คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พนักงาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 132 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องสัญญาเช่าซื้อ: พนักงานลงนามแทนบริษัท ถือเป็นคู่สัญญาที่ถูกต้อง
สัญญาเช่าซื้อระบุชื่อบริษัทโจทก์ผู้ให้เช่าซื้อกับจำเลยผู้เช่าซื้อไว้ชัดแจ้ง โดยพนักงานของบริษัทโจทก์ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการซื้อขายลงชื่อในสัญญาเช่าซื้อในนามบริษัทโจทก์ เป็นการทำแทนบริษัทโจทก์ มิใช่ทำเป็นส่วนตัว ซึ่งจำเลยก็ทราบดี เมื่อจำเลยลงชื่อไว้ในสัญญาและได้รับทรัพย์ที่เช่าซื้อไปแล้ว สัญญาเช่าซื้อย่อมมีผลผูกพันบริษัทโจทก์กับจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องสัญญาเช่าซื้อ: การลงนามในสัญญาโดยพนักงานย่อมผูกพันบริษัท, สัญญาชัดเจนคู่สัญญาทราบดี
สัญญาเช่าซื้อระบุชื่อบริษัทโจทก์ผู้ให้เช่าซื้อกับจำเลยผู้เช่าซื้อไว้ชัดแจ้งโดยพนักงานของบริษัทโจทก์ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการซื้อขายลงชื่อในสัญญาเช่าซื้อในนามบริษัทโจทก์ เป็นการทำแทนบริษัทโจทก์ มิใช่ทำเป็นส่วนตัว ซึ่งจำเลยก็ทราบดี เมื่อจำเลยลงชื่อไว้ในสัญญาและได้รับทรัพย์ที่เช่าซื้อไปแล้วสัญญาเช่าซื้อย่อมมีผลผูกพันบริษัทโจทก์กับจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องสัญญาเช่าซื้อ: การลงชื่อแทนบริษัทโดยพนักงานย่อมมีผลผูกพัน
สัญญาเช่าซื้อระบุชื่อบริษัทโจทก์ผู้ให้เช่าซื้อกับจำเลยผู้เช่าซื้อไว้ชัดแจ้งโดยพนักงานของบริษัทโจทก์ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการซื้อขายลงชื่อในสัญญาเช่าซื้อในนามบริษัทโจทก์. เป็นการทำแทนบริษัทโจทก์. มิใช่ทำเป็นส่วนตัว. ซึ่งจำเลยก็ทราบดี เมื่อจำเลยลงชื่อไว้ในสัญญาและได้รับทรัพย์ที่เช่าซื้อไปแล้ว. สัญญาเช่าซื้อย่อมมีผลผูกพันบริษัทโจทก์กับจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1721/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถือหุ้นของรัฐในบริษัทจำกัด และความผิดของพนักงานรัฐวิสาหกิจ
ผู้ถือหุ้นชนิดใดในบรษัทจำกัดย่อมถือว่าเป็นผู้ลงทุนในบริษัทเท่าจำนวนหุ้นที่ถือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1096 ฉะนั้นเมื่อรัฐถือหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิรวมกันเกินกว่าร้อยละห้าสิบของจำนวนหุ้นทั้งหมดของธนาคารเกษตร จำกัด แล้ว ก็ถือว่าธนาคารเกษตร จำกัด มีทุนเกินกว่าร้อยละห้าสิบเป็นของรัฐ โดยไม่ต้องคำนึงว่าหุ้นเหล่านั้นเป็นหุ้นที่ใช้ค่าหุ้นเป็นตัวเงินหรือเป็นหุ้นที่ออกให้เสมือนหนึ่งได้ใช้เต็มค่าแล้ว ฉะนั้นเมื่อจำเลยซึ่งเป็นพนักงานธนาคารเกษตร จำกัด ยักยอกเงินของธนาคาร จึงต้องมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์หรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 23/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1721/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถือหุ้นของรัฐในบริษัทจำกัดและการเป็นพนักงานหน่วยงานของรัฐเพื่อใช้บังคับกฎหมายอาญา
ผู้ถือหุ้นชนิดใดในบริษัทจำกัดย่อมถือว่าเป็นผู้ลงทุนในบริษัทเท่าจำนวนหุ้นที่ถือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1096 ฉะนั้นเมื่อรัฐถือหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิรวมกันเกินกว่าร้อยละห้าสิบของจำนวนหุ้นทั้งหมดของธนาคารเกษตร จำกัด แล้ว ก็ถือว่าธนาคารเกษตร จำกัด มีทุนเกินกว่าร้อยละห้าสิบเป็นของรัฐ โดย ไม่ต้องคำนึงว่าหุ้นเหล่านั้นเป็นหุ้นที่ใช้ค่าหุ้นเป็นตัวเงินหรือเป็นหุ้นที่ออกให้เสมือนหนึ่งได้ใช้เต็มค่าแล้ว ฉะนั้นเมื่อจำเลยซึ่งเป็นพนักงานธนาคารเกษตร จำกัด ยักยอกเงินของธนาคาร จึงต้องมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 23/2512)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1721/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถือหุ้นของรัฐในบริษัทจำกัดและการเป็นพนักงานหน่วยงานของรัฐเพื่อใช้บังคับกฎหมายอาญา
