พบผลลัพธ์ทั้งหมด 256 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1641/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำที่มีอายุไม่เกิน 17 ปี ต้องนำหลักเกณฑ์จากประมวลกฎหมายอาญามาใช้
จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกในคดีก่อนฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองมีกำหนด 6 เดือน ในขณะที่จำเลยมีอายุไม่เกิน 17 ปี แล้วมากระทำผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายในคดีนี้อีก จะเพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา97 ไม่ได้ เพราะประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 17 ได้บัญญัติให้นำบทบัญญัติในภาค 1 ไปใช้ในกรณีแห่งความผิดตามกฎหมายอื่นด้วย เว้นแต่กฎหมายนั้นๆ จะได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น เมื่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522มิได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น จึงต้องนำประมวลกฎหมายอาญามาตรา 94 มาใช้บังคับแก่คดีนี้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2750/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญาคดีทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่า แม้ไม่ระบุตัวผู้กระทำผิดเฉพาะเจาะจง
ฟ้องของโจทก์ตอนแรกบรรยายว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฝ่ายหนึ่งและจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 อีกฝ่ายหนึ่ง ได้บังอาจเข้าทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน โจทก์บรรยายฟ้องตอนต่อไปใจความว่าโดนจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้บังอาจร่วมกันชกต่อยทำร้าย และใช้อาวุธปืนยิงจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 โดยเจตนาฆ่า แต่กระสุนปืนไม่ถูกอวัยวะสำคัญของจำเลยที่ 4 และไม่ถูกจำเลยที่ 3 ที่ 5 ส่วนจำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 ได้บังอาจร่วมกันใช้ไม้ท่อนและมีดดาบเป็นอาวุธตีและฟันทำร้ายจำเลยที่ 1 ที่ 2 โดยเจตนาฆ่า แต่ไม่ถูกอวัยวะสำคัญ จำเลยทั้งสองฝ่ายจึงไม่ถึงแก่ความตาย ดังนี้เห็นว่าฟ้องของโจทก์กล่าวไว้ชัดว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฝ่ายหนึ่งกระทำผิดข้อหาพยายามฆ่าและทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 และจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ฝ่ายหนึ่ง กระทำผิดข้อหาพยายามฆ่าและทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 1 ที่ 2 แม้จำเลยไม่บรรยายว่าจำเลยคนใดทำร้ายจำเลยคนใด ก็เป็นการบรรยายพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี เพราะฟ้องโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยแต่ละฝ่ายสมคบกันกระทำผิด ฟ้องของโจทก์จึงสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2750/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา พยายามฆ่า/ทำร้ายร่างกาย แม้ไม่ได้ระบุตัวผู้กระทำผิดเฉพาะเจาะจง
ฟ้องของโจทก์ตอนแรกบรรยายว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฝ่ายหนึ่งและจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 อีกฝ่ายหนึ่ง ได้บังอาจเข้าทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน โจทก์บรรยายฟ้องตอนต่อไปใจความว่าโดยจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้บังอาจร่วมกันชกต่อยทำร้าย และใช้อาวุธปืนยิงจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 โดยเจตนาฆ่า แต่กระสุนปืนไม่ถูกอวัยวะสำคัญของจำเลยที่ 4 และไม่ถูกจำเลยที่ 3 ที่ 5 ส่วนจำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 ได้บังอาจร่วมกันใช้ไม้ท่อนและมีดดาบเป็นอาวุธตีและพันทำร้ายจำเลยที่ 1 ที่ 2 โดยเจตนาฆ่า แต่ไม่ถูกอวัยวะสำคัญ จำเลยทั้งสองฝ่ายจึงไม่ถึงแก่ความตาย ดังนี้ เห็นว่าฟ้องของโจทก์กล่าวไว้ชัดว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฝ่ายหนึ่งกระทำผิดข้อหาพยายามฆ่าและทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5และจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ฝ่ายหนึ่ง กระทำผิดข้อหาพยายามฆ่าและทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 1 ที่ 2 แม้จะไม่บรรยายว่าจำเลยคนใดทำร้ายจำเลยคนใด ก็เป็นการบรรยายพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี เพราะฟ้องโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยแต่ละฝ่ายสมคบกันกระทำผิด ฟ้องของโจทก์จึงสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1461/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบเงินให้วิ่งเต้นสอบราชการ: ผู้มอบเงินเป็นผู้กระทำผิด ไม่ใช่ผู้เสียหาย
น.เป็นหลานของ ว. สมัครสอบคัดเลือกเข้ารับราชการ จำเลยบอก ว. ว่าจำเลยสามารถติดต่อวิ่งเต้นให้ น.สอบได้ ถ้าต้องการให้หาเงินมาให้ ว.หลงเชื่อ มอบเงินให้จำเลยไป ผลที่สุดปรากฏว่า น.สอบไม่ได้ ดังนี้ ตามพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่า ว. มอบเงินให้จำเลยไปก็โดยมุ่งหมายจะให้กรรมการสอบช่วยให้ น.สอบได้ เท่ากับว่า ว. ใช้ให้จำเลยไปจูงใจให้เจ้าพนักงานกรรมการสอบทรัพย์สินเพื่อ การทำการหรือไม่กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ ซึ่งจะเป็นคุณแก่ น. อาจถือได้ว่า ว. ใช้ให้จำเลยกระทำความผิด ว.จึงมิใช่ผู้เสียหาย ที่จะร้องทุกข์คดีนี้ได้ และพนักงานอัยการโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง (อ้างคำพิพากาษาฎีกาที่ 340/2506)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดช่วยเหลือผู้กระทำผิด: เจ้าพนักงานไม่ต้องแจ้งรายละเอียดความผิด เพียงแจ้งว่าเป็นผู้กระทำผิด
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 นั้น เจ้าพนักงานผู้ติดตามจับกุมผู้กระทำผิดหาจำต้องแก่ผู้ให้ที่พำนักซ่อนเร้นทราบว่าผู้กระทำความผิดหรือผู้ต้องหาว่า กระทำความผิดได้กระทำความผิดฐานใด เพียงแต่แจ้งให้ทราบว่าบุคคลที่ตนให้ที่พำนักซ่อนเร้นเป็นผู้กระทำผิดก็พอแล้ว ส่วนจะเป็นความผิดฐานใดนั้นเป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะต้องกล่าวในฟ้องและนำสืบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1528/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอคืนของกลางโดยมิสุจริต ผู้ขอไม่ใช่ผู้เสียหายจริงแต่เพื่อประโยชน์ผู้กระทำผิด ศาลไม่ควรสั่งคืน
ผู้ร้องให้เช่าซื้อรถยนต์บรรทุกของกลางแก่ อ. ระหว่าง อ. ส่งชำระค่าเช่าซื้อเหลืออีก 8 งวด จำเลยที่ 1 ได้นำรถยนต์ดังกล่าวไปขนไม้เถื่อนด้วยความรู้เห็นของ อ. ผู้ร้องประสงค์เพียงค่าเช่าซื้อที่ค้าง ส่วนการขอคืนรถยนต์ของกลางในคดีนี้แท้จริงเป็นความประสงค์ของ อ. ผู้ร้องยอมให้ อ. ใช้ชื่อผู้ร้องบังหน้าในการขอคืนของกลาง ดังนี้ ถือว่าเป็นการขอคืนของกลางเพื่อประโยชน์ของ อ. ผู้รู้เห็นในการกระทำความผิด กรณีไม่มีเหตุที่ศาลจะสั่งคืนให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1528/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอคืนของกลางต้องสุจริต ผู้ขอคืนต้องเป็นผู้เสียหายจริง มิใช่ตัวแทนผู้กระทำผิด
ผู้ร้องให้เช่าซื้อรถยนต์บรรทุกของกลางแก่ อ.ระหว่างอ.ส่งชำระค่าเช่าซื้อเหลืออีก 8 งวด จำเลยที่ 1 ได้นำรถยนต์ดังกล่าวไปขนไม้เถื่อนด้วยความรู้เห็นของอ.ผู้ร้องประสงค์เพียงค่าเช่าซื้อที่ค้างคืนส่วนการขอคืนรถยนต์ของกลางในคดีนี้แท้จริงเป็นความประสงค์ของ อ. ผู้ร้องยอมให้ อ.ใช้ชื่อผู้ร้องบังหน้าในการขอคืนของกลาง ดังนี้ถือว่าเป็นการขอคืนของกลางเพื่อประโยชน์ของ อ.ผู้รู้เห็นในการกระทำความผิดกรณีไม่มีเหตุที่ศาลจะสั่งคืนให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1131/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องค่าเสียหาย: รู้ตัวผู้กระทำผิดเมื่อใด
อธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลขตั้งกรรมการสอบสวนกรณียักยอกเงินคณะกรรมการเปรียบเสมือนเครื่องมือของกรม ถือว่ากรมรู้ตัวผู้รับผิดในวันที่คณะกรรมการรายงานให้กรมทราบ ซึ่งเป็นวันที่ 10 มิถุนายน 2518 โจทก์ฟ้องคดีวันที่ 25 มิถุนายน 2519 คดีขาดอายุความตาม มาตรา 448 การที่อธิบดียังไม่ได้พิจารณารายงานและให้กองนิติการพิจารณาให้ความเห็นอีก ก็ไม่เป็นเหตุที่จะกล่าวว่ากรมซึ่งผู้รักษาการแทนอธิบดีเป็นผู้แทนนิติบุคคลอยู่ยังไม่รู้ตัวผู้ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1090/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนการกระทำความผิดฐานพยายามฆ่า: การช่วยเหลือผู้กระทำผิดหลังการกระทำความผิดเป็นเพียงการสนับสนุน
จำเลยที่ 1 แต่ผู้เดียวเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงส. ในบริเวณบ้าน เมื่อยิงแล้วจำเลยที่ 1 ได้วิ่งไปขึ้นนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่จำเลยที่ 2 จอดติดเครื่องรออยู่ห่างที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตรเศษ แล้วจำเลยที่ 2ได้ขับรถจักรยานยนต์พาหนีไปทันทีพฤติการณ์และการกระทำของจำเลยที่ 2 ดังกล่าวเป็นแต่เพียงการช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1 ในการกระทำความผิดซึ่งเป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 921/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของคำสั่ง คปค. ที่ให้ผู้ครอบครองอาวุธสงครามมามอบเพื่อไม่ให้ถูกลงโทษ เหนือกว่ากฎหมายเดิม
ภายหลังจากวันที่จำเลยถูกกล่าวหาว่ามีอาวุธปืนและกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 แล้วได้มีคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 12 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2519 สั่งให้บุคคลที่มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามไว้ในความครอบครอง ซึ่งเป็นความผิดมาแต่ก่อนคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินดังกล่าวใช้บังคับไม่ว่าการกระทำนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อใด สามารถนำมามอบให้นายทะเบียนท้องที่ได้ภายในวันที่ 14 ตุลาคม 2519 โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ จึงเป็นกฎหมายที่เป็นคุณแก่ผู้กระทำผิดยิ่งกว่ากฎหมายที่ใช้อยู่ในเวลาที่จำเลยถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด ต้องใช้คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 12 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2519บังคับแก่การกระทำของจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 วรรคแรกจำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ ของกลางริบ