คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พิสูจน์ความผิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 154 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตนเองและทรัพย์สิน: โจทก์มีหน้าที่พิสูจน์ความผิด แม้จำเลยให้การรับสารภาพว่ากระทำผิดเพื่อป้องกัน
คดีที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ 10ปีขึ้นไปแม้จำเลยจะให้การภาคเสธรับว่าได้ใช้ปืนยิงผู้ตายโดยป้องกันชีวิตและทรัพย์ก็ยังเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้เป็นที่พอใจของศาลว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง
เมื่อจำเลยนำสืบได้ว่าผู้ตายกับพวกเป็นคนร้ายปล้นโคของจำเลยและขู่ว่าจะทำร้ายจำเลย ๆ จึงใช้ปืนยิงผู้ตาย ดังนี้ย่อมถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตและทรัพย์พอสมควรแก่เหตุ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1361/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาหลักฐานทางอ้อมและการพิสูจน์เจตนาฆ่า โดยปราศจากพยานรู้เห็นเหตุการณ์
ให้ศาลใช้ดุลพินิจวินิจฉัยชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานทั้งปวงอย่าพิพากษาลงโทษจนกว่าจะแน่ใจว่ามีการกระทำผิดจริงและจำเลยเป็นผู้กระทำผิดนั้น
โจทก์มีพยานแวดล้อมว่า "ก่อนเกิดเหตุครึ่งเดือนผู้ตายชกนายใบจำเลยเรื่องแย่งวิดปลาที่นาพ่อตาซึ่งผู้ตายเคยวิดมาทุกปีและในวันเกิดเหตุเวลาเย็นจำเลยทั้งสามถืออาวุธมาชวนผู้ตายไปดูข้าวที่นาซึ่งนายใบจำเลยเช่าพ่อตาผู้ตายทำ ผู้ตายได้ไปกับจำเลยทั้ง 3 โดยไม่มีอาวุธ ประมาณหุงข้าวสุกผู้ตายก็ถูกทำร้ายถึงตายที่นาพ่อตาทั้งนายจันนายวันจำเลยก็รับว่าได้ทำร้ายผู้ตายตายจริงอ้างว่าผู้ตายเข้าไปลักข้าวในนาและต่อสู้กัน แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสามมีบาดเจ็บเลย ส่วนบาดแผลของผู้ตายมีถึง 6 แห่ง ถูกทำร้ายด้วยของแข็งและมีคม หลักฐานพยานโจทก์แวดล้อมกรณีเหล่านี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าจำเลยสมคบกันฆ่าผู้ตายโดยเจตนา ดังนี้แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานเห็นจำเลยทั้งสามเป็นคนฆ่าผู้ตายก็ตาม ก็ลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 112/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าช้างป่า: การพิสูจน์ความผิดฐานฆ่าต้องแสดงเจตนาหรือความสามารถในการคาดการณ์ผล
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้รับอนุญาตให้จับช้างป่าแล้วไม่ชักลาก เป็นเหตุให้ช้างเหยียบย่ำทำร้ายกันเองจนตาย จำเลยต่อสู้ว่าไม่มีเจตนาฆ่า ช้างตายเพถราะทำการจับช้างไม่ทันท่วงทีโดยคาดเหตุการณ์ล่วงหน้าไม่ถูก โจทก์ไม่สืบพยานขอให้วินิจฉัยว่าพฤติการณ์เช่นว่านี้จำเลยมีความผิดหรือไม่
พฤติการณ์เช่นว่านี้ยังไม่ปรากฎว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าหรืออาจแลเห็นผลแห่งการกระทำนั้นได้จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานฆ่าช้างป่าโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1831/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความผิดฐานมีธนบัตรปลอมไว้เพื่อจำหน่าย: พฤติการณ์สำคัญประกอบการวินิจฉัย
ในคดีอาญาโจทก์มีหน้าที่ที่จะนำสืบพิสูจน์ความผิดของจำเลย แต่ความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 203(3) นั้นแยกเป็นสองฐาน คือฐานจำหน่ายธนบัตรปลอมโดยรู้และฐานมีไว้เพื่อจำหน่าย ความผิดฐานแรกโจทก์ต้องนำสืบถึงการจำหน่ายด้วย ความผิดฐานหลังนำสืบแต่เพียงว่ามีไว้เพื่อจะจำหน่ายก็เป็นความผิดได้แล้ว
การจะวินิจฉัยว่ามีธนบัตรปลอมไว้เพื่อจะจำหน่ายหรือเพื่ออย่างใดนั้นต้องประมวลพฤติการณ์ทั้งหลายที่ปรากฏในสำนวนประกอบแล้ววินิจฉัยเป็นเรื่องๆ ไป พฤติการณ์ที่จำเลยแสดงตนเป็นพระภิกษุแต่ใบสุทธิเป็นที่สงสัย ทำตนเป็นคนหากินทางขายเครื่องรางในวัด เจ้าอาวาสในวัดห้ามไม่ฟัง มีธนบัตรปลอมชนิดฉบับละ 100 บาท7 ฉบับในตัว ห่อไว้ต่างหากแยกจากห่อธนบัตรดี ดังนี้เป็นการเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่าจำเลยรู้ว่าเป็นธนบัตรปลอมและมีไว้เพื่อจำหน่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1133/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานทางอ้อมเพียงพอพิสูจน์ความผิดอาญา แม้ไม่มีพยานรู้เห็นเหตุการณ์