ผู้ถือหุ้นชนิดใดในบริษัทจำกัดย่อมถือว่าเป็นผู้ลงทุนในบริษัทเท่าจำนวนหุ้นที่ถือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1096. ฉะนั้นเมื่อรัฐถือหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิรวมกันเกินกว่าร้อยละห้าสิบของจำนวนหุ้นทั้งหมดของธนาคารเกษตร จำกัด แล้ว. ก็ถือว่าธนาคารเกษตร จำกัด มีทุนเกินกว่าร้อยละห้าสิบเป็นของรัฐ. โดย.ไม่ต้องคำนึงว่าหุ้นเหล่านั้นเป็นหุ้นที่ใช้ค่าหุ้นเป็นตัวเงินหรือเป็นหุ้นที่ออกให้เสมือนหนึ่งได้ใช้เต็มค่าแล้ว. ฉะนั้นเมื่อจำเลยซึ่งเป็นพนักงานธนาคารเกษตร จำกัด ยักยอกเงินของธนาคาร จึงต้องมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐพ.ศ.2502. (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 23/2512).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 841/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพนักงานธนาคารฉ้อโกง ยักยอกเงินผู้ฝาก ผู้จัดการต้องรับผิดฐานทรยศความไว้วางใจ
การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการมีหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบทั่วไปในธุระกิจและควบคุมบังคับบัญชาพนักงานของธนาคารออมสินสาขาบังอาจปลอมใบถอนเงินของผู้ฝากแล้วกรอกจำนวนเงินนำไปเบิกต่อธนาคารออมสินที่จำเลยเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วเบียดบังยักยอกไว้เป็นของตนโดยทุจริตนั้นถือว่าเป็นความผิดที่จำเลยได้กระทำในฐานะเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความคำว่า 'พนักงาน' ใน พ.ร.บ.ความผิดของพนักงานฯ และขอบเขตการฟ้องคดีอาญาเฉพาะ
ตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 ให้บทวิเคราะห์ศัพท์คำว่า "พนักงาน" ไว้ให้หมายถึง บุคคลต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ ทั้งนี้นอกจากผู้เป็นเจ้าพนักงานอยู่แล้วตามกฎหมาย จำเลยเป็นพนักงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย จำเลยย่อมเป็นเจ้าพนักงานอยู่แล้วตามกฎหมาย คือเป็นเจ้าพนักงานตามความที่บัญญัติไว้ในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 ฉะนั้น จำเลยจึงไม่เป็นพนักงาน" ตามความหมายที่บัญญัติไว้ในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 แต่เพียงประการเดียว เมื่อจำเลยมิได้เป็น "พนักงาน" ซึ่งจะมีความผิดตามมาตรานี้ได้แล้ว ก็ต้องยกฟ้อง จะยกบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายอาญาขึ้นมาพิจารณาลงโทษจำเลยโดยโจทก์มิได้ขอมาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานลักทรัพย์จากพนักงานที่ครอบครองทรัพย์สินของนายจ้าง
การที่จำเลยเป็นลูกจ้างในโรงแรมแห่งหนึ่ง และทำหน้าที่เป็นพนักงานขายสุรานั้น สุราที่จะเลยไปเบิกมาขายยังอยู่ในความครอบครองของโรงแรม ฉะนั้น เมื่อจำเลยร่วมกันเอาสุรานั้นไปเป็นของตน โดยมีเจตนาทุจริต เช่นนี้ จำเลยย่อมมีความผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1302/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดยักยอกทรัพย์ของพนักงาน – อำนาจฟ้อง – ความผิดส่วนตัว vs. ความผิดที่อัยการฟ้องเองได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานยักยอกทรัพย์ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 314, 319 (1) (3), 63 โดยบรรยายฟ้องวา จำเลยที่ 1 เป็นเสมียนพัสดุประจำแขวงการทางจังหวัดมหาสารคาม จำเลยที่ 2 เป็นพนักงานช่างปรับซ่อมเครื่องยนต์และอยู่ในบังคับบัญชาของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ได้รับแต่งตั้งจากนายช่างโทกำกับแขวงการทางจังหวัดมหาสารคาม ให้เป็นพนักงานพัสดุ มีหน้าที่ควบคุมดูแลพัสดุต่าง ๆรวมทั้งหม้อน้ำรถยนต์ 3 ใบ ฯลฯ ดังนี้ เมื่อจำเลยเอาหม้อน้ำรถยนต์ไปขายแล้วยักยอกเงินนั้นเสีย การกระทำของจำเลยเป็นความประมวลกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 319 (1) อันเป็นความผิดส่วนตัว เมื่อผู้เสียหายไม่ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษจำเลยที่ 2 อัยการก็ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2
of 14