท็จจริงให้เป็นคุณแก่จำเลยทั้งสองว่า เมทแอมเฟตามีนจำนวน 50 เม็ด ดังกล่าวมีจำนวนหน่วยการใช้ไม่ถึงปริมาณที่กำหนดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสาม (ใหม่) ซึ่งการผลิตเมทแอมเฟตามีนโดยการแบ่งบรรจุมีจำนวนหน่วยการใช้ไม่ถึงปริมาณที่กำหนดตาม พ.ร.บ.บัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสาม (ใหม่) เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.บัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 65 วรรคสาม ซึ่งเป็นกฎหมายที่บัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมใหม่และมีเงื่อนไขอันเป็นองค์ประกอบความผิดกับมีระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงสิบห้าปี หรือปรับตั้งแต่แปดหมื่นบาทถึงสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ที่เป็นคุณมากกว่ามาตรา 65 วรรคหนึ่ง (เดิม) ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำความผิดและมีระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต ดังนั้น จึงต้องใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณบังคับแก่จำเลยทั้งสองตาม ป.อ. มาตรา 3 จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง (เดิม), 65 วรรคสาม (ใหม่), 66 วรรคหนึ่ง (ใหม่) ประกอบ ป.อ. มาตรา 83 และจำเลยที่ 2 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง (เดิม), 65 วรรคสาม (ใหม่) ประกอบ ป.อ. มาตรา 86 ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นฎีกา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจหยิบยกขึ้นอ้างและแก้ไขโดยปรับบทกฎหมายให้ถูกต้อง รวมทั้งแก้ไขโทษเสียใหม่ให้เหมาะสมสอดคล้องกับบทกฎหมายที่แก้ไขใหม่ดังกล่าวได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11316/2553
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในสิ่งบันทึกเสียงและมาสเตอร์เทป: เจ้าของลิขสิทธิ์คือผู้ผลิตหรือผู้แต่งเพลง? ศาลยืนตามศาลชั้นต้น
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นนักประพันธ์เพลงโดยเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานเพลง สิ่งบันทึกเสียงหรือต้นฉบับเพลง 52 เพลง จำเลยทั้งห้าละเมิดลิขสิทธิ์โจทก์โดยนำสิ่งบันทึกเสียงหรือต้นฉบับเพลงดังกล่าวไปให้ผู้อื่นเช่าและใช้ประโยชน์ ทำซ้ำ ดัดแปลงและเผยแพร่ต่อสาธารณชนเพื่อการค้าและหากำไรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์ทำให้โจทก์เสียหาย จำเลยทั้งห้าให้การปฏิเสธว่าโจทก์ไม่ได้เป็นผู้สร้างสรรค์และเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานบันทึกเสียงเพลงหรือต้นฉบับเพลง โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย เพลงดังกล่าวจัดทำมาสเตอร์เทปหรือต้นแบบแถบบันทึกเสียงเพลงขึ้นโดยเสียค่าตอบแทนแก่โจทก์แล้ว โจทก์ไม่ใช่เจ้าของมาสเตอร์เทปหรือต้นแบบแถบบันทึกเสียงเพลงดังกล่าว คดีจึงไม่มีประเด็นถึงเรื่องการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในคำร้องและทำนองเพลง ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยถึงประเด็นว่า โจทก์ได้โอนขายลิขสิทธิ์ในงานเพลงซึ่งก็คือคำร้องหรือทำนองเพลงให้แก่จำเลยทั้งห้าหรือไม่ด้วยนั้น เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นตามคำฟ้องอันเป็นการไม่ชอบ แม้โจทก์จะอุทธรณ์ประเด็นนี้ขึ้นมาด้วย ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศก็ไม่อาจรับวินิจฉัยเกี่ยวกับประเด็นนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7241/2552
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งบรรจุยาเสพติดเข้าข่ายความผิดฐานผลิตหรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยต้องมีลักษณะเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม
คำว่า "ผลิต" ที่ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4 บัญญัติ ให้หมายความรวมตลอดถึงการแบ่งบรรจุด้วยนั้น ต้องหมายถึงการกระทำอันมีลักษณะที่เป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม ในทำนองเดียวกับการ เพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป สังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ แต่ข้อเท็จจริงคดีนี้ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันแบ่งบรรจุเมทแอมเฟตามีนจำนวนเพียง 80 เม็ด ใส่หลอดกาแฟ ซึ่งเป็นเพียงวัตถุห่อหุ้มโดยไม่มีการกระทำใด ๆ แก่สภาพของเมทแอมเฟตามีนนั้นและทางนำสืบของโจทก์ไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าจำเลยทั้งสองแบ่งบรรจุเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเป็นอันตรายแก่สังคมอย่างร้ายแรงทำนองเดียวกับการ เพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป หรือสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นความผิดฐานผลิตเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย