พบผลลัพธ์ทั้งหมด 179 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 795/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่โจทก์ในการพิสูจน์การครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมาย เพื่อให้ลงโทษฐานมีอาวุธปืนไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนและมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และจำเลยใช้อาวุธปืนนั้น จำเลยปฏิเสธตลอดข้อหา ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยใช้ปืนยิงขู่ ไม่มีเจตนาจะฆ่า เช่นนี้ เกี่ยวกับอาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงนั้น ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า เป็นหน้าที่โจทก์ต้องนำสืบว่าปืนนั้นไม่มีทะเบียน และจำเลยไม่มีใบอนุญาต มิฉะนั้น ก็ลงโทษฐานมีอาวุธปืนไม่รับอนุญาตไม่ได้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 618/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขัดขวางเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่: การรื้อรั้วผิดกฎหมายและการขัดขวางการรื้อ
เจ้าพนักงานมีคำสั่งตามอำนาจหน้าที่ให้จัดการรื้อรั้วไชมานและจ้างคนให้ทำการรื้อโดยอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงานโดยใกล้ชิด จำเลยทราบแล้วยังขืนเข้าผลักคนรื้อเพื่อขัดขวางการรื้อ ย่อมมีความผิดฐานขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 304/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยุยงทหารบ่อนวินัยไม่เข้าข่ายนิรโทษกรรม และการใช้สิทธิหาเสียงต้องไม่ผิดกฎหมาย
เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2500. จำเลยทำผิดฐานยุยงทหารให้ก่อการกำเริบโดยมุ่งหมายจะบ่อนให้วินัยและสมรรถภาพของกรมกองทหารเสื่อมทรามลงอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 115จำเลยจะอ้างว่าการกระทำของจำเลยอยู่ในข่ายแห่งพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำการยึดอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินเมื่อวันที่ 16 กันยายนพ.ศ.2500 หาได้ไม่เพราะ พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมดังกล่าวนี้ใช้แก่ผู้กระทำการยึดอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินเมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2500
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 471/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรื้ออาคารผิดกฎหมาย: จำเลยผู้รับเหมาต้องพิสูจน์ก่อนว่ามอบอาคารให้เจ้าของแล้ว
การที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรื้ออาคารที่สร้างขึ้นผิดเทศบัญญัติและจำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยเป็นเพียงรับเหมาก่อสร้าง เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็มอบอาคารให้เจ้าของ มีผู้เช่าเต็ม ดังนี้ แม้จะฟังว่าการสร้างอาคารไม่มีอนุญาตจริงก็ต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่จำเลยต่อสู้ไว้เสียก่อนที่จะวินิจฉัยถึงปัญหาอื่นว่าจะสั่งให้รื้อหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบไม้แปรรูปที่ผิดกฎหมาย: ไม้แปรรูปก็ต้องริบตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
ไม้สักแปรรูปที่จำเลยมีไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตนั้น ต้องถูกสั่งริบด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบไม้แปรรูปผิดกฎหมาย: ไม้แปรรูปก็ต้องริบตามกฎหมายป่าไม้
ไม้สักแปรรูปที่จำเลยมีไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตนั้น ต้องถูกสั่งริบด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2133/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ ‘สุรา’ ต้องแสดงได้ว่าเมื่อผสมกับน้ำแล้วดื่มกินได้ และจำเลยรู้ว่าเป็นสุราผิดกฎหมาย
เมื่อตามฟ้องและคำให้การจำเลย ฟังได้เพียงว่าจำเลยมีแอลกอฮอล์ตามฟ้องไว้จริง ศาลจะงดสืบพยานโจทก์และตัดสินว่าจำเลยไม่มีผิดหาได้ไม่
เพื่อที่จะฟังว่า จำเลยมีผิดหรือไม่ จะต้องให้โจทก์สืบพยานว่าแอลกอฮอล์นั้นเมื่อได้ผสมกับน้ำหรือของเหลวอย่างอื่นแล้วสามารถดื่มกินได้เช่นเดียวกับน้ำสุรา และจำเลยรู้ว่าเป็นสุราที่ทำขึ้นโดยฝ่าฝืนกฎหมายและฟังพยานจำเลยต่อไป.
