คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผิดหลายบท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 147 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2434/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: หน่วงเหนี่ยวและกรรโชกทรัพย์เป็นคนละกรรม
การที่จำเลยที่ 1 กับพวกเอาตัวผู้เสียหายไปหน่วงเหนี่ยวไว้ในห้องพักโรงแรม ทำให้ผู้เสียหายปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นความผิดสำเร็จกรรมหนึ่งแล้ว เมื่อจำเลยที่ 1 กับพวกขู่เข็ญข่มขืนใจผู้เสียหาย จนกระทั่งผู้เสียหายยอมให้เงินแก่จำเลยที่ 1 กับพวกเป็นความผิดฐานกรรโชกอีกกรรมหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1791/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท กรณีครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายและพยายามส่งออกนอกราชอาณาจักร
จำเลยมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามส่งออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายซึ่งเฮโรอีนของกลางอันเป็นเฮโรอีนจำนวนเดียวกัน แม้จำเลยจะมีเฮโรอีนของกลางไว้เพื่อจำหน่าย แต่การกระทำของจำเลยมีเจตนาประสงค์ต่อผลประการเดียวที่จะนำเฮโรอีนของกลางออกนอกราชอาณาจักร ถึงโจทก์จะบรรยายฟ้องแยกการกระทำของจำเลยเป็นสองตอน ก็ถือได้ว่าเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษบทหนัก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 501-503/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท ปลอมเอกสารหลอกลวงประกันชีวิต ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษตามกฎหมายที่หนักที่สุด
จำเลยปลอมใบสมัครสมาชิกประเภทสวัสดิการสงเคราะห์หนังสือรับรองวันมรณะ สำเนาใบมรณะ สำเนาทะเบียนบ้านและใช้เอกสารปลอมเหล่านั้น ก็โดยมีเจตนาที่จะใช้เป็นหลักฐานในการหลอกลวงบริษัทประกันชีวิต เป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกันตั้งแต่จำเลยปลอมไปจนถึงวันที่ใช้เอกสารปลอมฉบับสุดท้ายเพื่อรับเงินจากบริษัท ไม่ว่าจะใช้เอกสารปลอมพร้อมกันครั้งเดียวหรือใช้คนละครั้ง จึงเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท-การเพิ่มโทษเกินกรอบ: กรณีประทับตราอนุญาตชักลากไม้และทำบัญชีเท็จ
ตามระเบียบการตรวจวัดประทับตราอนุญาตชักลากไม้ และตามคำสั่งของป่าไม้เขตที่ให้จำเลยออกไปตรวจวัดประทับตราอนุญาตชักลากไม้ จำเลยจะต้องทำบัญชีอนุญาตชักลากไม้ด้วย ดังนั้น การที่จำเลยทำบัญชีอนุญาตชักลากไม้เป็นเท็จก็เพื่อให้การประทับตราอนุญาตชักลากไม้ไม่ถูกต้อง ตามระเบียบเสร็จสิ้นไปโดยบริบูรณ์ การทำบัญชีอนุญาตชักลากไม้เป็นเท็จกับการประทับตราอนุญาตชักลากไม้ไม่ถูกต้องตามระเบียบจึงเป็นกรรมเดียวกันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แม้ขั้นตอนที่จะต้องกระทำ จำเลยต้องประทับตราอนุญาตชักลากไม้ก่อนแล้วจึงทำบัญชีอนุญาตชักลากก็หาทำให้การกระทำของจำเลยเป็นสองกรรมต่างกันไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 160, 162 แต่ละกรรมเป็นความผิดตามมาตรา 157 ด้วย ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนักทั้งสองกระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี ข้อหาทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติให้ยกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติด้วย ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยตามมาตรา 160, 162 เป็นความผิดกรรมเดียวกัน พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 160, 162 และ 157 ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด จำคุก 10 ปี ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าโจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยหนักขึ้น การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยกระทงเดียว 10 ปี เป็นการพิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลย ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: การประทับตราอนุญาตชักลากไม้เท็จ และการทำบัญชีขนาดไม้เป็นเท็จ
ตามระเบียบการตรวจวัดประทับตราอนุญาตชักลากไม้ และตามคำสั่งของป่าไม้เขต ที่ให้จำเลยออกไปตรวจวัด ประทับตราอนุญาตชักลากไม้ จำเลยจะต้องทำบัญชีอนุญาต ชักลากไม้ด้วย ดังนั้น การที่จำเลยทำบัญชีอนุญาตชักลากไม้ เป็นเท็จก็เพื่อให้การประทับตราอนุญาตชักลากไม้ไม่ถูกต้อง ตามระเบียบเสร็จสิ้นไปโดยบริบูรณ์ การทำบัญชีอนุญาต ชักลากไม้เป็นเท็จกับการประทับตราอนุญาตชักลากไม้ไม่ถูกต้อง ตามระเบียบจึงเป็นกรรมเดียวกันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แม้ขั้นตอนที่จะต้องกระทำ จำเลยต้องประทับตราอนุญาต ชักลากไม้ก่อนแล้วจึงทำบัญชีอนุญาตชักลากไม้ ก็หาทำให้ การกระทำของจำเลยเป็นสองกรรมต่างกันไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 160,162 แต่ละกรรมเป็นความผิดตามมาตรา 157ด้วย ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนักทั้งสองกระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี ข้อหาทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ให้ยกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษ จำเลยฐานทำไม้ใน เขตป่าสงวนแห่งชาติด้วย ศาลอุทธรณ์ วินิจฉัยว่าการกระทำ ของจำเลยตามมาตรา 160,162 เป็นความผิดกรรมเดียวกัน พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมี ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 160,162 และ 157 ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่ง เป็นบทหนักที่สุด จำคุก 10 ปี ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าโจทก์อุทธรณ์ ขอให้ลงโทษจำเลย หนักขึ้น การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษา ลงโทษ จำคุกจำเลย กระทงเดียว 10 ปี เป็นการพิพากษา เพิ่มเติม โทษจำเลยไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1005/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: ใช้เอกสารปลอมเพื่อฉ้อโกง
การที่จำเลยใช้เอกสารราชการปลอมเพื่อฉ้อโกงเอาทรัพย์สินของโจทก์ร่วมเป็นการกระทำผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2518/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: การขายยาเสพติดจำนวนที่จำเลยมีอยู่ทั้งหมด
เมื่อแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ที่จำเลยขายไปเป็นจำนวนเดียวกับที่จำเลยมีอยู่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2125/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: การระงับสิทธิฟ้องคดีบุกรุกหลังถูกลงโทษทำร้ายร่างกาย
โจทก์จำเลยทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันจนถูกศาลพิพากษาลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ทั้งสองคน0 และคดีถึงที่สุดแล้วนั้น เป็นผลสืบเนื่องและยังไม่ขาดตอนกับที่จำเลยบุกรุกเข้าไปทำร้ายร่างกายโจทก์ในคดีนี้จึงเป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทสิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ในข้อหาฐานบุกรุกอันเป็นมูลกรณีเดียวกันย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมเอกสาร-ช่วยเหลือคนต่างด้าว: กรรมเดียวผิดหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
จำเลยลงชื่อและลงวันที่ย้อนหลังในทะเบียนบ้านและสำเนาทะเบียนบ้านเป็นการกระทำในระหว่างที่จำเลยย้ายไปรับราชการที่อำเภออื่นแล้ว จำเลยไม่มีอำนาจหน้าที่อย่างใดที่กิ่งอำเภอเดิมอีก และการลงวันที่ย้อนหลังนั้น จำเลยมีเจตนาให้เห็นว่าบุคคลเข้ามามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านระหว่างที่จำเลยรับราชการอยู่ที่กิ่งอำเภอเดิม ซึ่งไม่เป็นความจริงการกระทำของจำเลยจึงเป็นการปลอมเอกสารราชการ และเมื่อจำเลยนำเอกสารดังกล่าวไปอ้างและแสดงต่อ ฉ. เจ้าหน้าที่ถ่ายภาพทำบัตรประจำตัวประชาชน จน ฉ. เชื่อว่าเป็นความจริงจึงได้ถ่ายภาพและออกใบแทนบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่บุคคลนั้นไป ถือได้ว่าจำเลยได้ใช้เอกสารราชการปลอมแล้ว
จ.เป็นคนสัญชาติลาวและจำเลยพาไปทำบัตรประจำตัวประชาชนเป็นการช่วยเหลือคนต่างด้าวซึ่งรู้ว่าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองมิให้ถูกจับกุม
การที่จำเลยกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารก็ดี ใช้เอกสารปลอมก็ดีก็เพื่อช่วยเหลือคนต่างด้าวให้มีบัตรประจำตัวเช่นเดียวกับคนสัญชาติไทย ซึ่งการกระทำความผิดดังกล่าวเป็นความผิดฐานช่วยเหลือคนต่างด้าวเพื่อมิให้ถูกจับกุมอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2493 มาตรา 63 อีกบทหนึ่ง การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ต้องลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วย มาตรา 265 ซึ่งเป็นบทหนัก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมเอกสารราชการ-ช่วยเหลือคนต่างด้าว: กรรมเดียวผิดหลายบท
จำเลยลงชื่อและลงวันที่ย้อนหลังในทะเบียนบ้านและสำเนาทะเบียนบ้านเป็นการกระทำในระหว่างที่จำเลยย้ายไปรับราชการที่อำเภออื่นแล้ว จำเลยไม่มีอำนาจหน้าที่อย่างใดที่กิ่งอำเภอเดิมอีก และการลงวันที่ย้อนหลังนั้นจำเลยมีเจตนาให้เห็นว่าบุคคลเข้ามามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านระหว่างที่จำเลยรับราชการอยู่ที่กิ่งอำเภอเดิมซึ่งไม่เป็นความจริง การกระทำของจำเลยจึงเป็นการปลอมเอกสารราชการ และเมื่อจำเลยนำเอกสารดังกล่าวไปอ้างและแสดงต่อ ฉ. เจ้าหน้าที่ถ่ายภาพทำบัตรประจำตัวประชาชน จน ฉ. เชื่อว่าเป็นความจริงจึงได้ถ่ายภาพและออกใบแทนบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่บุคคลนั้นไป ถือได้ว่าจำเลยได้ใช้เอกสารราชการปลอมแล้ว
จ. เป็นคนสัญชาติลาวและจำเลยพาไปทำบัตรประจำตัวประชาชนเป็นการช่วยเหลือคนต่างด้าวซึ่งรู้ว่าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองมิให้ถูกจับกุม
การที่จำเลยกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารก็ดี ใช้เอกสารปลอมก็ดี ก็เพื่อช่วยเหลือคนต่างด้าวให้มีบัตรประจำตัวเช่นเดียวกับคนสัญชาติไทย ซึ่งการกระทำความผิดดังกล่าวเป็นความผิดฐานช่วยเหลือคนต่างด้าวเพื่อมิให้ถูกจับกุมอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2493 มาตรา 63 อีกบทหนึ่ง การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ต้องลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วย มาตรา 265ซึ่งเป็นบทหนัก
of 15