ศาลจะอาศัยพยานบุคคลและวัตถุพยานแวดล้อมกรณีลงโทษจำเลยก็ได้ เมื่อศาลได้ชั่งน้ำหนักพยานแล้วแน่ใจว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิด แม้คดีจะไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นขณะจำเลยลงมือกระทำผิดก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความผิดฐานลักทรัพย์แม้จำเลยรับสารภาพฐานรับของโจร ศาลต้องลงโทษตามความผิดที่พิสูจน์ได้
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์ หรือรับของโจรทรัพย์สิ่งของที่ใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์อันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองสิ่งที่ใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์ในภาวะคับขัน พ.ศ.2486 มาตรา 3 กำหนดโทษอย่างสูงไว้ถึงจำคุก 10 ปีขึ้นไป ดังนี้ แม้จำเลยรับสารภาพว่าได้กระทำผิดฐานรับของโจรแล้ว โจทก์ก็นำพยานมาสืบให้ศาลฟังพยานต่อไปได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 76 ได้ และเมื่อทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ อันเป็นความผิดที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ศาลก็ต้องลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามความผิดที่ได้กระทำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความผิดฐานชิงทรัพย์ จำเป็นต้องมีพยานหลักฐานชัดเจนว่าจำเลยเป็นผู้ลักทรัพย์โดยตรง หากไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ ศาลต้องยกฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเพื่อเป็นความสดวกในการที่จะลักทรัพย์ ครั้นแล้วจำเลยลักเอาธนบัตรของผู้เสียหาย ขอให้ลงโทษฐานชิงทรัพย์ เมื่อทางพิจารณาข้อมีว่าจำเลยลักเงินพยานหลักฐานไม่มี เป็นแต่ได้ความว่าจำเลยรัดคอผู้เสียหายล้มลง แล้วมีชายอื่นอีกคนหนึ่งเอามีดกรีดกระเป๋าผู้เสียหายขาด แล้วชายนั้นล้วงเอาเงินในกระเป๋าได้ และวิ่งหนีไปส่วนจำเลยพอลุกขึ้นได้ก็วิ่งตามหลังคนล่วงเงินลับตาไป ดังนี้ จะลงโทษจำเลยโทษฐานชิงทรัพย์ ไม่ได้ ศษลต้องพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1550/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบในคดีอาญา: จำเลยอ้างป้องกันตัว โจทก์ต้องพิสูจน์ความผิด
จำเลยต่อสู้ว่า กระทำเพื่อป้องกันตัว มีผลเท่ากับว่า จำเลยมิได้กระทำความผิด เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริงดังฟ้อง จึงจะลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1680/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีสุราเถื่อนกับกินสุราเถื่อนเป็นคนละฐาน แม้จำเลยรับสารภาพว่ากินสุรา แต่หากไม่ได้มีไว้ในครอบครอง โจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ความผิดฐานมีสุราได้
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยมีสุราที่ผิดกฎหมายไว้ในความครอบครอง และจำเลยได้กินสุราที่มีไว้นั้น จำเลยรับว่าได้กินสุรานั้นจริง ส่วนข้อมีสุราปฏิเสธ แล้วโจทก์ไม่สืบพยาน ดังนี้ โจทก์จะกลับมาโต้แย้งว่าต้องมีไว้ในครอบครองก่อนแล้ว จึงจะกินได้นั้นย่อมฟังไม่ขึ้นเพราะความผิดฐานมีสุราเถื่อนกับกินสุราเถื่อนนั้นเป็นคนละฐานแยกกันได้
พ.ร.บ.สุรา พ.ศ.2493 ไม่ได้บัญญัติความผิดฐานดื่มกินสุราผิดกฎหมายไว้ ฉะนั้นเมื่อผู้กระทำผิดฐานกินสุราผิดกฎหมายตามพ.ร.บ.ภาษีชั้นใน ถูกฟ้องขอให้ลงโทษฐานนี้ เมื่อใช้ พ.ร.บ.สุรา พ.ศ.2493 แล้ว ศาลจะลงโทษจำเลยฐานกินสุราผิดกฎหมายไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาพยานหลักฐานจากสภาพแสงจันทร์ในคดีอาญา การพิสูจน์ความผิดจากพยาน
ตามปรกติดวงจันทร์จะเริ่มขึ้นจากพิภพในวันไหนเวลาเท่าไร เป็นหน้าที่ของศาลจะต้องรู้ เพราะเป็นสิ่งที่เป็นไปตามวิสัยธรรมดาของโลกที่รู้กันอยู่ทั่วไป
of 16