เพื่อที่จะฟังว่า จำเลยมีผิดหรือไม่ จะต้องให้โจทก์สืบพยานว่าแอลกอฮอล์นั้นเมื่อได้ผสมกับน้ำหรือของเหลวอย่างอื่นแล้วสามารถดื่มกินได้เช่นเดียวกับน้ำสุรา และจำเลยรู้ว่าเป็นสุราที่ทำขึ้นโดยฝ่าฝืนกฎหมายและฟังพยานจำเลยต่อไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2133/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ลักษณะ ‘สุรา’ ตามกฎหมาย จำเป็นต้องแสดงให้เห็นว่าแอลกอฮอล์เมื่อผสมกับของเหลวอื่นสามารถดื่มกินได้ และจำเลยทราบว่าเป็นสุราที่ผิดกฎหมาย
เมื่อตามฟ้องและคำให้การจำเลย ฟังได้เพียงว่าจำเลยมีแอลกอฮอล์ตามฟ้องไว้จริง ศาลจะงดสืบพยานโจทก์และตัดสินว่าจำเลยไม่มีผิดหาได้ไม่
เพื่อที่จะฟังว่า จำเลยมีผิดหรือไม่ จะต้องให้โจทก์สืบพยานว่าแอลกอฮอล์นั้นเมื่อได้ผสมกับน้ำหรือของเหลวอย่างอื่นแล้วสามารถดื่มกินได้เช่นเดียวกับน้ำสุรา และจำเลยรู้ว่าเป็นสุราที่ทำขึ้นโดยฝ่าฝืนกฎหมายและฟังพยานจำเลยต่อไป (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2500)
เพื่อที่จะฟังว่า จำเลยมีผิดหรือไม่ จะต้องให้โจทก์สืบพยานว่าแอลกอฮอล์นั้นเมื่อได้ผสมกับน้ำหรือของเหลวอย่างอื่นแล้วสามารถดื่มกินได้เช่นเดียวกับน้ำสุรา และจำเลยรู้ว่าเป็นสุราที่ทำขึ้นโดยฝ่าฝืนกฎหมายและฟังพยานจำเลยต่อไป (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2500)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2132/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางคดียาเสพติด: การครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตแม้ไม่ได้ระบุชื่อผู้ครอบครอง
ข้อเท็จจริงได้ความว่าฝิ่นจำนวน 77,700 กรัม เจ้าพนักงานค้นได้ในบริเวณที่เกิดเหตุ แม้โจทก์จะฟ้องหาว่าจำเลยมีฝิ่นอีกจำนวนหนึ่งไม่ใช่จำนวนที่ค้นได้นี้ และจำเลยรับสารภาพว่าฝิ่นที่ฟ้องหาว่าจำเลย+++เป็นของจำเลย และไม่ได้ให้การถึงฝิ่น 77,700 กรัม ที่ค้นได้ว่าเป็นของใคร ก็ฟังได้ว่าฝิ่นที่ค้นได้และไม่ได้ฟ้องว่าเป็นของจำเลย เป็นของมีไว้โดยผิดกฎหมาย เพราะไม่ใช่ฝิ่นของรัฐบาลและถูกจับในที่เกิดเหตุเนื่องจากจำเลยทำผิดกฎหมายฐานมีฝิ่นไม่ใช่ของรัฐบาลไว้ในครอบครอง แต่เมื่อโจทก์ขอริบฝิ่นจำนวนนี้มาด้วย ศาลก็มีอำนาจริบได้.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2500)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2500)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1569/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีไม้แปรรูปเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด จำเลยต้องพิสูจน์ข้อยกเว้นเพื่อพ้นผิด
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษทางอาญาแก่จำเลยฐานมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองเกินกว่าปริมาณที่กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ มาตรา 48 ถ้าจำเลยต่อสู้ว่าได้รับยกเว้นโทษตาม มาตรา 50 จำเลยจะต้องนำสืบว่ากรณีต้องด้วยข้อยกเว้นนั้น มิฉะนั้นก็ไม่อาจพ้นผิดไปได้